ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กทม.เตรียมทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีขอความชัดเจนการจัดตลาดนัดจตุจักร

(28 ธ.ค.54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 15.30 น. : นายสัญญา จันทรัตน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม.ร่วมกับฝ่ายกฏหมายและผู้เกี่ยวข้องเพื่อหารือถึงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.54 เกี่ยวกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยอันเป็นที่ตั้งของตลาดนัดจตุจักร โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเข้าจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรภายหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.55 เป็นต้นไป รวมถึงเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบในหลักการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายสัญญา กล่าวว่า ตามมติของคณะรัฐมนตรีเป็นเพียงการรับทราบว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยจะเข้าจัดการพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรภายหลังจากกทม.สิ้นสุดสัญญาเช่าตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.55 เป็นต้นไปเท่านั้น แต่คณะรัฐมนตรียังไม่มีมติให้การรถไฟฯ เข้าบริหารจัดการตลาดนัดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการรถไฟฯ ยังไม่ได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีว่าจะเข้าจัดตลาดนัดอย่างใด ดังนั้นจึงไม่มีผลให้มีการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเดิมเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2522 และ 14 เม.ย.2525 ซึ่งกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าให้กทม.ใช้พื้นที่ของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด ส่วนการตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรถือว่าการรถไฟฯ ได้ดำเนินการอยู่แล้วด้วยการให้กทม.เช่าพื้นที่เพื่อดำเนินการ อย่างไรก็ตามเมื่อยังไม่มีความชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรีต้องการให้รูปแบบการจัดตลาดนัดจตุจักรในวันที่ 2 ม.ค.55 เป็นอย่างไร และการรถไฟฯ จะมีอำนาจตามกฎหมายเข้าดำเนินการจัดตลาดนัดจตุจักรหรือไม่ ดังนั้น กทม.จะทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความชัดเจนในมติคณะรัฐมนตรีพร้อมรายละเอียดโดยด่วน
นายสัญญา กล่าวด้วยว่า หากคณะรัฐมนตรีมีมติอย่างเป็นทางการให้การรถไฟฯ เข้าจัดตลาดนัดตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.55 เป็นต้นไป กทม.ในฐานะคู่สัญญายังมีสิทธิในพื้นที่ตลาดนัด เพื่อทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรุงเทพมหานครและปรับพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิมก่อนส่งมอบพื้นที่คืนให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยภายหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าข้อ 10 หากกทม.ไม่ดำเนินการตามสัญญาจะถูกเรียกร้องค่ารื้อถอนกรณีผิดสัญญากับการรถไฟฯ ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ
ด้าน นายอรุณ ศรีจรูญ ผู้อำนวยการตลาดนัด กทม. แสดงความกังวลว่า หากการรถไฟแห่งประเทศไทยเข้าบริหารต่อจากกทม.ตั้งแต่วันที่ 2 มค.เป็นต้นไป จะเกิดผลกระทบต่อพนักงานชั่วคราวกว่า 300 คน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตลาดนัดและผู้ค้าอีกกว่า 8,000 คน ซึ่งยังคงกังวลถึงความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามตนเองยืนยันว่า กทม.ยังมีศักยภาพที่จะบริหารจัดการตลาดนัดได้ แต่จำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารจัดการ พนักงาน ผู้ค้า และผู้บริโภค เนื่องจากตลาดนัดจตุจักรเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงทั่วโลก ไม่ต้องการให้เกิดภาพลักษณ์ของความขัดแย้ง ส่วนกรณีการที่การรถไฟฯ จะขอคืนพื้นที่ในฐานะเป็นเจ้าของสามารถทำได้แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่มีอยู่

โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานครรับสมัครพนักงานประกันสังคม

นายชาลี วชิรศรีสุนทรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า โรงพยาบาลฯ เปิดรับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นพนักงานประกันสังคม ตำแหน่งนายช่างเทคนิค จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ชั้น 2 ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 6 ม.ค. 55 ในวันและเวลาราชการ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2326 7711 ต่อ 243

