ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลัด กทม. ตรวจความพร้อมเลือก ส.ส. เริ่มวันแรกคลองเตยและวัฒนา

วางแผนเดินสายตรวจความพร้อมจัดการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ตลอดเดือน มิ.ย. นี้ เริ่มต้นเขตคลองเตยกับวัฒนา เร่งสร้างความความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงานในทิศทางเดียวกันภายใต้กรอบของกฎหมายด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
(1 มิ.ย. 54) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตคลองเตย : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสุพจน์ ไพบูลย์ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตเลือกตั้งที่ 4 สำนักงานเขตคลองเตย และสำนักงานเขตวัฒนา เพื่อรับฟังแนวทางและแผนการดำเนินงาน รวมถึงหารือและเสนอแนะข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. 54 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม ปราศจากข้อร้องเรียน เป็นแบบอย่างที่ดีของการจัดการเลือกตั้งระดับอื่น อีกทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานการเลือกตั้ง สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงกันเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งที่มีการปรับปรุงใหม่ให้ทุกเขตมีแนวทางการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. ของสำนักงานเขตให้ครบ 50 เขต ในช่วงเดือน มิ.ย. 54 โดยในวันที่ 2 มิ.ย. กำหนดตรวจเยี่ยมสำนักงานเขตลาดกระบัง สำนักงานเขตสวนหลวง และสำนักงานเขตประเวศ
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เขตคลองเตยและเขตวัฒนามีความพร้อมเต็มที่ในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งด้านบุคลากรและวัสดุอุปกรณ์ ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคใดๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนวางตัวเป็นกลาง ไม่ทำอะไรที่เป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง พร้อมทั้งเร่งทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 3 ก.ค. 54 และไปใช้สิทธิลงคะแนนมากที่สุด โดยเฉพาะหน่วยเลือกตั้งใดที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็วเพื่อป้องกันความผิดพลาดเรื่องการเดินทาง อีกทั้งวันเลือกตั้งอยู่ในช่วงฤดูฝนสถานที่เลือกตั้งต้องมีความแข็งแรง และพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน การเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้ทำด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้
ด้านนายทวีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งนั้น ศูนย์ประชาสัมพันธ์สัมพันธ์การเลือกตั้ง กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ใหญ่ 4 ครั้งด้วยกัน ทุกเขตจัดกิจกรรมรณรงค์เคาะประตูให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 มิ.ย. นี้ โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อการลงพื้นที่เคาะประตูบ้านทุกหลังคาเรือนเพื่อเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุดนอกจากนี้ให้ทุกเขตจัดกิจกรรมรณรงค์เลือกตั้งต่อเนื่องสม่ำเสมอจะกว่าจะถึงวันเลือกตั้งโดยใช้งบประมาณการประชาสัมพันธ์อย่างคุ้มค่า ไม่ฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพุธที่ 1 มิถุนายน 2554

เวลา 08.30 น. แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการเครือข่ายโรงพยาบาลคุณภาพ สำนักการแพทย์ ครั้งที่ 6 ณ ห้องประชุมชั้น 20 โรงพยาบาลกลาง
เวลา 09.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการเตรียมการเลือกตั้งเขตคลองเตย และวัฒนา ณ ห้องประชุมสำนักงานเขตคลองเตย
เวลา 16.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามการปฏิบัติราชการของสำนักพัฒนาสังคม กทม. ณ ห้องเอราวัณ ศาลาว่าการกทม.

กทม. เสริมความรู้ด้านการจัดซื้อจัดจ้างแก้ปัญหาเบิกจ่ายล่าช้า

(31 พ.ค. 54) นางเพียงใจ วิศรุตรัตน รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ด้านการจัดซื้อ จัดจ้าง และการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการในสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร โดยมีข้าราชการและลูกจ้างซึ่งปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้าง และเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จาก 9 ส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 คน เข้าร่วมการอบรม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจัดการอบรมเสริมสร้างความรู้ฯ ขึ้น เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบฎีกา การจัดหาพัสดุ การเบิกจ่ายเงิน–การรับเงิน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความเข้าใจระเบียบ กฎหมาย ข้อบัญญัติที่เกี่ยวข้องตลอดจนเรียนรู้และจัดทำเอกสารประกอบฎีกาได้อย่างถูกต้อง เพื่อลดปัญหาความล่าช้าในการเบิกจ่าย

กทม. จัดโครงการ 100 ล้านความดี 100 ปีลูกเสือไทย ครั้งที่ 3

(31 พ.ค. 54) เวลา 08.30 น. : นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมความดี ครั้งที่ 3 โครงการ 100 ล้านความดี 100 ปีลูกเสือไทย เทิดไท้องค์พระประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ พร้อมมอบเข็มลูกเสือทำความดี แก่ลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายอรรถพร สุวัธนเดชา ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา คณะผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด พร้อมด้วย ลูกเสือ เนตรเนารี และยุวกาชาด รวมจำนวน 4,000 คน ร่วมงาน ณ โรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ
กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรมส่งเสริมความดี ครั้งที่ 3 โครงการ 100 ล้านความดี 100 ปีลูกเสือไทย เทิดไท้องค์พระประมุขคณะลูกเสือแห่งชาติ เพื่อให้ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 4,000 คน ร่วมทำกิจกรรมส่งเสริมความดี ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ธันวาคม 2554 และฉลองครบรอบการสถาปนา 100 ปี ลูกเสือไทย สำหรับการทำความดีเพื่อถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์พระประมุขคณะลูกเสือไทย ประกอบด้วย การทำความดีเบื้องต้น 3 ความดี ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่มีสิทธิได้รับ เข็มกลัดโครงการ 100 ล้านความดี 100 ปีลูกเสือไทย และสามารถรับ สมุดความดี เพื่อบันทึกการทำความดีตามโครงการฯ คนละอย่างน้อย 100 ความดี เมื่อลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด ทำความดีอย่างน้อยคนละ 100 ความดี โดยมี ผู้ลงนามรับรองการทำดี จะมีสิทธิประดับเข็มลูกเสือทำความดี เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติในการทำความดีของผู้นั้น อันเป็นเกียรติแก่ตนเองและครอบครัวต่อไป
สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมส่งเสริมความดีในหัวข้อ 100 ล้านความดี ทำดีเพื่อในหลวง นิทรรศการการทำความดีในรูปแบบต่างๆ อาทิ การค้นหาความดีผ่านต้นไม้ความดี และเกมส์การทำความดี อาทิ ฐานภูเขาไฟจำลอง ไฟฟ้าสถิต วงล้อหรรษา เปเปอร์มาเช่ และจิกซอว์สัมพันธ์ เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

พรบ.บัตรประชาชน 54 กำหนดให้ เด็ก 7 ขวบต้องมีบัตรประชาชน

‎1. มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ประกาศ 11 พฤษภาคม 2554 มีผลบังคับใช้ต้นเดือนกรกฎาคม) ระหว่างวันนี้ถึงต้นกรกฎาคม ยังไม่มีผลบังคับใช้
2. คนที่เดิมกฎหมายไม่บังคับให้ต้องมีบัตรประชาชน (เช่น คนที่อายุเจ็ดปีถึงสิบสี่ปี) จะได้รับการผ่อนผันยืดเวลา deadline ไปอีกหนึ่งปีนับจากวันที่มีผลบังคับใช้ และอาจผ่อนผันต่อไปอีกได้ (หมายความว่าทำได้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 54 ไปจนถึงต้นเดือนกรกฎา 55 โดยที่ไม่โดยไม่เสียปรับ)3. ค่าบริการในกรณีทำบัตรครั้งแรกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อาศัยความตามมาตรา 6
มาตรา ๖ ผู้ซึ่งต้องมีบัตรตามมาตรา ๕ ให้ยื่นคำขอมีบัตรต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่
(๑) วันที่อายุครบเจ็ดปีบริบูรณ์
(๒) วันที่ได้สัญชาติไทย สำหรับผู้ไม่ได้สัญชาติไทยโดยการเกิด หรือได้กลับคืนสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ
(๓) วันที่นายทะเบียนเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
(๔) วันที่พ้นสภาพจากการได้รับการยกเว้น
มาตรา ๖ ทวิ บัตรให้ใช้ได้นับแต่วันออกบัตรและมีอายุแปดปีนับแต่วันเกิดของผู้ถือบัตรที่ถึงกำหนดภายหลังจากวันออกบัตร บัตรที่ยังไม่หมดอายุในวันที่ผู้ถือบัตรมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ให้ใช้บัตรนั้นต่อไปได้ตลอดชีวิต
มาตร ๖ ตรี ผู้ถือบัตรต้องมีบัตรใหม่ โดยยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่บัตรเดิมหมดอายุ ผู้ถือบัตรจะขอมีบัตรใหม่ก่อนวันที่บัตรเดิมหมดอายุก็ได้ โดยยื่นคำขอต่อ
พนักงานเจ้าหน้าที่ภายในหกสิบวันก่อนวันที่บัตรเดิมหมดอายุ”
มาตรา ๖ จัตวา การขอมีบัตรใหม่หรือขอเปลี่ยนบัตร ของผู้มีอายุไม่ถึงสิบห้าปี ให้เป็นหน้าที่ของบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือบุคคลซึ่งรับดูแลผู้นั้นอยู่ เป็นผู้ยื่นคำขอแต่ไม่เป็นการตัดสิทธิบุคคลนั้น
ที่จะยื่นคำขอด้วยตนเอง”

ข้อดีคือ
-เอาบัตรเด็กไปใช้เมื่อรับบริการของรัฐ ผู้ปกครองไม่ต้องพกหลักฐานเอกสารอื่นๆให้ยุ่งยาก-ถ้าบัตรใบเดียวใช้ได้ทุกอย่างทุกที่ ก็ดีสำหรับเด็ก(และผู้ปกครอง)-อีกอย่างนึงคือ ปัจจุบันมีเด็กที่เกิดจากแรงงานต่างด้าวเยอะมาก การที่เด็กไทยมีบัตรประชาชนไว้แสดงตนจึงนับเป็นข้อดี
ข้อเสียคือ
-เด็กวัยนี้ทำของหายบ่อย ผู้ปกครองคงปวดตับถ้าต้องทำบัตรใหม่บ่อยๆ
-เพิ่มการใช้งบประมาณ

