ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ซักซ้อมแนวทางการช่วยเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติม

(10 ม.ค.55) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 15.00 น. : ดร.สมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ร่วมกับ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และผู้แทนจาก 50 สำนักงานเขต เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือกรณีการเยียวยาความเสียหาย ครัวเรือนละ 5,000 บาท และการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 ของกระทรวงการคลัง จำนวน 5 รายการ ได้แก่ กรณีบ้านเสียหายทั้งหลัง จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท กรณีบ้านเสียหายบางส่วน จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท กรณีผู้ประสบภัยเช่าบ้านของผู้อื่นและบ้านเช่าเสียหายทั้งหลังหรือบางส่วนจนอยู่อาศัยไม่ได้ ช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้านครอบครัวละไม่เกิน 1,500 บาท ไม่เกิน 2 เดือน กรณีทรัพย์สินซึ่งเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพและหรือเงินทุกประกอบอาชีพเสียหาย ครอบครัวละไม่เกิน 10,000 บาท และช่วยเหลือค่าจัดการศพรายละ 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวให้จ่ายอีก 25,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ลดจำนวนเอกสารและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น อีกทั้งประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้รับการช่วยเหลือเยียวยาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตามที่เคยประชุมซักซ้อมแนวทางปฏิบัติไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อเดือน พ.ย.และธ.ค.54
รองปลัดกทม. กล่าวว่า ที่ประชุมได้นำปัญหาและข้อร้องเรียนต่างๆ อาทิ กรณีบ้านบุกรุกพื้นที่สาธารณะมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ จำนวนเอกสารคำร้องมากเกินไป ภาพถ่ายความเสียหายจำเป็นหรือไม่ การมอบอำนาจ การใช้ใบแจ้งความเพื่อประกอบเป็นหลักฐาน เป็นต้น ซึ่งตนเองได้เน้นย้ำถึงการทำงานตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่าจะต้องให้ผู้ประสบอุทกภัยได้รับความสะดวกในการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนได้รับการช่วยเหลือและคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยในส่วนการรับเงินช่วยเหลือเนื่องจากบ้านเสียหายทั้งหลังหรือกรณีบ้านเสียหายบางส่วนนั้น แม้จะเป็นบ้านบุกรุกที่สาธารณะถือว่ามีสิทธิได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์หากเป็นผู้ประสบภัยพิบัติ และบ้านที่อาศัยอยู่ประจำได้รับความเสียหาย ซึ่งจะต้องนำเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง กรณีเงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้าน 1,500 บาท จะต้องมีเอกสารการเช่าบ้านหรือใบเสร็จรับเงินค่าเช่าบ้าน ทั้งนี้เฉพาะกรณีเงินช่วยเหลือด้านเครื่องมือประกอบอาชีพสูญหายนั้น ผู้ประสบภัยจะต้องไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจท้องที่ จากนั้นให้นำใบแจ้งความไปยื่นเป็นหลักฐานด้วย โดยประชาชนสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติม ณ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ รองปลัดกทม. กล่าวในส่วนของความคืบหน้ากรณีเงินช่วยเหลือเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาท ว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเขตรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากรับคำร้องจากประชาชนตั้งแต่เดือน พ.ย.54 ที่ผ่านมา และจะต้องบันทึกข้อมูลเพื่อส่งรายชื่อผู้ประสบอุทกภัยไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่ออนุมัติการจ่ายเงินให้ธนาคารออมสินดำเนินการต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น