สรุปข่าวบริการสำนักงานเขต

สำนักงานเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานครพร้อมบริการทุ่มเทการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ดังนี้
เขตหนองจอก นายภิญโญ ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการเขตหนองจอก กทม. แจ้งว่า เขตฯ ได้เปิดให้บริการทำบัตรประจำตัวประชาชน วันจันทร์–ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00–16.00 น. จำนวน 120 ราย วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.00–16.00 น. จำนวน 100 ราย สำหรับการทำบัตรประชาชนเด็ก มีหลักเกณฑ์ดังนี้ เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2547 – อายุ 15 ปี ให้นำหลักฐานสูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว–ชื่อสกุล ของบิดา มารดาของผู้ขอมีบัตร (กรณีเปลี่ยนชื่อตัว–ชื่อสกุล) บิดา หรือมารดาต้องมาให้คำรับรอง กรณีเป็นผู้ปกครองให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลตามภูมิลำเนา โดยระบุว่าเป็นผู้ดูแลเด็ก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0 2543 1472 และ 0 2543 2470 จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน
เขตธนบุรี นายระบิล ปานแม้น ผู้อำนวยการเขตธนบุรี กทม. แจ้งว่า เขตฯ ได้จัดโครงการรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขึ้นโดยจัดสายตรวจเทศกิจออกตรวจสถานที่บริเวณจุดเปลี่ยว จุดเสี่ยงภัย ใต้สะพานลอย อาคารรกร้าง ที่สาธารณะที่อาจเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มมิจฉาชีพและมีการติดตั้งตู้จุดตรวจเทศกิจ 16 จุดครอบคลุมทั่วพื้นที่เขต นอกจากนั้นได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจประชาสัมพันธ์ แนะนำตักเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มมิจฉาชีพและปฏิบัติงานร่วมกับตำรวจนครบาลในพื้นที่เขตดำเนินการเสาะหาข้อมูลและการออกตรวจจุดตู้เขียวทุกวัน
ทั้งนี้เพื่อเฝ้าระวังและลดพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดอาชญากรรม ให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่เทศกิจได้ร่วมช่วยเหลือชุมชนตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สำนักงานเขตธนบุรีด้วย
เขตคลองสามวา นายนราธิป ภัทรวิมล ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา กทม. เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี มักเกิดอุบัติเหตุในท้องถนนเป็นจำนวนมาก อันเกิดจากการขับรถประมาท ขับรถขณะมึนเมา ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค หรือกรณีการปิดบ้านทิ้งไว้หลายวัน เพื่อไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ตามต่างจังหวัด และอาจลืมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูแล้งอากาศแห้งทำให้เกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและอุบัติภัย ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เขตฯ ได้เตรียมแผนรับมือในการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 ดังนี้ 1. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดเสี่ยง จุดอันตรายหรือสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์ในพื้นที่ เพื่อปรับปรุงซ่อมแซม หรือทำป้ายเตือนที่เห็นชัดเจน 2. รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถด้วยความระมัดระวัง “เมาไม่ขับ” 3. จัดเจ้าหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจท้องที่ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กำหนดจุดตรวจร่วม และจุดสกัดประจำชุมชนตามที่ได้รับการร้องขอ 4. ประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า การจุดธูปเทียนบูชาพระก่อนออกจากบ้าน และ 5. จัดหน่วย BEST พร้อมดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากพบอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยในพื้นที่เขตคลองสามวา ติดต่อได้ที่หมายเลข 199 หรือ สำนักงานเขตคลองสามวา โทร. 0 2548 0335

กทม. เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพลูกจ้างประจำ

(28 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม พัฒนา IQ และ EQ และพัฒนาแนวคิดพฤติกรรมในการดำรงชีวิตให้แก่บุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระยุทธ วรพินิจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เข้ารับการอบรม รวม 500 คน ร่วมงาน ณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร โดยสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานครจัดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม พัฒนา IQ และ EQ และพัฒนาแนวคิดพฤติกรรมในการดำรงชีวิต รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานครให้มีสมรรถนะในการปฏิบัติงานที่สอดรับกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งสร้างจิตสำนึกและทัศนคติที่ดีในการให้บริการประชาชน สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นลูกจ้างประจำทุกสายงานของกรุงเทพมหานคร จำนวน 5 รุ่นๆละ 100 คน รวม 500 คน ฝึกอบรมและบรรยายพิเศษแบบไป-กลับ 1 วัน ในวันที่ 28 ธ.ค. 54 และฝึกอบรมและดูงานแบบพักค้าง รุ่นละ 2 วัน 1 คืน ประกอบด้วย รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 5-6 ม.ค. 55 รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 ม.ค. 55 รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค. 55 รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 26-27 ม.ค. 55 และรุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค. 55 ณ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก โดยมี ดร.ธีระยุทธ วรพินิจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักนายกรัฐมนตรี และวิทยากรจากสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมบรรยาย

กทม. เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพลูกจ้างประจำ

(28 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม พัฒนา IQ และ EQ และพัฒนาแนวคิดพฤติกรรมในการดำรงชีวิตให้แก่บุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระยุทธ วรพินิจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เข้ารับการอบรม รวม 500 คน ร่วมงาน ณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร โดยสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานครจัดโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม พัฒนา IQ และ EQ และพัฒนาแนวคิดพฤติกรรมในการดำรงชีวิต รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรระดับปฏิบัติการของกรุงเทพมหานครให้มีสมรรถนะในการปฏิบัติงานที่สอดรับกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งสร้างจิตสำนึกและทัศนคติที่ดีในการให้บริการประชาชน สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นลูกจ้างประจำทุกสายงานของกรุงเทพมหานคร จำนวน 5 รุ่นๆละ 100 คน รวม 500 คน ฝึกอบรมและบรรยายพิเศษแบบไป-กลับ 1 วัน ในวันที่ 28 ธ.ค. 54 และฝึกอบรมและดูงานแบบพักค้าง รุ่นละ 2 วัน 1 คืน ประกอบด้วย รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 5-6 ม.ค. 55 รุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 ม.ค. 55 รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค. 55 รุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 26-27 ม.ค. 55 และรุ่นที่ 5 ระหว่างวันที่ 30-31 ม.ค. 55 ณ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดนครนายก โดยมี ดร.ธีระยุทธ วรพินิจ วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักนายกรัฐมนตรี และวิทยากรจากสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมบรรยาย

กทม. จัดหน่วยแพทย์เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยหมู่บ้านเศรษฐกิจ

(28 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดหน่วยแพทย์เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ คณะผู้บริหารชมรมสันติสุขไทย-อินเดีย คณะผู้บริหารสำนักอนามัย คณะผู้บริหารสำนักงานเขตบางแค เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ร่วมงาน ณ ลานกีฬากรุงเทพมหานคร หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยและสำนักงานเขตบางแค ร่วมกับมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และชมรมสันติสุขไทย-อินเดีย จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการด้านสุขภาพ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งสุขภาพร่างกายและสภาพจิตใจ โดยให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจคัดกรองความเสี่ยงสุขภาพ ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพกายและจิตใจ มอบข้าวสาร ชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือน คู่มือประชาชนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมจากอุทกภัย รวมทั้งฉีดพ่นยุงลายในชุมชนป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยียวยาสุขภาพกายและจิตใจแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ 5 ม.ค. 55 บริเวณหมู่บ้านมณีมาศทาวเฮาส์ เขตคันนายาว 12 ม.ค. 55 บริเวณวัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน และ 19 ม.ค. 55 บริเวณหมู่บ้านสกุลทิพย์ เขตทวีวัฒนา ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ขอเชิญประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเข้ารับบริการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เวลา 10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับผู้บริหารนิตยสาร Asean Affairs
เข้าพบ เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการจัดประชุม Save Our Planet
ณ ห้องอัมรินทร์ กทม.
เวลา 14.30 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวโครงการจัดทำสื่อ
ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในต่างประเทศ
ณ ห้องรีเจนซี โรงแรมแมนดาริน โฮเตล เขตบางรัก
เวลา 18.00 น. แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจความปลอดภัยในสถานบริการ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่
ณ สถานบริการมาร์โคโปโล บางรัก

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เวลา 06.10 น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีสงฆ์และพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) เขตธนบุรี

เวลา 09.00 น. แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กทม. ณ ลานกีฬากรุงเทพมหานคร วงเวียนหมู่บ้านเศรษฐกิจ ผัง ข เขตบางแค

เวลา 09.30 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรระดับปฏิบัติการของกทม. ณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ชั้น1 โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ สุขุมวิท