ประกาศผล “100 สุดยอดต้นไม้มหานคร” 5 มิ.ย.นี้



(30 พ.ค. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่กรุงเทพมหานคร จับมือกับกลุ่มโซเชียลมีเดีย “บิ๊กทรี” และกลุ่มภาคี อาทิ มูลนิธิโลกสีเขียว มูลนิธิสืบนาคะเสถียร กลุ่มหรี่เสียงกรุงเทพ ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม ทีวีไทย หนังสือพิมพ์มติชน นิตยสารสารคดี และ นิตยสาร a day จัดแคมเปญ "ต้นไม้มหานคร" (Bangkok Big Trees) เพื่อปลุกจิตสำนึกของชาวกรุงเทพฯ ในการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่และต้นไม้ที่มีคุณค่าในกรุงเทพฯ รวมทั้งสร้างความร่วมมือและเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้และร่วมดูแลต้นไม้ใหญ่ โดยส่งภาพถ่ายต้นไม้ใหญ่ที่มีคุณค่าเข้าประกวดพร้อมระบุรายละเอียดทางเว็บไซต์ http://www.bangkokbigtrees.com/ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม
กรุงเทพมหานครจึงเตรียมจัดงานประกาศผลการประกวดโครงการ “ต้นไม้มหานคร” (Bangkok Big Trees) ขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย. 54 ตั้งแต่เวลา 13.00–17.00 น. ณ สวนโมกข์กรุงเทพ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ในบริเวณสวนรถไฟ เขตจตุจักร สำหรับการประกวดแบ่งเป็น 4 ประเภท คือ ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีเกณฑ์ขั้นต่ำของเส้นรอบวง 2 เมตร วัดจากพื้นดิน 1.3 เมตร ต้นไม้สูงที่สุดในกรุงเทพฯ มีเกณฑ์ขั้นต่ำของความสูง 15 เมตร ต้นไม้สวยสมบูรณ์ที่สุดในกรุงเทพฯ และต้นไม้ทรงคุณค่าน่าประทับใจที่สุดในกรุงเทพฯ สองประเภทหลังนี้จะตัดสินจากผลโหวตของประชาชน โดยต้นไม้ที่ชนะการประกวดทุกต้น ทุกประเภท จะถูกพิมพ์ลงในหนังสือ 100 ต้นไม้มหานคร (100 Bangkok Big Trees) เพื่อบันทึกไว้เป็นหน้าประวัติศาสตร์และเผยแพร่ให้ประชาชนได้เรียนรู้ต่อไป
และเนื่องจากเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก กทม.จึงได้ร่วมกับภาคประชาชนจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความสนุกสนาน น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการ “100 ต้นไม้มหานคร” การให้ความรู้เกี่ยวกับ “ขยะแยกได้” จากโครงการ “ตาวิเศษ” กิจกรรมเกี่ยวกับการจัดการกับขยะและของเหลือใช้ ร้านค้าจากเครือข่ายตลาดสีเขียว ร้านผ้าย้อมสีธรรมชาติ “แม่ฑีต” และ “Walk on the wild side” ผลิตภัณฑ์ออแกนิคและวัสดุรีไซเคิล การสาธิตทำสวนแนวตั้ง การทำก้อนชีวภาพบำบัดน้ำ เวิร์คช้อป “การเกษตรในเมือง ใครๆ ก็ทำได้” พร้อมแนะนำธุรกิจสีเขียว “BiXenger” และจักรยานพับ “บุญไบค์” กิจกรรมดนตรีในสวนโดยวงดนตรีจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล การนำเสนอธุรกิจ Fair Trade ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการค้า นอกจากนั้นแล้วยังจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับต้นไม้ที่น่ารักๆจากผู้ที่ส่งต้นไม้เข้าประกวด อาทิ คุณ ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ คุณต้อมจากธนาคารไทยพานิชย์
และที่สำคัญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะร่วมกับประชาชนในการปาลูกระเบิดจุลินทรีย์ชีวภาพลงในสระน้ำหน้าหอจดหมายเหตุฯ พร้อมปลูกต้นไม้ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนในการจะดูแลสิ่งแวดล้อมในกรุงเทพมหานคร จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมได้ ตามวัน และเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. โทร. 0 2245 9714

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม 2554

08.30 น. นางเพียงใจ วิศรุตรัตน รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการทำความดีโครงการร้อยล้านความดี ร้อยปีลูกเสือไทย
ณ โรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม เขตภาษีเจริญ
13.30 น. นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการจัดซื้อจัดจ้างและเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการในสังกัดสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
14.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ Mr.Annette Dixon ตำแหน่ง Country Director, Thailand East Asia and Pacific Region จาก World Bank เข้าพบหารือเกี่ยวกับโครงการ Clean Technology Fund
ณ ห้องอัมรินทร์ กทม.

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ชวนคนกรุงร่วมทำความสะอาดต้อนรับวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย. นี้

กทม.จัดกิจกรรม “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ล้างทำความสะอาด 8 จุดหลักรอบศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนร่วมทำความสะอาดครั้งใหญ่เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย.
(29 พ.ค.54) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร : ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมตามโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตพระนคร จัดขึ้น โดยดำเนินการล้างทำความสะอาด จัดเก็บขยะ ปรับภูมิทัศน์ และตัดแต่งต้นไม้ รอบบริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร บริเวณถนนบำรุงเมืองตั้งแต่ถนนดินสอ – ศาลเจ้าพ่อเสือ และรอบบริเวณวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรวิหาร เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day) 5 มิถุนายน ของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันที่เราทุกคนจะต้องตระหนักและสร้างเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ในฐานะผู้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยกำหนดให้ปี 2554 เป็นปีสากลแห่งการอนุรักษ์ป่าไม้ (International Year of Forest) และกำหนดให้ช่วงปี 2011 – 2020 เป็นทศวรรษแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ (Decade of Biodiversity) โดยเริ่มต้นจากปี 2010 ซึ่งคำขวัญอย่างเป็นทางการในปีนี้คือ “Forest : Nature at Your Service – ป่าไม้มีคุณ เกื้อหนุนสรรพชีวิต คิดถนอมรักษา” โดยเน้นสื่อสารให้ทุกคนรู้ว่าแต่ละคนสามารถช่วยโลกได้ด้วยการลงมือปฏิบัติ
สำหรับพื้นที่ดำเนินการแบ่งออกเป็น 8 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บริเวณลานคนเมือง และถนนทางขึ้น – ลง จุดที่ 2 บริเวณภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 1 (เสาชิงช้า) จุดที่ 3 ถนนทางเท้ารอบศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 1 (เสาชิงช้า) จุดที่ 4 ถนนดินสอทั้ง 2 ฝั่ง คือ จากหัวมุมถนนราชดำเนินถึงเสาชิงช้า และจากหน้าโบสถ์พราหมณ์ถึงแยกหัวมุมถนนราชดำเนิน (หน้าบริษัท เมืองโบราณ จำกัด) จุดที่ 5 ถนนทุกสายในพื้นที่ดำเนินการทั้งหมด จุดที่ 6 บริเวณคลองหลอดวัดราชนัดดา จุดที่ 7 ถนนมหรรณพทั้งสองฝั่ง จากแยกถนนดินสอถึงหน้าศาลเจ้าพ่อเสือ และจุดที่ 8 สวนหย่อมข้างวัดสุทัศน์เทพวราราม หน้าโรงเรียนเบญจมราชาลัยถึงสวนรมณีนาถ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สิ่งแวดล้อมมีความสำคัญควรที่ทุกคนจะหันมาปรับพฤติกรรมของตนและเคารพในคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มต้นด้วยการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น การรักษาความสะอาดที่พักอาศัย ไม่ทิ้งขยะตามที่สาธารณะ และการแยกขยะภายในบ้านเรือน เป็นต้น ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างง่ายๆ รอบตัวเรา ที่ทุกคนสามารถทำได้ในทุกๆ วัน ซึ่งนอกจากทำความสะอาดในวันนี้แล้ว กรุงเทพมหานครจะดำเนินการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ในวันที่ 10 มิถุนายน 2554 ณ ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช เขตประเวศ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์เพื่อปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานคร ตามโครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม” ขึ้นระหว่างวันที่ 15 พ.ค. – 4 มิ.ย. 54 โดยการรณรงค์รักษาความสะอาด พร้อมจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การส่งเสริมการคัดแยกมูลฝอย โดยการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการจัดการมูลฝอยและวัสดุรีไซเคิลแบบครบวงจรในเขตจตุจักร ระหว่างกรุงเทพมหานครกับมูลนิธิโคคา – โคลา ประเทศไทย และสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกิจกรรมส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการมอบรางวัลการประกวดต้นไม้ใหญ่ในกรุงเทพฯ (Bangkok Big Trees) ในวันสิ่งแวดล้อมโลก

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ปลัดกทม.แจงการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่ง “เจ้าพนักงานธุรการ 2”

ปลัดกทม.แจงการบรรจุแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่ง “เจ้าพนักงานธุรการ 2”

(27 พ.ค.54) นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเหตุกรณีที่ยังไม่อาจบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 2 ซึ่งสอบได้ตั้งแต่ลำดับที่ 109 ว่า การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการต้องบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ในบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ และขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการบรรจุ ผู้สอบแข่งขันตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการ 2 เข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครไปแล้ว 108 คน สำหรับลำดับที่ 109 ผู้สอบแข่งขันได้ เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครจึงได้มีหนังสือหารือปัญหาข้อกฎหมายต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับสถานภาพของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานครว่ายังคงสังกัดอยู่กับกรุงเทพมหานคร หรือสังกัดมหาวิทยาลัยตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2553 เนื่องจากวิธีการดำเนินการแต่งตั้งจะแตกต่างกัน ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่าข้าราชการดังกล่าวอยู่ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานครจะสั่งแต่งตั้งโดยวิธีการย้าย แต่ถ้าเป็นข้าราชการในสังกัดมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ต้องดำเนินการโดยวิธีการรับโอน ทั้งนี้ต้องได้รับความยินยอมจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นต้นสังกัดและมหาวิทยาลัยมีคำสั่งให้โอนก่อน กรุงเทพมหานครจึงจะสามารถดำเนินการรับโอนและบรรจุแต่งตั้งได้

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้เชิญกรุงเทพมหานครไปชี้แจงเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทำคำวินิจฉัย และรอผลการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่กรุงเทพมหานคร ผู้สอบแข่งขันได้ รวมถึงผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากหากดำเนินการไปโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลที่ดำเนินการไปจะตกเป็นโมฆะ ซึ่งจากการสอบถามเป็นการภายในคาดว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะแจ้งผลการวินิจฉัยให้ทราบประมาณเดือนมิถุนายน 2554 เมื่อกรุงเทพมหานครได้รับแจ้งผลแล้ว จะเร่งรัดดำเนินการบรรจุแต่งตั้งให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยผู้สอบแข่งขันที่ขึ้นบัญชีไว้จะได้รับการบรรจุแต่งตั้งทั้งหมด เนื่องจากขณะนี้ตำแหน่งดังกล่าวมีอัตราว่างถึง 400 อัตรา แต่มีผู้สอบแข่งขันได้เพียง 200 คนเท่านั้น

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
*****************
เวลา 09.00 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาก่อนเกษียณอายุราชการ ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท

เวลา 10.00 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดธนาคารออมสิน สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ณ สนง.สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 4

เวลา 10.00 น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางการพัฒนาการให้บริการศูนย์กทม. 1555 ครั้งที่ 2/2554 ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกทม.

เวลา 15.30 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการสถานีดับเพลิงฯ ณ ห้องเทพพนม ชั้น 2 โรงแรมเวียงใต้

เวลา 16.00 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานโครงการโรงเรียนสีขาวหลักสูตร “โตไปไม่โกง” ณ ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลป์ กทม.

สผม. ให้บริการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินผ่านเว็บไซต์

น.ส.อัญชลี ปัทมาสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. แจ้งว่า สำนักผังเมืองได้ปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของสำนักผังเมือง โดยการจัดเพิ่มหน้าเว็บบอร์ดการให้บริการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อบริการประชาชน เจ้าของที่ดิน และผู้ประกอบการให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งผู้ขอตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละบริเวณสามารถดำเนินการตรวจสอบได้ที่ http://cpd.bangkok.go.th/default.asp หรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ E-Mail : UCD1285@gmail.com ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม และปรับปรุงเว็บบอร์ดเป็นประจำทุกวัน และตอบข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครภายใน 2 วันทำการ

กทม. บวงสรวงสถานที่ก่อสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน

(25 พ.ค. 54) เวลา 09.09 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีทำบุญและพิธีบวงสรวงสถานที่ก่อสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน กทม. เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินการก่อสร้าง ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้าง ถนนบางขุนเทียน – ชายทะเล กม.10 ซึ่งเป็นที่ดินที่จะใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน กทม. โดยกรุงเทพมหานครได้รับการบริจาคที่ดิน จำนวน 2 แปลง จากนางพรทิพย์ วงศ์ศิริเดช และนางสาวอุไรศรี คนึงสุขเกษม รวมพื้นที่ 34 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 52 เพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่เขตบางขุนเทียนตามวัตถุประสงค์ของมารดาผู้บริจาค
สำหรับศูนย์เวชศาสตร์และโรงพยาบาลบางขุนเทียน จะมุ่งเน้นให้บริการด้านผู้สูงอายุครบวงจร ขนาด 100 เตียง และศูนย์รักษาโรคทั่วไป ขนาด 200 เตียง ซึ่งตามแผนจะสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนในระยะแรกประมาณปลายปี 55 โดยคลอบคลุมการให้บริการรักษาพยาบาลในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตทุ่งครุ เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รวมประมาณ 800,000–900,000 คน ซึ่งในการดำเนินการจัดสร้างนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับเป็นองค์ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา และสมเด็จพระวันรัตรับเป็นประธานดำเนินการ โดยกทม. ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินกว่า 2,200 ล้านบาท
ทั้งนี้กทม. ได้รับอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 เงินอุดหนุนรัฐบาล สำหรับก่อสร้างคันกั้นน้ำศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน เป็นจำนวนเงิน 50 ล้านบาท เพื่อเตรียมพื้นที่และปรับสภาพดินให้พร้อมสำหรับการก่อสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน ในปลายปี พ.ศ. 2554 โดยจะดำเนินการก่อสร้างเป็นเขื่อน ค.ส.ล. ความยาว 753 เมตร แกนกลางเป็นคอนกรีตและถมดินด้านใน ซึ่งสำนักการแพทย์ได้ดำเนินการจัดหาผู้จัดสร้างโดยวิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และผู้ชนะการประมูลได้แก่ บริษัท ดีไซน์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับจ้างเหมาก่อสร้างคันกั้นน้ำในวงเงิน 32.4 ล้านบาท โอกาสเดียวกันนี้ กรุงเทพมหานครได้เปิดรับบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน และจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ อีกทั้งรับบริจาคเงินค่าแผ่นทองและค่าทองเหลืองแท่ง เพื่อใช้ในการหล่อพระประธานประจำศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานนามพระประธานว่า “พระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช” มีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าผู้ทรงรุ่งเรืองในการช่วยเหลือประชากรด้วยธรรมโอสถ

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บางกอกใหญ่และธนบุรีตั้งศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส.

เขตบางกอกใหญ่ นายจีรศักดิ์ บุญโชคช่วย ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กทม. แจ้งว่า เขตฯ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตบางกอกใหญ่ขึ้น ที่ห้องประชุมชั้น 3 และสำนักงานศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ที่ฝ่ายปกครอง ชั้น 2 เพื่อเป็นสำนักงานในการสนับสนุนติดต่อประสานงาน การควบคุม การวางแผน วินิจฉัยสั่งการ การแก้ไขปัญหาอุปสรรค ฯลฯ เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ยุติธรรม ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมายและทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนดอย่างมีประสิทธิภาพ โทร.0 2457 0069 ต่อ 5705-7 , 0 2868 1265-6, โทรสาร 0 2868 2480
อนึ่ง เขตฯ มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 101 หน่วย แยกออกเป็น 2 แขวง คือ แขวงวัดอรุณ 20 หน่วย และแขวงวัดท่าพระ 81 หน่วย
เขตธนบุรี นายระบิล ปานแม้น ผู้อำนวยการเขตธนบุรี แจ้งว่า เขตฯ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ณ ห้องประชุม ชั้น 4 สำรวจหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 144 หน่วย จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และจัดเตรียมสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง

กทม.อนุญาต 14 จุดใช้ปราศรัยหาเสียง ส.ส.

นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การอนุญาตให้ใช้สถานที่ของกรุงเทพมหานครในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อให้การปราศรัยหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. หรือพรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ 1.ลานคนเมือง เขตพระนคร 2.สวนจตุจักร เขตจตุจักร 3.สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร 4.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน 5.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย 6.บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตธนบุรี 7.สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด 8.ศูนย์เยาวชนสะพานพระราม 9 (ฝั่งธนบุรี) เขตราษฎร์บูรณะ 9.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน 10.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 11.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 12.สวนสุขภาพ เขตประเวศ 13.ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ และ 14.สวนสาธารณะ หน้าเดอะมอลล์บางแค เขตบางแค สำหรับสถานที่ที่ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ สนามหลวง เขตพระนคร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร และสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ
ทั้งนี้ ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ที่ประสงค์จะใช้สถานที่ของกรุงเทพมหานครในการปราศรัยหาเสียง ให้ยื่นคำร้องขออนุญาตใช้สถานที่ต่อปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง กทม. ชั้น 5 สำนักงานปกครองและทะเบียน เป็นการล่วงหน้าก่อนเข้าใช้สถานที่ไม่น้อยกว่า 3 วัน สอบถามโทร.0 2224 2945

สภากทม.ให้การต้อนรับคณะสภาเยาวชนกทม.ดูงานปกครองส่วนท้องถิ่น

สภากทม. ให้การต้อนรับคณะสภาเยาวชนกทม.ในโอกาสศึกษาดูงานรูปแบบการปกครองท้องถิ่นและภาระหน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเพื่อนำไปใช้ในการเสริมความรู้ด้านการศึกษา
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมนายวิรัช คงคาเขตร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางกอกใหญ่ นางสาวอุไร อนันตสิน สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตปทุมวัน ร่วมให้การต้อนรับคณะสภาเยาวชนกรุงเทพมหานคร จำนวน 100 คน ในโอกาสศึกษาดูงานรูปแบบการปกครองท้องถิ่นและภาระหน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเพื่อนำไปใช้เสริมความรู้ด้านการศึกษา ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สภากรุงเทพมหานครเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารกรุงเทพมหานคร และมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของท้องถิ่น รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีทำให้เกิดความมั่นคงและเจริญก้าวหน้า ทั้งนี้ สภากรุงเทพมหานครในฐานะเป็นองค์กรนิติบัญญัติของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร เป็นผู้เลือกตั้งเข้ามา ปัจจุบันมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้งสิ้น 61 คน โดยมีหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบการบริหารงานของฝ่ายบริหาร รวมทั้งประชุมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานกรุงเทพมหานครเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เสนอญัตติและพิจารณาให้ความเห็นชอบในการตราข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เป็นต้น
พร้อมกันนี้ประธานสภากรุงเทพมหานครยังได้กล่าวชื่นชมคณะสภาเยาวชนกรุงเทพมหานครว่าเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญและสนใจการเมืองซึ่งถือเป็นเรื่องใกล้ตัว ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังหลักสำคัญในการบริหารกรุงเทพมหานครและประเทศชาติต่อไป

บนต.13 เสนอผลงานการศึกษา เลือกใช้บริการทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกทม. ของข้าราชการกรุงเทพมหานคร

ดร.หรรษารมย์ โกมุทผล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า กทม. ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตรผู้บริหารมหานครระดับต้น (บนต.) รุ่นที่ 13 ซึ่งนอกจากผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้แนวคิดและทักษะทางการบริหารงาน ตลอดจนปรับเปลี่ยนทัศนคติในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้รับบริการแล้ว ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้จัดทำรายงานการศึกษาเรื่อง “ความต้องการการบริการด้านรักษาพยาบาล ของข้าราชการกรุงเทพมหานครในโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานคร” เพื่อศึกษาถึงการเลือกใช้บริการด้านการแพทย์ของข้าราชการกรุงเทพมหานคร และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการ เพื่อนำไปพัฒนางานของโรงพยาบาลในสังกัดให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อันจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของข้าราชการและลูกจ้างในสังกัด รวมทั้งประชาชนกรุงเทพมหานครสอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) ที่ต้องการให้ประชาชนโดยรวมมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร บนต.รุ่นที่ 13 จะนำเสนอผลงานดังกล่าวในวันที่ 2 มิ.ย. 54 ระหว่างเวลา 09.30-12.00 น. ณ ห้องเทพประทาน โรงแรมเวียงใต้ เขตพระนคร โดยสถาบันฯ ได้เรียนเชิญคณะผู้บริหาร ซึ่งกำกับดูแลและรับผิดชอบงานด้านการแพทย์ของกรุงเทพมหานครและผู้เกี่ยวข้องเข้ารับฟังการนำเสนอรายงานการศึกษาดังกล่าว จึงขอเชิญชวนเพื่อนข้าราชการและประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายตามวันและเวลาดังกล่าว (สำรองที่นั่งได้ที่ 0 2621 1521)

วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รณรงค์ต่อเนื่อง สร้างโรงเรียนเขตปลอดบุหรี่

กทม. จับมือมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเวทีสัมมนาแนวทางเดินหน้าโรงเรียนนำร่องปลอดบุหรี่ พร้อมจัดสัปดาห์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในหน่วยงานในสังกัด เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 54 ชวน ลด ละ เลิก บุหรี่ ปลุกกระแสคุ้มครองสุขภาพ พิทักษ์สิทธ์ ปกป้องเยาวชน และนักสูบหน้าใหม่ภายใต้คำขวัญ“พิทักษ์สิทธ์ตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่”
(24 พ.ค. 54) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว “การจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2554” และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการการดำเนินงานโรงเรียนนำร่องปลอดบุหรี่ โดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและบำบัดการติดยาเสพติด สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)