เวลา 13.30 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมพื้นที่นำร่องโครงการความร่วมมือด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการซ่อมแซมบ้านเรือนในชุมชน ณ บริเวณชุมชนอยู่แล้วรวย และชุมชนแอนเน็กซ์ เขตหลักสี่

เวลา 16.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และเฝ้าฯ รับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) เขตธนบุรี

บางกอกน้อยรับอาสาสมัครลานกีฬา

นายอภิรัฐ ตราดุษฎี ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นอาสาสมัครลานกีฬากรุงเทพมาหนคร จำนวน 3 อัตรา (เพศชาย) ผู้สนใจขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตบางกอกน้อย ตั้งแต่วันที่ 4–13 ม.ค. 55 ในวันและเวลาราชการ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2424 0056 ต่อ 5689 และ 5691

ปทุมวันแจ้งเตือนสถานประกอบการ เน้นความปลอดภัยในช่วงฉลองศกใหม่

นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. แจ้งว่า ในช่วงเทศกาลจัดงานรื่นเริงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ ประชาชนนิยมใช้สถานที่ต่างๆ เช่น สถานประกอบการ ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม หรือสถานบริการ เพื่อเป็นที่พบปะสังสรรค์และจัดงาน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความประมาทในการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้า หรือวัสดุที่ใช้ตกแต่งอาคารในการจัดงาน ดังนั้น กรุงเทพมหานครจึงออกมาตรการป้องกันและบรรเทาภัยที่อาจจะเกิดขึ้น โดยขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบกิจการ สถานบริการ และผู้จัดงานรื่นเริงหรือเจ้าของอาคารให้เน้นความปลอดภัยในช่วงเทศกาลดังกล่าว โดยจัดให้มีเครื่องดับเพลิงแบบมือถืออย่างน้อย 1 เครื่อง กรณีมีพื้นที่สถานบริการหรือพื้นที่จัดงานตั้งแต่ 100 ตารางเมตร ขึ้นไป และขอให้มีเครื่องดับเพลิงเพิ่มอีกอย่างน้อย 1 เครื่อง ทุกระยะห่างไม่เกิน 20 เมตร ติดตั้งไว้ทุกชั้นที่มีการจัดงานโดยสูงจากระดับพื้นอาคารไม่เกิน 1.50 เมตร หยิบใช้สอยได้อย่างสะดวก ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ติดตั้งระบบส่งสัญญาณเตือนครอบคลุมพื้นที่บริการ มีระบบไฟฟ้าสำรองกรณีฉุกเฉิน จัดทางออกทางหนีไฟอย่างน้อย 2 ทาง โดยเปิดออกได้อย่างสะดวกไม่มีสิ่งกีดขวาง มองเห็นป้ายบอกทางได้ชัดเจน รวมทั้งมีการติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคารบอกตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง ทางหนีไฟ ทางออก และประตูทางออกไว้ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนด้วย
นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ใช้บริการหรือผู้ร่วมงานให้หลีกเลี่ยงการตกแต่งสถานที่ด้วยวัสดุที่ติดไฟง่าย หรือลามไฟเร็ว และควรงดการละเล่น การแสดงที่มีการใช้อุปกรณ์หรือของเล่นที่ทำให้เกิดประกายไฟโดยเด็ดขาด พร้อมจัดให้มีผู้ควบคุม ดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ

เขตคลองสานสุ่มตรวจกระเช้าปีใหม่ใส่ใจผู้บริโภค

นายขจิต ชัชวานิชย์ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน กทม. เปิดเผยว่า เขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลลงพื้นที่ตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อสุ่มตรวจกระเช้าของขวัญปีใหม่ พร้อมให้คำแนะนำแก่ผู้จัดจำหน่าย อาทิ สินค้าที่นำมาบรรจุกระเช้าจะต้องเป็นสินค้าที่ดี มีคุณภาพ มีรายละเอียดราคาสินค้า วันที่ผลิตและวันที่หมดอายุ หากเป็นสินค้าประเภทอาหารบรรจุภัณฑ์ต้องมีตรา อย. และมีระยะเวลาก่อนหมดอายุอย่างน้อย 6 เดือน หรือหากเป็นสินค้าประเภทผัก ผลไม้ จะต้องรอจำหน่ายได้ไม่เกิน 3 วัน นอกจากนี้บริเวณที่ตั้งวางจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ จะต้องติดป้ายข้อความว่า “กระเช้าของขวัญนี้ ได้เข้าร่วมโครงการควบคุมคุณภาพสินค้าของกรุงเทพมหานคร ในการจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555” และติดป้ายแสดงข้อความว่า “หากผู้บริโภคไม่พอใจในสินค้า สามารถนำมาเปลี่ยนคืนได้ภายใน 28 ก.พ. 55” ฉะนั้นขอให้ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อกระเช้าของขวัญปีใหม่สังเกตป้ายประกาศดังกล่าว ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อความมั่นใจในการบริโภคและประโยชน์ของตัวท่านเอง

เขตลาดกระบังและปทุมวันเชิญร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งในเทศกาลปีใหม่

เขตลาดกระบัง นายประวิช ศรีวิลัย ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง กทม. แจ้งว่า เขตฯ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตลาดกระบังกำหนดจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ จำนวน 85 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ในวันที่ 1 ม.ค. 55 ณ สวนพระนคร เขตลาดกระบัง ตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวลาดกระบังและบริเวณใกล้เคียง ร่วมกิจกรรมโดยพร้อมเพรียงกัน
เขตปทุมวัน นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. แจ้งว่า กรมพลศึกษา เขตปทุมวัน กำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 55 รูป เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2555 ในวันที่ 29 ธ.ค. 54 เวลา 07.00 น. ณ อาคารสมบัติ คุรุพันธ์ นันทนาการ ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อรักษาวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม อันเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้มีโอกาสสร้างบุญกุศล โดยสิ่งของที่ได้รับจากการบิณฑบาตจะนำไปถวายวัดสระเกศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี และวัดสระแก้ว จังหวัดอ่างทอง เขตฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้งรับปีใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2216 7849

สวนหลวงพัฒนาทำความสะอาดพื้นที่

นายประเวศ เพียรธรรม ผู้อำนวยการเขตสวนหลวง กทม. แจ้งว่า เขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดฯ ล้างทำความสะอาดถนน ตรอก ซอย และสะพานลอยคนข้าม ในวันที่ 29 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 10.00–11.30 น. บริเวณ ถ.สุขุมวิท 77 หน้าตลาดคลองตัน และวันที่ 30 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 13.00–14.00 น. ถ.อ่อนนุช ตั้งแต่ ซ.อ่อนนุช 36 - สะพานคลองบ้านหลาย โดยล้างคราบสกปรก ฝุ่นละออง ข้อความต่างๆ ที่มีผู้ขีดเขียนเพื่อความสะอาด สวยงาม และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่

กทม. จัดพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

(27 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมงาน ณ วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี
กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานเขตฝั่งธนบุรี 15 สำนักงานเขต ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2554 ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) และถนนลาดหญ้าตลอดสาย ในวันที่ 27–28 ธ.ค. 54 ตลอด 2 วัน 2 คืน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีต่อชาติไทย สำหรับการจัดงานเทิดพระเกียรติฯ ในวันที่ 27 ธ.ค. 54 เวลา 09.00 น. จะมีพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี และจะมีพิธีเปิดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2554 ในเวลา 19.00 น. ณ เวทีกลางใกล้ซุ้มประตูไทยซิกข์เฉลิมพระเกียรติ ถนนลาดหญ้า ส่วนในวันที่ 28 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช และพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
นอกจากนี้บริเวณถนนลาดหญ้ายังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน การจัดมหรสพเทิดพระเกียรติฯ และกิจกรรมความบันเทิง 3 เวทีใหญ่ อาทิ การแสดงดนตรีลูกทุ่ง อุปรากรจีน ลิเก สิงโต มังกรทอง การประกวดอาหาร การแข่งขันชกมวยและตะกร้อลอดบ่วง ทั้งนี้กทม. จะปิดการจราจรบริเวณถนนลาดหญ้า ตั้งแต่ถนนรอบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) ถึงแยกคลองสาน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. 54 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค. 54