นำร่อง 6 โรงเรียนกทม. ต้นแบบปลอดบุหรี่
กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จัดกิจกรรมเนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. 54 โดยจัดโครงการโรงเรียนนำร่องปลอดบุหรี่ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 6 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนบำรุงรวิวรรณวิทยา เขตดอนเมือง โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ โรงเรียนมัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง โรงเรียนคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และโรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ เขตบางบอน เพื่อรณรงค์ ส่งเสริมให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมายอย่างจริงจัง และขับเคลื่อนให้เกิดโรงเรียนนำร่องปลอดบุหรี่อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นต้นแบบแก่โรงเรียนอื่นๆ พร้อมกันนี้ได้จัดสัมมนาโรงเรียนนำร่องปลอดบุหรี่ เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกันระหว่างครูเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินโครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ครอบคลุมโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 436 แห่ง ต่อไป
จัดสัปดาห์ชวนเลิกบุหรี่ 30 พ.ค. – 3 มิ.ย. 54
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครกำหนดจัดสัปดาห์รณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. - 3 มิ.ย. 54 ณ สำนักงานเขต 50 แห่ง โรงเรียน 436 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลสังกัดกทม. 9 แห่ง โดยจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนลด ละ เลิกบุหรี่ ตระหนักถึงโทษและพิษภัยของบุหรี่ที่มีสารพิษกว่า 4,000 ชนิด เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ อาทิ โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจ โรคมะเร็งปอด ซึ่งได้รับความร่วมมือสนับสนุนสื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์จากมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

พบนักสูบหน้าใหม่เป็นเยาวชนและผู้หญิงเพิ่มขึ้น
พญ.มาลินี กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้วันที่ 31 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยปีนี้องค์การอนามัยโลก กำหนดประเด็นการรณรงค์ว่า “The Framework Convention On Tobacco Control (WHO FCTC)” ภาษาไทย คือ “พิทักษ์สิทธ์ตามกฎหมาย มุ่งสู่สังคมไทยปลอดบุหรี่” ซึ่งจากการสำรวจสถานการณ์การสูบบุหรี่ในปี 2552 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าภาพรวมทั้งประเทศประชากรไทยมีแนวโน้มสูบบุหรี่ลดลง แต่มีอัตราของนักสูบบุหรี่หน้าใหม่ อายุ 15-24 ปี เพิ่มขึ้นจาก 1.60 ล้านคน เป็น 1.67ล้านคน จะเห็นได้ว่าปริมาณของผู้สูบบุหรี่ที่เป็นเด็กและเยาวชนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้สูบที่เป็นวัยรุ่นหญิงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 4.8 และคาดว่าในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้สูบบุหรี่ 1 ล้านคน ทั้งประเทศประมาณ 12 ล้านคน แนวโน้มผู้สูบเป็นเยาวชนและผู้หญิงเพิ่มขึ้น

สิงห์อมควันปรึกษาและบำบัดฟรีที่ศูนย์บริการสาธารณสุข และโรงพยาบาลสังกัด กทม.
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญและมีนโยบายลดการสูบบุหรี่และพิทักษ์สิทธิ์ผู้ไม่สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ดำเนินโครงการสถานที่สาธารณะลดควันบุหรี่โดยนำร่อง 2 พื้นที่เขต ได้แก่ เขตราชเทวี และเขตห้วยขวาง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่าย บังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2553 เรื่องกำหนดชื่อหรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ และกำหนดส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสถานที่สาธารณะดังกล่าวเป็นเขตสูบบุหรี่หรือเขตปลอดบุหรี่อย่างจริงจัง รวมถึงเน้นย้ำให้ส่วนราชการของกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข โรงพยาบาล สถานศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร และสถานที่สาธารณะ หมั่นสอดส่อง ดูแล ตรวจตรา ไม่ให้มีการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ในสถานที่ดังกล่าว หากพบเห็นผู้กระทำผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้ที่ ศูนย์รับแจ้งทุกข์ของกรุงเทพมหานคร โทร. 1555 ได้ 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่สามารถขอรับคำปรึกษาและเข้ารับการบำบัดได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 68 แห่ง และโรงพยาบาลสังกัดกทม. 9 แห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ผู้ว่าฯกทม.เปิดงานครบรอบ 113 ปี โรงพยาบาลกลาง พร้อมเยี่ยมการรักษาสาวอ้วนหนัก 274.1 กก.

(24 พ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานวันครบรอบ 113 ปี แห่งการสถาปนาโรงพยาบาลกลาง พร้อมตรวจเยี่ยมการรักษา น.ส.อำนวยพร ทองประไพ โดยมี พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายพีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ แพทย์และพยาบาล ร่วมงาน ณ ห้องประชุมชั้น 20 อาคารอนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลกลาง
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้พระราชทานที่ดินและพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการก่อสร้างโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2441 ปัจจุบันโรงพยาบาลกลางมีอายุครบ 113 ปี โดยเป็นสถานพยาบาลที่ให้บริการบำบัดรักษาผู้ป่วย การส่งเสริมสุขภาพอนามัยและป้องกันโรค โดยได้มีการปรับปรุงพัฒนาด้านการบริการให้ทันสมัย มุ่งเน้นการบริการทางสุขภาพตั้งแต่เด็กในครรภ์มารดาจนถึงผู้สูงอายุ ให้บริการตรวจสุขภาพประจำปีแก่ประชาชน การบริการผู้ป่วยหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และแพทย์ฉุกเฉินแก่ผู้เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ จนผ่านการรับรองกระบวนการคุณภาพโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 53 และได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากสถาบันพัฒนาตามมาตรฐานสากล อันก่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงต่อประชาชนผู้มาใช้บริการ
สำหรับพิธีภายในงานประกอบด้วย การถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ การมอบของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการ และลูกจ้างดีเด่นประจำปี 2554 การมอบทุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการและลูกจ้าง การเปิดนิทรรศการทางการแพทย์ การปาฐกถาพิเศษ เรื่อง แผ่นดินไหว ภัยใกล้ตัว โดย ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย(AIT) และการบรรยายวิชาการตลอดทั้งวัน
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ตรวจเยี่ยมการรักษา น.ส.อำนวยพร ทองประไพ ซึ่งป่วยเป็นโรคอ้วนและ มีน้ำหนักถึง 274.2 กก. หลังจากทีมสหสาขาวิชาชีพโรงพยาบาลกลางทำการรักษาเป็นเวลา 8 เดือน พบว่าน้ำหนักตัวลดลงเหลือ 177.1 กก. หรือลดน้ำหนักได้ถึง 97 กก. และเพื่อการรักษาให้ได้ผลและยั่งยืน ทีมสหสาขาวิชาชีพโรงพยาบาลกลางโดยความร่วมมือของที่ปรึกษาจากศิริราชพยาบาลร่วมดูแลผู้ป่วย จึงได้ทำการผ่าตัดกระเพาะ (Sleeve Gastrectomy) โดยใช้กล้องเจาะผ่านหน้าท้องในการทำผ่าตัด เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา ซึ่งผลการผ่าตัดเป็นที่พอใจของแพทย์ ไม่พบภาวะแทรกซ้อน ทั้งนี้โรงพยาบาลตั้งเป้าหมายว่าน้ำหนักของ น.ส.อำนวยพร จะลดลงอยู่ประมาณ 110-120 กก. สำหรับแนวทางการรักษาในอนาคตต่อไป จะเน้นการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเผาผลาญพลังงาน อีกทั้งให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเพื่อสามารถควบคุมน้ำหนักได้ด้วยตนเองต่อไป

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส. 2554

การลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด จัดเพียง 1 วัน คือ : วันที่ 26 มิถุนายน 2554 เวลา 08.00-15.00 น. สถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า : ณ ที่เลือกตั้งกลางของแต่ละจังหวัด จังหวัดละอย่างน้อย 1 แห่ง ยกเว้นกรุงเทพมหานคร มีทุกสำนักงานเขต

ผู้ประสงค์ที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดจะต้องทำอย่างไร

ผู้ที่ทำงานหรืออาศัย อยู่คนละจังหวัดกับที่ผู้นั้นมีชื่อในทะเบียนบ้านหรือผู้มีชื่ออยู่ใน ทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง (เพิ่งย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาใหม่) ไม่ถึง 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง สามารถไปลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลาง ของจังหวัดที่ท่านทำงานหรืออาศัยอยู่ได้ แต่ต้องยื่นคำขอลงทะเบียนเพื่อขอใช้ สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้ง 30 วัน (วันสุดท้าย 2 มิ.ย.54) สำหรับผู้ที่เคยลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ไว้แล้วโดยไม่ได้ขอเปลี่ยนแปลงที่ลงคะแนน ก็สามารถไปขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตามวันเวลาที่กำหนดได้เลย

เอกสารที่ต้องเตรียมยื่นลงทะเบียนนอกเขตจังหวัด

1.คำขอลงทะเบียนการใช้ สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด (ขอรับได้ที่ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งหรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัด หรือโหลดได้ จาก www.ect.go.th) (แบบ ส.ส. 42)

2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาบัตรที่มีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้และมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก

หมายเหตุ สามารถ ยื่นรวมกันเป็นกลุ่มได้ โดยใช้คำแบบ ส.ส.42/ก หรือทำเป็นหนังสือที่มี ชื่อ-สกุล เลขประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้านใน เขตเลือกตั้ง และจังหวัดที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครั้งสุดท้ายเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน

วิธีการยื่นคำขอลงทะเบียนนอกเขตจังหวัด

ยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอ/นายทะเบียนท้องถิ่น ก็คือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตของ กทม. นายอำเภอ หรือปลัดเทศบาล โดยมีวิธีการยื่น 3 ทาง คือ

1 ยื่นด้วยตนเอง

2 ทำหนังสือมอบหมายให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอื่นดำเนินการแทน

3 ส่งทางไปรษณีย์ (ดูตราประทับต้นทางเป็นสำคัญ)

ระยะเวลาในการลงทะเบียน วันที่ 10 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2554

การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง

ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้าน ตามทะเบียนบ้าน ที่ต้องเดินทางออกนอกเขต ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ในวันเลือกตั้ง ก็สามารถไปแสดงตนเพื่อขอลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้า ได้ ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้ง โดยต้องยื่นคำขอลงทะเบียนต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ตามวันเวลาที่กำหนด (วันที่ 13-17 มิถุนายน 2554)

การลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่อยู่ต่างประเทศต้องขอลงทะเบียนใช้สิทธินอกราชอาณาจักรก่อนวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่า 30 วัน (ระหว่างวันที่ 10 พ.ค.-2 มิ.ย. 54) ไปลงคะแนนล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 17-26 มิ.ย. 54 ณ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลหรือลงคะแนนทางไปรษณีย์นั้น (ตามที่สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุลกำหนด)

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดงานครบรอบ 113 ปี แห่งการสถาปนา รพ.กลาง ณ ห้องประชุมชั้น 20 โรงพยาบาลกลาง
09.00 น. นายชาตินัย เนาวภูต รองปลัดกรุงเทพมหารนคร เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาข้าราชการครู และบรรยายพิเศษ พร้อมมอบโล่แก่ข้าราชการครูที่เกษียณอายุราชการ ณ ห้องเซ็นทรัลฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2
10.30 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีแถลงข่าววันงดสูบบุหรี่โลก ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ประกาศสถานที่ และวิธีการปิดป้ายหาเสียงในเขตกทม.

กทม.เปิดทางผู้สมัครติดป้ายหาเสียงในศาลาว่าการ และ 50 สำนักงานเขต พร้อมออกประกาศอนุญาตติดป้ายหาเสียงในที่สาธารณะทุกแห่ง ยกเว้นสถานที่และถนนสายสำคัญ ป้ายสัญญาณไฟ เกาะกลางถนน อนุสาวรีย์ สะพานและสะพานลอย หากพบฝ่าฝืนหรือติดป้ายกีดขวางเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กทม.และเขตมีสิทธิเก็บ ย้าย หรือรื้อถอนโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 พ.ค.54 เรื่อง กำหนดสถานที่ หลักเกณฑ์และวิธีการปิดประกาศและติดแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างเท่าเทียม ได้แก่ บริเวณศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยให้ผู้สมัครหรือตัวแทนพรรคการเมืองนำไปมอบให้ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งฯ ชั้น 5 สำนักงานปกครองและทะเบียน ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) และบริเวณสำนักงานเขตทุกแห่ง นำไปมอบให้ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งตั้งอยู่ ณ ฝ่ายปกครองของทุกสำนักงานเขต ตามขนาดและจำนวนที่กำหนดไว้ในประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อปิดประกาศภายในหน่วยงานหรือส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ กทม.อนุญาตให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และพรรคการเมือง ปิดประกาศหาเสียงในบริเวณที่สาธารณะทุกแห่ง ยกเว้น เกาะกลางถนน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน สะพานลอยคนเดินข้าม สะพานลอยรถข้าม รวมทั้งส่วนประกอบของสะพาน รั้ว และแผงเหล็กริมถนน ป้ายจราจรและสัญญาณไฟจรจร ป้ายประกาศของทางราชการ รั้ว กำแพง หรือผนังอาคารของทางราชการ ศาลาที่พักผู้โดยสาร ตู้โทรศัพท์ ตู้ไปรษณีย์ อนุสาวรีย์ ป้อมตำรวจ สุขาสาธารณะ สนามหลวง สวนหย่อม สวนสาธารณะ วงเวียนทุกวงเวียน ถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถนนโดยรอบพระราชวังสวนจิตรลดา ลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินใน ทั้งนี้ให้ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองที่ประสงค์จะปิดประกาศ ณ สถานที่ที่อนุญาต แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือขอปิดประกาศต่อศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส. ตั้งอยู่ที่ฝ่ายปกครองของทุกสำนักงานเขต
สำหรับการปิดประกาศและแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงในที่สาธารณะ จะต้องไม่ทากาว หรือทาแป้งเปียก ทา พ่น ระบายสี หรือตอกตะปูเป็นอันขาด และจะต้องไม่ติดในลักษณะแขวนเป็นราว หรือเรียงต่อกันเป็นแถว หรือเป็นกลุ่ม หรือปิดทับแผ่นป้ายของผู้สมัคร ส.ส.รายอื่น และของทางราชการ รวมทั้งต้องไม่กีดขวางทางสัญจร ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน หรือยานพาหนะ ปิดบังป้ายและสัญญาณไฟจราจร หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ หากฝ่าฝืน กทม.และสำนักงานเขตมีสิทธิในการพิจารณาสั่งเก็บ ย้าย หรือรื้อถอนแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงโดยมิต้องแจ้งให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งทราบล่วงหน้า อีกทั้งเมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้สมัครและพรรคการเมืองจะต้องจัดเก็บป้ายหาเสียงให้หมดภายใน 3 วันนับแต่วันเลือกตั้ง เพื่อความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

กทม. พร้อมรับมือเลือกตั้ง ส.ส. รูปแบบใหม่

จัดสัมมนาให้ความรู้การเลือกตั้ง ส.ส. ตามกฎหมายใหม่แก่บุคลากรในสังกัด มุ่งเป็นต้นแบบการจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นกลาง พร้อมส่งเสริม สนับสนุนข้าราชการและลูกจ้างไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุกคน

(21 พ.ค. 54) นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ เขตปทุมวัน ว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามประกาศ คำสั่ง และระเบียบเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค. 54 ให้แก่ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หัวหน้าฝ่ายปกครอง และหัวหน้าฝ่ายทะเบียน จาก 50 สำนักงานเขต สามารถจัดการเลือกตั้งด้วยความเรียบร้อย รอบคอบ สำเร็จลุล่วงด้วยดี มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติงานภายใต้กรอบของระเบียบ กฎหมายเป็นสำคัญ ยึดหลักความถูกต้อง เสมอภาค เป็นกลาง ไม่ประชาสัมพันธ์และกระทำการใดๆ ที่เป็นผลดีผลเสียต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แบ่งแยกระหว่างหน้าที่และความรู้สึกส่วนตัว เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแก้ไขปรับปรุงข้อกฎหมายบางประการยิ่งต้องมีการศึกษาทำความเข้าใจให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด และให้ถือคำวินิจฉัยของ กกต. เป็นที่สิ้นสุด เป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีของการจัดการเลือกตั้งในสายตาประชาชน

นอกจากนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครได้กำชับให้ข้าราชการและลูกจ้างในสังกัดไปใช้สิทธิเลือกตั้งทุกคน ซึ่งผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านต่างจังหวัดให้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 2 มิ.ย. 54 ด้วยตนเอง มอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน หรือแจ้งทางไปรษณีย์ ส่วนผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานครยื่นคำร้องขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ระหว่างวันที่ 13 – 17 มิ.ย. 54 ด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นดำเนินการแทน และใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าพร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. 54 เวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตจังหวัด และ หน่วยเลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง เนื่องจากในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 ต้องปฏิบัติงานในการสนับสนุนการเลือกตั้งให้เกิดความเรียบร้อยจนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

09.00 น. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการประชุม

Modern Railways Conference

ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิล์ด

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.

จากนั้น 11.30 น. แถลงผลการประชุม

ณ ห้องสุทัศน์ กทม.

14.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงการให้บริการ

ของสำนักงานเขต

ณ ห้องเอราวัณ กทม.

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ผู้ว่าฯกทม. วางศิลาฤกษ์ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน)

(20 พ.ค. 54) เวลา 09.09 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) โดยมีนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) โดยมีพระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้ประกอบพิธี

โครงการศูนย์กีฬาบางบอนเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงมหาดไทยให้เข้าร่วมโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม (ระดับชาติ) ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) เป็นศูนย์กีฬามาตรฐานครบวงจรที่สมบูรณ์แบบและทันสมัยที่สุด ในฝั่งธนบุรี เป็นสถานที่ออกกำลังกายและเล่นกีฬาของประชาชน ประกอบด้วยอาคารสระว่ายน้ำมาตรฐาน อาคารโรงยิมอเนกประสงค์ อาคารห้องเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย สนามฟุตบอลขนาดมาตรฐานพร้อมอาคารอัฒจันทร์ และลู่กรีฑาผิวยางสังเคราะห์มาตรฐาน

สำหรับศูนย์กีฬาบางบอน เดิมเป็นที่ดินของนางไพฑูรย์ กระจ่างศิลป์ ที่ได้มอบที่ดิน จำนวน 30 ไร่ 44 ตารางวา ให้กับเขตบางขุนเทียน เพื่อสร้างสนามกีฬาโดยใช้ชื่อว่า สนามกีฬาบางขุนเทียน ต่อมาเขตบางขุนเทียนได้มอบให้กับสำนักสวัสดิการสังคม โดยเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์เยาวชนบางขุนเทียน (ไพฑูรย์ กระจ่างศิลป์) สังกัดกองนันทนาการ ในปี พ.ศ. 2540 ได้ตัดโอนมาสังกัดฝ่ายส่งเสริมกีฬา กองการกีฬา ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์ฝึกกีฬาบางขุนเทียน จนถึงปีพ.ศ.2542 สำนักสวัสดิการสังคมได้เปลี่ยนมาเป็นสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และได้เปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์กีฬาบางบอน (ไพฑูรย์ กระจ่างศิลป์)

ปรับโฉมโรงรับจำนำกทม. สะดวก ทันสมัย เทียบเท่าธนาคารชั้นนำ

กทม. ปรับโฉมโรงรับจำนำ นำร่องแห่งแรกที่สาขาประดิพัทธ์ เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้ทันสมัยเทียบเท่าธนาคารชั้นนำ พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนนำเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาใช้แทนการพิมพ์ลายนิ้วมือ ตั้งเป้าปรับโฉมทั้ง 20 แห่งให้แล้วเสร็จภายในต้นปี 2556

(20 พ.ค. 54) ณ สถานธนานุบาลประดิพัทธ์ เขตพญาไท : ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานตรวจเยี่ยมสถานธนานุบาลประดิพัทธ์ภายหลังการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ซึ่งสถานธนานุบาลแห่งนี้ถือเป็นสาขานำร่องในการปรับปรุงรูปโฉมให้มีความสะดวกและทันสมัยเทียบเท่าธนาคารพาณิชย์ ตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ โดยปรับปรุงด้านกายภาพ ใช้กระจกนิรภัยแทนลูกกรงในช่องบริการ มีโทรทัศน์และมุมหนังสือให้บริการระหว่างรอรับบริการ จัดเตรียมมุมเครื่องดื่มและน้ำสะอาดไว้บริการ พร้อมนำเครื่องสแกนลายนิ้วมือมาใช้แทนการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยหมึก ซึ่งประชาชนจะใช้เวลาในการรับบริการไม่เกิน 5 นาทีต่อคน และเปิดให้บริการตรวจสอบทรัพย์สินและประเมินราคาฟรีด้วย

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายในการปรับปรุงภาพลักษณ์ของโรงรับจำนำให้มีความทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาใช้บริการ โดยมอบนโยบายให้สำนักงานสถานธนานุบาลขยายผลในการปรับปรุงภาพลักษณ์ให้ครบทั้ง 20 สาขาภายในต้นปี 2556 หรือก่อนครบวาระของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณในการปรับโฉมประมาณ 1 ล้านบาทเศษต่อสาขา และภายหลังการปรับโฉมสถานธนานุบาลสาขาประดิพัทธ์มียอดรับจำนำเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 โดยประชาชนผู้มาใช้บริการต่างพึงพอใจในภาพลักษณ์ใหม่นี้ นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังเตรียมพิจารณาเปิดให้บริการตู้รับฝากทรัพย์สินแบบธนาคารพาณิชย์เพื่อเพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ในช่วงเปิดเทอมสถานธนานุบาล กทม.ได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามโครงการลดดอกเบี้ยสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ปกครอง ในช่วงเปิดเทอม เพื่อเป็นการสนับสนุนและแบ่งเบาภาระในด้านการศึกษา ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 31 พ.ค. 54 โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน สำหรับการจำนำต่อรายรวมไม่เกิน 70,000 บาทตลอดช่วงโครงการ เพียงนำเอกสาร แสดงความสัมพันธ์ของผู้ปกครองกับ นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือเอกสารที่แสดงความเป็น นักเรียน นิสิต นักศึกษา ใช้ประกอบการใช้ลดดอกเบี้ยพิเศษนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานธนานุบาล กทม. ได้ทั้ง 20 แห่ง หรือโทร. 0 2158 0042-4 และทางเว็บไซต์ www.pawnshop.bangkok.go.th

ขยายเวลารับคำขวัญ กทม. ถึง 31 พ.ค. นี้

นายอรรถพร สุวัธนเดชา ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานคร ขยายเวลารับคำขวัญตามโครงการประกวดคำขวัญกรุงเทพมหานคร จนถึงวันที่ 31 พ.ค. 54 (ดูตราประทับไปรษณีย์) เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ส่งคำขวัญเข้าร่วมประกวดมากที่สุด ซึ่งแบ่งการประกวดเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป คำขวัญที่ชนะการประกวดจะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท และผู้โชคดีที่โหวตคำขวัญที่ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท

สำหรับผู้สนใจสามารถส่งคำขวัญเข้าร่วมประกวดได้ไม่จำกัดจำนวน ความยาวคำขวัญไม่เกินคำขวัญละ 30 พยางค์ โดยส่งคำขวัญทางไปรษณีย์เท่านั้น จ่าหน้าซองถึง สำนักงานเลขานุการ สำนักการศึกษา เลขที่ 869 ถ.ลาดหญ้า เขตคลองสาน กทม. 10600 สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2437 6631–5 ต่อ 3412 เมื่อปิดรับคำขวัญแล้วคณะกรรมการจะทำการคัดเลือกคำขวัญระหว่างวันที่ 1–30 มิ.ย. 54 ให้เหลือ 5 คำขวัญ จากนั้นประชาสัมพันธ์และเปิดรับผลโหวตคำขวัญที่ผ่านการคัดเลือกวันที่ 1–31 ก.ค. 54 และประกาศผลคำขวัญที่ชนะการประกวด และผู้โชคดีที่ร่วมโหวตคำขวัญที่ชนะการประกวดในวันที่ 6 ส.ค. 54

ปรับแนวคิดพิชิตทุจริต สร้าง กทม. องค์กรโปร่งใส ตรวจสอบภายในมีประสิทธิภาพ

(20 พ.ค. 54) สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กรุงเทพมหานคร จัดโครงการฝึกอบรมแนวทางการรับตรวจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจรับซึ่งเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครจากสำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร สำนักงบประมาณ สำนักการคลัง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และหน่วยงานการพาณิชย์ รวม 75 คน โดยมีนายวันชัย ถนอมทรัพย์ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ซึ่งมีหลักสูตรการอบรม ประกอบด้วย การบรรยายหัวข้อ “บทบาทหน้าที่ของผู้ตรวจสอบภายในในการเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กร” และ “กระบวนการตรวจสอบภายในและรูปแบบรายงานการตรวจสอบภายใน” กิจกรรมระดมสมองและอภิปรายหัวข้อ “แนวทาง การพัฒนางานตรวจสอบภายในและ Audit Need” เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในงานตรวจสอบภายในสมัยใหม่ สามารถปฏิบัติงานตรวจสอบภายในตามแนวทางที่วางไว้อย่างเป็นระบบ มีการประเมินและปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบความเสี่ยงในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หน่วยงานและบุคลากรในองค์กรไม่เกิดความรู้สึกเหมือนถูกจับผิด อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านความโปร่งใส เที่ยงตรง และเป็นธรรม ป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่นภายในองค์กรได้อย่างเข้มแข็ง จริงจัง และยั่งยืน

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการ กทม. 20 พ.ค.54

1. 08.30 น.
ผว.กทม.ประธานพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา (บางบอน) ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
(บางบอน)

2. 09.00 น.
ป.กทม.ประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมแนวทางการรับตรวจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้รับตรวจ ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ โบ๊เบ๊

3. 10.30 น.
ผว.กทม.เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารเพลเนื่องในโอกาสได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย(ชั้นสายสะพาย) ณ ห้องเจ้าพระยา กทม.

4. 11.30 น.
รผว.ธีระชน ตรวจเยี่ยมการปรับภาพลักษณ์และรูปแบบบริการสถานธนานุบาลกทม. สาขาประดิพัทธ์ ณ สถานธนานุบาลกทม.
สาขาประดิพัทธ์

5. 14.00 น.
รผว.เพียงใจ เป็นประธานพิธีเปิดงาน “มหกรรมของดีกลุ่มเขตกรุงธนใต้”ณ Event Hall ชั้น G ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กทม.แจกแบบบ้านเพื่อประชาชนเพิ่มอีก 30 แบบ ตามโครงการ “สร้างบ้าน...ด้วยรอยยิ้ม”

(19 พ.ค. 54) เวลา 11.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ
กทม. : นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย
นายทนงศักดิ์ ทวีทอง เลขาธิการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย
และนายวิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน แถลงข่าว
โครงการ “สร้างบ้าน...ด้วยรอยยิ้ม” (ตามโครงการแบบบ้านยิ้ม...เพื่อประชาชน)
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า
กทม.จัดทำโครงการ “แบบบ้านยิ้ม...เพื่อประชาชน” โดยแจกแบบบ้าน
100 แบบ ให้กับประชาชน โดยมีประชาชนมาขอรับแบบบ้านมากถึง
2,500 ราย เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา

จากผลสำเร็จโครงการดังกล่าวกรุงเทพมหานครจึงจัดทำโครงการ “
สร้างบ้าน...ด้วยรอยยิ้ม” (ตามโครงการแบบบ้านยิ้ม...เพื่อประชาชน)
เพื่อขยายผลการแจกแบบบ้านไปสู่ประชาชนทั่วประเทศ
โดยได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน จัดเตรียมแบบบ้านใหม่เพิ่มเติมอีก
30 แบบ โดยเน้นบ้านแบบ Modern Style และ Contemporary Style
ที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน มีราคาค่าก่อสร้างเริ่มต้นที่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 180
ตารางเมตร ราคา 2.4 ล้านบาท ไปจนถึง 870 ตารางเมตร ราคา 15.6 ล้านบาท
พร้อมประสานสถาบันการเงิน 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
จัดสิทธิพิเศษทางด้านสินเชื่อให้กับผู้ที่มาขอแบบบ้านในโครงการ “สร้างบ้าน...ด้วยรอย
ยิ้ม” (ตามโครงการแบบบ้านยิ้ม...เพื่อประชาชน) อาทิ อนุมัติสินเชื่อให้เต็มวงเงิน 100%
และคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษถูกกว่าท้องตลาด เป็นต้น
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบแบบบ้านทั้งหมด จำนวน 130 แบบ
(100 แบบเดิม และอีก 30 แบบใหม่) ให้กับผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ประกอบด้วย เทศบาลเมืองพัทยา เทศบาลเมืองพระประแดง เทศบาลเมืองยะลา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่มีที่ดินและต้องการปลูกบ้าน
ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการออกแบบ
เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และได้แบบบ้านตามที่ต้องการมากยิ่งขึ้น
ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถขอรับแบบบ้านฉบับสมบูรณ์พร้อมก่อสร้าง ประมาณเดือน ก.ย.54
ได้ที่สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย กรุงเทพมหานคร หรือ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
และสามารถ Download แบบก่อสร้างฉบับสมบูรณ์ ได้ทาง www.bangkok.go.th/
housing สอบถามโทร. 0 2538 9538, 0 2538 8067

กทม. ตรวจสภาพการจราจรเปิดเทอมวันแรก

ผู้ว่าฯกทม. นำสื่อมวลชนร่วมตรวจการจราจรรับเปิดเทอมวันแรก ส่วนใหญ่มีสภาพคล่องแม้ฝนตก ติดขัดหนักบริเวณคอขวดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และหน้าโรงเรียนดัง ด้านกทม. เสริมเทศกิจช่วยตำรวจอำนวยการจราจร ลดปัญหาคับคั่งหน้าโรงเรียน ขณะที่ตำรวจจราจรทุกจุดเร่งระบายรถลดความคับคั่งชั่วโมงเร่งด่วน ส่วนระยะยาวจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนยั่งยืน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุตรหลานเดินทางไปเรียนด้วยตนเอง

(18 พ.ค.54) เวลา 07.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร นำสื่อมวลชนขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อสำรวจสภาพการจราจรโดยรอบกรุงเทพฯ ในวันเปิดภาคการศึกษา 2554 วันแรก ตลอดเส้นทางดอนเมือง-โทลเวย์ ถ.วิภาวดีรังสิต ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังตรวจสภาพการจราจรพบว่า ถนนหลายสายทั้งขาเข้าและขาออกคล่องตัว เฉพาะบริเวณสะพานสาทร รวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งจากฝั่งธนบุรีและพระนครติดขัดมากเนื่องจากมีลักษณะคอขวด และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง เช่น กรุงเทพคริสเตียน เซนต์หลุยส์ และอัสสัมชัญ ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรหนาแน่นบริเวณหน้าโรงเรียน อย่างไรก็ตามกทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการเตรียมพร้อมมาตรการด้านการจราจรรับวันเปิดภาคการศึกษาวันแรก ซึ่งในส่วนของกทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจ และฝ่ายเทศกิจ 50 เขต ตั้งจุดปฏิบัติการจราจร 422 จุด รวมจำนวนเทศกิจ 671 นาย ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในพื้นที่รับผิดชอบ ตามโครงการเทศกิจอาสาพาน้องข้ามถนน ในชั่วโมงเร่งด่วน 06.30–07.45 น. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครอง อีกทั้งได้มอบหมายให้ฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ออกตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางบนทางเท้าและผิวจราจรโดยเฉพาะจุดกวดขันพิเศษ ตลอดจนจัดหน่วย BEST เตรียมรถยกและอุปกรณ์ในการซ่อมแซมยานพาหนะขัดข้องและเคลื่อนย้ายพาหนะในจุดเกิดอุบัติเหตุ เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและให้เกิดสภาพคล่องโดยเร็วที่สุด ส่วนในระยะยาวจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในทุกทิศทางเพื่อแก้ปัญหาการจราจรอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค. 54) เป็นวันแรกของการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรบริเวณโดยรอบศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร แต่ได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และเทศกิจ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยของพื้นที่และผู้สมัครแล้ว

ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า แม้ว่าในวันเปิดเทอมวันแรกจะมีฝนตก แต่การจราจรยังมีสภาพคล่อง พบปัญหาการจราจรหนาแน่นบริเวณ ถ.สาทร เนื่องจากมีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังซึ่งผู้ปกครองมักจะนำรถยนต์ส่วนตัวเพื่อรับ-ส่งบุตรหลาน และระบบขนส่งมวลชนยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นในช่วงเปิดเทอมนั้นขอให้ผู้ปกครองเตรียมพร้อมสัมภาระและอุปกรณ์การเรียนให้พร้อมก่อนถึงโรงเรียน อีกทั้งให้โรงเรียนจัดให้มีรุ่นพี่ช่วยรับส่งรุ่นน้องบริเวณหน้าโรงเรียนเพื่อที่ผู้ปกครองจะไม่ต้องจอดรถนาน ลดความหนาแน่นของการจราจรในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนให้มี การเหลื่อมเวลาเข้าเรียนเพื่อลดความคับคั่งในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วย ส่วนในระยะยาวนั้นผู้ปกครอง และบุตรหลานจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง โดยการหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น ขณะที่ตัวบุตรหลานเองควรเดินทางไปโรงเรียนด้วยตนเองซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง และลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนอีกด้วย

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ขยายเวลาทำบัตรประชาชนทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ

(18 พ.ค.54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตขยายเวลาให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชนนอกเวลาราชการ ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ สำนักงานเขต เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในการทำบัตรเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นสมัครรับเลือกตั้ง และสำหรับประชาชนทั่วไป เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงตนในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.54 โดยจะเปิดให้บริการในวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 16.00 น. พร้อมทั้งเปิดจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) 4 แห่ง ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS 3 สถานี คือ สถานีสยาม สถานีพร้อมพงษ์ และสถานีหมอชิต เวลา 09.00 – 16.00 น. และที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ชั้น 1 ด้านถ.ดินสอ จะเปิดให้บริการเฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. โดยทั้ง 4 จุดดังกล่าวให้บริการทำบัตรยกเว้นบัตรหาย

สภากทม.ต้อนรับคณะผู้สูงอายุนครภูเก็ตในโอกาสศึกษาดูงานการปกครองส่วนท้องถิ่น


สภากทม.ต้อนรับ คณะผู้สูงอายุจากสมาคมผู้สูงอายุนครภูเก็ต ศึกษางานท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร พร้อมส่งเจ้าหน้าที่มัคคุเทศร่วมคณะเพื่อให้ความรู้กับคณะในโอกาสทัศนศึกษาวัดที่สำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วย
(18 พ.ค.54) ณ ห้องประชุมสภากทม. : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับคณะผู้สูงอายุจากสมาคมผู้สูงอายุนครภูเก็ต องค์กรสาธารณประโยชน์ จำนวน 80 คน พร้อมด้วยนางสาว สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครบาลภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม เนื่องในโอกาสมาศึกษาดูงานการปกครองส่วนท้องถิ่นและทัศนศึกษาหาความรู้ในวัดที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร โดยสภากรุงเทพมหานครได้ประสานกองการท่องเที่ยว กทม.จัดเจ้าหน้าที่มัคคุเทศร่วมเดินทางเพื่อให้ความรู้กับคณะผู้สูงอายุอีกด้วย
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สภากรุงเทพมหานครซึ่งเป็นสภาท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาของท้องถิ่น โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองตนเอง ทำให้ปัญหาในตาละท้องถิ่นได้รับการแก้ไขปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพและ เป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีการพัฒนาเมืองให้เกิดความเจริญเทียบเท่าเมืองสำคัญของโลก นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์มากมาย เหมาะสำหรับการเดินทางมาทัศนศึกษาหาความรู้เป็นอย่างมาก
นางสาว สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครบาลภูเก็ต กล่าวว่า กรุงเทพมหานครถือว่าเป็นเมืองต้นแบบและมีรูปแบบการบริหารโดยมุ่งเน้นในการพัฒนาทั้งคุณภาพชีวิตและระบบสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ทั้งนี้จากการศึกษางานและทัศนศึกษาเชิงประวัติศาสตร์ครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถนำกลับไปพัฒนาให้เทศบาลนครภูเก็ตเป็นเมืองที่มีความสวยงามเหมือนกรุงเทพมหานครต่อไป พร้อมกันนี้ทางคณะผู้สูงอายุจะเดินทางเพื่อไปทดลองนั่งลดไฟฟ้ามหานครอีกด้วย

ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ นำพุทธศาสนิกชนตักบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชา

ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ นำพุทธศาสนิกชนตักบาตรเนื่องในวันวิสาขบูชา
( 17 พ.ค.54) เวลา 07.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 229 รูป ในงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก ประจำปี 2554 ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมการศาสนา ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดขึ้น ณ มณฑลพิธีลานอเนกประสงค์ กองทัพภาคที่ 1 ในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเพื่อให้พสกนิกรร่วมกันปฏิบัติธรรมเป็นพุทธบูชา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยกิจกรรมเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ได้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-17 พ.ค.54 อาทิ การเทศน์มหาชาติ พิธีเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตภาวนาถวายเป็นพระราชกุศล การจัดนิทรรศการส่งเสริมพระพุทธศาสนา นิทรรศการพระพุทธรูปสำคัญ 4 ภาค พิธีเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ พิธีทอดผ้าป่าสี่มุมเมือง สมทบกองทุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา เวทีสะท้อนธรรม การประกวดบรรยายธรรม และการอภิปรายธรรม ฯลฯ
ทั้งนี้ ในเวลา 18.00 น. จะมีพิธีปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก 2554 โดยถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และในเวลา 21.00 น. จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับพระบรมมหาราชวัง และการจุดพลุและดอกไม้ไฟถวายเป็นพุทธบูชา

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ชวนคนไทยร่วมทำบุญครั้งใหญ่ บูรณะสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

ชวนคนไทยร่วมทำบุญครั้งใหญ่ บูรณะสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า
กทม. ร่วมกับ มูลนิธิไทยพึ่งไทย ชวนชาวไทยร่วมบริจาคทำบุญมหากุศล พร้อมร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ร่วมบูรณะลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.นี้ ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน
(15 พ.ค. 54) เวลา 07.00 น. ณ ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “พุทธคุณคุ้มครองไทย รวมใจไทยเป็นหนึ่ง จากสวนลุมถึงลุมพินีวัน ที่ประสูติพระพุทธเจ้า” ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ มูลนิธิไทยพึ่งไทย และบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนชาวกรุงเทพฯ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา และ 60 ปี ราชาภิเษก พร้อมขอให้พระพุทธคุณช่วยคุ้มครองชาวกรุงเทพฯ ชาวไทย และประเทศไทยให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง
ภายในงานมีการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 84 รูป และเชิญชวนประชาชนร่วมทำบุญมหากุศล บำเพ็ญทานบารมีบริจาคเงินบูรณปฏิสังขรณ์ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมร่วมเจริญพุทธมนต์ซึ่งท่านเจ้าคุณราชรัตนรังสี เป็นผู้นำสวดมนต์ เพื่อขออำนาจพระพุทธคุณให้คุ้มครองประเทศไทย และชาวไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชื่อบัญชี “กองทุนลุมพินีสถาน” หรือ เช็คสั่งจ่ายในนาม “กองทุนลุมพินีสถานโดยมูลนิธิไทยพึ่งไทย” และส่งใบโอนเงิน พร้อมชื่อ ที่อยู่เพื่อทางมูลนิธิฯ จะจัดส่งใบเสร็จให้ มาทางโทรสารหมายเลข 0 2971 6777 และทาง E-mail : info@lumbinidevelopment.org หรือบริจาคผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยแจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญ “กองทุนลุมพินีสถาน” ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ และบริจาคผ่าน SMS พิมพ์คำว่า lum ส่งมาที่หมายเลข 4596999 ครั้งละ 9 บาท

ชวนคนไทยร่วมทำบุญครั้งใหญ่ บูรณะสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

ชวนคนไทยร่วมทำบุญครั้งใหญ่ บูรณะสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

กทม. ร่วมกับ มูลนิธิไทยพึ่งไทย ชวนชาวไทยร่วมบริจาคทำบุญมหากุศล พร้อมร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ครั้งเดียวในชีวิตที่จะได้ร่วมบูรณะลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า ในวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.นี้ ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน

(15 พ.ค. 54) เวลา 07.00 น. ณ ศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี เขตปทุมวัน : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “พุทธคุณคุ้มครองไทย รวมใจไทยเป็นหนึ่ง จากสวนลุมถึงลุมพินีวัน ที่ประสูติพระพุทธเจ้า” ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ มูลนิธิไทยพึ่งไทย และบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการฟื้นฟูจิตใจของประชาชนชาวกรุงเทพฯ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา และ 60 ปี ราชาภิเษก พร้อมขอให้พระพุทธคุณช่วยคุ้มครองชาวกรุงเทพฯ ชาวไทย และประเทศไทยให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

ภายในงานมีการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ สามเณร จำนวน 84 รูป และเชิญชวนประชาชนร่วมทำบุญมหากุศล บำเพ็ญทานบารมีบริจาคเงินบูรณปฏิสังขรณ์ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมร่วมเจริญพุทธมนต์ซึ่งท่านเจ้าคุณราชรัตนรังสี เป็นผู้นำสวดมนต์ เพื่อขออำนาจพระพุทธคุณให้คุ้มครองประเทศไทย และชาวไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข

ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชื่อบัญชี “กองทุนลุมพินีสถาน” หรือ เช็คสั่งจ่ายในนาม “กองทุนลุมพินีสถานโดยมูลนิธิไทยพึ่งไทย” และส่งใบโอนเงิน พร้อมชื่อ ที่อยู่เพื่อทางมูลนิธิฯ จะจัดส่งใบเสร็จให้ มาทางโทรสารหมายเลข 0 2971 6777 และทาง E-mail : info@lumbinidevelopment.org หรือบริจาคผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส โดยแจ้งความประสงค์ร่วมทำบุญ “กองทุนลุมพินีสถาน” ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ และบริจาคผ่าน SMS พิมพ์คำว่า lum ส่งมาที่หมายเลข 4596999 ครั้งละ 9 บาท

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันที่ 15-18 พฤษภาคม 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

****************

07.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประธานในพิธีเปิดงาน “พุทธคุณคุ้มครองไทย” รวมใจคนกรุงเทพฯ ณ หน้าศาลาภิรมย์ภักดี สวนลุมพินี

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประธานในการทำรณรงค์ทำความสะอาดโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครก่อนเปิดภาคเรียน ณ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน

------------------------------

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

****************



07.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 229 รูป
เนื่องในวันวิสาขบูชา ณ มณฑลพิธีลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 บางเขน

18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา
เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก ประจำปี54
ณ มณฑลพิธีลานอเนกประสงค์กองทัพภาคที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 บางเขน
------------------------------

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

****************



06.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ตรวจสภาพการจราจรในวันเปิดเทอมโดยเฮลิคอปเตอร์ ณ สนามบินดอนเมือง

07.55 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ตรวจความเรียบร้อยเรื่องการดูแลนักเรียน กทม.ในวันเปิดเทอม ณ โรงเรียนวัดดอนเมือง

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
จัดรายการ “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออนไลน์ ปีการศึกษา 2554” ณ ห้องรัตนโกสินทร์

กทม. จับมือภาคเอกชนชวนลดใช้พลาสติกสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้สังคม

กทม. จับมือภาคเอกชนชวนลดใช้พลาสติกสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้สังคม

จัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนประชาชนลดใช้พลาสติก เห็นความสำคัญของการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เปิดจุดรับขวดพลาสติกกว่า 200 จุดบริเวณห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงแรมในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป บัดนี้ถึง 5 มิ.ย. 54 ครบ 1 ล้านขวดคืนจุดน้ำดื่มสะอาดในสวนลุมพินี

(12 พ.ค. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ “รักษ์โลก ลดพลาสติก Use less plastic” เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ณ โซนอีเดน ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล จัดกิจกรรมรณรงค์ ส่งเสริม สนับสนุน และสร้างจิตสำนึกที่ดีให้พนักงาน และประชาชนทั่วไปเห็นความสำคัญในการลดใช้พลาสติก เกิดความตระหนักในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน ด้วยการจัดนิทรรศการให้ความรู้ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนให้นำขวดพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วมาหย่อนที่จุดรองรับในห้างเซ็นทรัลเวิลด์กว่า 200 จุด อาทิ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และห้างในกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป จากนั้นจะนำพลาสติกที่ได้ไปผ่านกระบวนการรีไซเคิล ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ รวมถึงประดิษฐ์เป็นสิ่งของต่างๆ แล้วนำกลับมาใช้ใหม่

ทั้งนี้ โครงการรักษ์โลกลดพลาสติก เริ่มเปิดรับขวดพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วตั้งแต่บัดนี้ – 5 มิ.ย. 54 ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านขวด เมื่อนำไปรีไซเคิลแล้วจะมอบเป็นจุดน้ำดื่มสะอาดคืนให้กรุงเทพมหานครในบริเวณสวนลุมพินี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริโภคในสวนสาธารณะต่อไป

กทม. ติวเข้มพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ในโรงเรียน

กทม. ติวเข้มพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ในโรงเรียน

(12 พ.ค. 54) ณ โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี : พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 และพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ให้แก่ผู้อำนวยการโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 436 คน เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงดูแล ป้องกันเด็กและเยาวชนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ซึ่งเป็นสารเสพติดที่มีการแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กและเยาวชน ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ ปัญหาการเรียนปัญหาด้านพฤติกรรมและลุกลามเป็นปัญหาทางสังคมที่ยากต่อการแก้ไข รวมทั้งอาจเป็นการเริ่มต้นของการใช้สารเสพติดต่อไป

สำหรับสถานการณ์การสูบบุหรี่ในปี พ.ศ. 2552 พบว่าในภาพรวมทั้งประเทศประชากรไทยมีแนวโน้มการสูบบุหรี่ลดลง แต่มีอัตราของนักสูบบุหรี่หน้าใหม่อายุ 15-24 ปี เพิ่มขึ้นจาก 1.60 ล้านคน เป็น 1.67 ล้านคน และเมื่อคิดอัตราการสูบบุหรี่ต่อคน พบว่ามีอัตราการสูบบุหรี่ต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 10.27 มวนต่อวันต่อคน สำหรับสถานการณ์ด้านการเข้าถึงแหล่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบพบว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2555- 2553 มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นร้อยละ 59 โดยรอบโรงเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ร้อยละ 73 มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในรัศมี 100 เมตร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเวลา 7 นาที การเข้าถึงบุหรี่ของเด็กและเยาวชนอายุ 13-15 ปี พบว่าร้อยละ 47.9 สามารถซื้อบุหรี่ได้จากร้านค้าโดยผู้ขายไม่ปฏิเสธการขายทั้งๆ ที่ผิดกฎหมาย รองลงมาร้อยละ 25.5 ได้บุหรี่มาจากในบ้านของตนเอง และยังมีพฤติกรรมการขายแลกเปลี่ยนบุหรี่กับเพื่อนในวัยเดียวกัน

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติทั้ง 3 ฉบับ ได้กำหนดให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่และเป็นสถานที่ห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การประชุมครั้งนี้จะช่วยให้ผู้อำนวยการโรงเรียนรับทราบและนำไปดำเนินงานในเรื่องการจัดสภาพแวดล้อมให้โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ส่งเสริมการไม่สูบบุหรี่ ในครู นักเรียน บุคคลากรในโรงเรียนและสนับสนุนให้โรงเรียนเป็นเครือข่ายร่วมกันในการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ในชุมชนรวมทั้งให้โรงเรียนเป็นสื่อสัญญาลักษณ์ในการสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ของสังคม

กทม. ชวนคนกรุงเทพ ทำความดีถวายในหลวง กับโครงการปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร

กทม. ชวนคนกรุงเทพ ทำความดีถวายในหลวง กับโครงการปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร

(12 พ.ค. 54) เวลา 10.00 น. : ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โครงการปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร เพื่อร่วมกันทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลที่เจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554 โดยมี นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนหน่วยงานทุกภาคส่วนจำนวนกว่า 60 หน่วยงาน อาทิ กองบังคับการตำรวจนครบาล กรมทางหลวง บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมประชุม ณ ห้องโมเน่-พิซาโร่-เซซาน โรงแรมโนโวเทล เขตปทุมวัน

กรุงเทพมหานครจัดโครงการปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร โดยบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 60 หน่วยงาน ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน และกระตุ้นเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงการปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเชิญชวนประชาชนไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ร่วมถวายปณิธานฯ และจะมีการรวบรวมรายชื่อ 1 ล้านคน ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันที่ 5 ธ.ค. 54 เพื่อปลุกจิตสำนึกกระตุ้นเตือนให้ทุกคนร่วมกันรักษาวินัยจราจร และนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ หลังการประชุมเตรียมความพร้อม กรุงเทพมหานครจะจัดงาน รวมพลัง ถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร เพื่อเปิดตัวโครงการฯ อย่างเป็นทางการ และจัดกิจกรรมรณรงค์ ประชาสัมพันธ์โครงการอย่างต่อเนื่องตลอดปี ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพ พร้อมเปิดช่องให้ประชาชนร่วมถวายปณิธาน 5 ช่องทาง ประกอบด้วย Facebook (www.facebook.com/clubddbma) เว็บไซต์โครงการ www.club-dd.com SMS หมายเลข 4535303 ไปรษณียบัตรผ่านตู้ปณ.170 ปณศ. จระเข้บัว กทม. 10230 และบัตรถวายปณิธาน ที่แจกในกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

รองผู้ว่าฯ มาลินี ร่วมฉลอง 9 ปี โรงพยาบาลสิรินธร

รองผู้ว่าฯ มาลินี ร่วมฉลอง 9 ปี โรงพยาบาลสิรินธร

(12 พ.ค. 54) เวลา 08.30 น. : แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานสถาปนาครบรอบ 9 ปี โรงพยาบาลสิริธร โดยมีนายแสงชัย สีมาขจร ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ คณะแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสิรินธร ผู้มีอุปการะคุณ และประชาชน ร่วมงาน ณ ห้องประชุมคุณหญิงหรั่ง กันตารัติ ชั้น 2 โรงพยาบาลสิรินธร

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โรงพยาบาลสิรินธรมีพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 9 ไร่ นับเป็นโรงพยาบาลหลักในการรองรับให้บริการประชาชนในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง มีความพร้อมในการพัฒนาด้านต่างๆ มีศักยภาพเพียงพอในการให้บริการต่างๆ แก่ประชาชน อาทิ ศูนย์ฯ เด็กเล็ก สถานที่ออกกำลังกาย สามารถรองรับประชาชน ที่มาใช้บริการได้จำนวนมาก นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังมีความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานและพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลในสังกัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึงต่อไป

กทม.พร้อมรับเปิดเทอม เตรียมทำความสะอาดโรงเรียน กทม.436 แห่ง

กทม.พร้อมรับเปิดเทอม เตรียมทำความสะอาดโรงเรียน กทม.436 แห่ง

กทม.เตรียมความพร้อมรับวันเปิดเทอม ทำความสะอาดโรงเรียน ปรับภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ พร้อมดูแลด้านความปลอดภัย ด้านผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์เตรียมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ร่วมตรวจสภาพจราจร รวมถึงตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนของเทศกิจพิทักษ์นักเรียนในวันเปิดเทอม และชวนคนกรุงร่วมทำความสะอาดเมืองรับวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย.นี้

( 12 พ.ค.54) 13.00 น. ณ ห้องเอราวัณ กทม. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมการจัดทำโครงการ Bangkok Clean and Green ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยทำความสะอาดและดูแลระบบสุขาภิบาลในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 436 แห่ง เป็นการเตรียมความพร้อมรับนักเรียนในวันเปิดเทอม โดยเน้นสิ่งแวดล้อมของห้องเรียนและบริเวณโดยรอบโรงเรียน การจัดการขยะมูลฝอยและการจัดการของเหลือใช้ การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และแมลงนำโรค รวมถึงห้องน้ำซึ่งจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน HAS ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คือ พอเพียง สะอาด และปลอดภัย นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงความปลอดภัยในเรื่องของอาหาร และน้ำดื่มของนักเรียนด้วย

ทั้งนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีกำหนดตรวจเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ณ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน ในวันอาทิตย์ 15 พฤษภาคม 2554 เวลา 10.00 น. เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับนักเรียนในวันเปิดเทอมด้วย นอกจากนี้ ในวันพุธที่ 18 พ.ค.54 ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ร่วมตรวจสภาพจราจรตลอดเส้นทางวิภาวดีรังสิต - ถ.สามเสน รวมถึงตรวจเยี่ยมการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าโรงเรียนของเทศกิจพิทักษ์นักเรียน ซึ่งสำนักอนามัยกรุงเทพมหานครจะได้จัดหน่วยแพทย์ร่วมตรวจสุขภาพนักเรียน วัดน้ำหนัก ส่วนสูง คัดกรองโรค อีกทั้งตรวจวัดสายตาและตรวจสุขภาพฟัน เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของนักเรียนด้วย



ชวนคนกรุงร่วมทำความสะอาดเมืองรับวันสิ่งแวดล้อมโลก

นอกการทำความสะอาดโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเปิดเทอมในวันที่ 18 พ.ค.54 แล้ว กทม.ขอเชิญประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชนในกรุงเทพฯ ร่วมกันล้างทำความสะอาดสถานที่สำคัญ อาทิ ศาสนสถาน ตลาด ชุมชน สถานที่ทำงาน ฯลฯ รวมถึงสาธารณประโยชน์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 5 มิ.ย.54 ซึ่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสะอาด สวยงาม