กทม. ส่งทัพนักกีฬากว่า 600 คน ลงชิงชัยนครหาดใหญ่เกมส์ 4-13 ม.ค.55

ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ให้โอวาทนักกีฬากรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 “นครหาดใหญ่เกมส์” ระหว่างวันที่ 4-13 ม.ค. 55 ณ เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมย้ำให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจ ลงแข่งขันด้วยจิตวิญญาณของนักกีฬาที่แท้จริง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจนักกีฬา เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ นำชื่อเสียงมาสู่กรุงเทพมหานครและตนเองต่อไป
(27 ธ.ค. 54) เวลา 15.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีให้โอวาทแก่นักกีฬานักเรียนกรุงเทพมหานคร ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29 ภายใต้ชื่อ “นครหาดใหญ่เกมส์” ซึ่งกำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 4-13 ม.ค. 55 ณ เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน และนักกีฬา ร่วมพิธี ณ ลานหน้าองค์พระพุทธนวราชบพิตร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพมหานครได้ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ครั้งที่ 29 ซึ่งจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 4-13 ม.ค.55 ณ เทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ที่กรุงเทพมหานครส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีความสามัคคี ในหมู่คณะและมีระเบียบวินัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพพลานามัยของนักเรียนให้แข็งแรง พัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และจิตใจ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ตลอดจนได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านกีฬา มุ่งแสดงความสามารถ เสริมสร้างประสบการณ์ในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ
ในการแข่งขันครั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ส่งนักกีฬานักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทุกชนิดกีฬา ประกอบด้วย กีฬาบังคับ จำนวน 9 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอล ฟุตบอลชาย ฟุตซอลชาย เซปักตะกร้อ วอลเลย์บอลชายหาด เปตอง และแบดมินตัน กีฬาสาธิต จำนวน 4 ชนิดกีฬา คือ เทนนิส ฟุตบอลหญิง ฟุตซอลหญิง หมากฮอสและหมากรุก ส่วนผู้เข้าร่วมแข่งขันประกอบด้วยนักกีฬา จำนวน 661 คน ผู้จัดการทีม ผู้ควบคุมทีม ผู้ฝึกสอน จำนวน 339 คน กรรมการและเจ้าหน้าที่ จำนวน 115 คน รวมทั้งสิ้น 1,115 คน ทั้งนี้ผลการแข่งขันที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้รับเหรียญชนะเลิศรวมทุกปี และในปี 2554 ได้รางวัลชนะเลิศเหรียญรวม จำนวนเหรียญทอง 68 เหรียญ เหรียญเงิน 33 เหรียญ เหรียญทองแดง 99 เหรียญ รวมทั้งหมด 144 เหรียญ และในการแข่งขันครั้งนี้กรุงเทพมหานครคาดว่าจะได้รับเหรียญมากที่สุดเหมือนปีที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 436 โรงเรียน เพราะการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความสมบูรณ์ จำเป็นต้องพัฒนาทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคมควบคู่กันไป อย่างไรก็ตามถึงแม้กรุงเทพมหานครจะประสบกับสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้การคัดเลือกตัวนักกีฬา และการฝึกซ้อมเป็นไปอย่างลำบาก แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการในครั้งนี้ ขอให้นักกีฬาทุกคนควรตระหนักถึงบทบาทหน้าที่อันสำคัญยิ่ง ในฐานะที่ทุกคนเป็นตัวแทนของกรุงเทพมหานคร รักษาระเบียบ วินัย มีน้ำใจนักกีฬา เอื้ออาทร และมีไมตรีจิตต่อเพื่อนนักกีฬา กรรมการผู้ตัดสิน และเข้าร่วมการแข่งขันด้วยจิตวิญญาณของนักกีฬาที่แท้จริง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รวมถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน ตลอดจนนักกีฬาเองที่ได้หมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในการแข่งขัน นำชื่อเสียงมาสู่กรุงเทพมหานครและตนเองต่อไป

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

09.00 น. พญมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับมอบเงินบริจาคเพื่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียนจากสมาชิกชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
ณ ชมรมผู้สูงอายุโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
09.15 น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ณ วัดอินทรารามวรวิหาร เขตธนบุรี
14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุม กอ.รมน.กทม. ครั้งที่ 4/2554
ณ ห้องนพรัตน์ กทม.
15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีให้โอวาทนักกีฬากรุงเทพมหานครอำลาไปแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 29
ณ บริเวณหน้าองค์พระ กทม.

สภากทม. ร่วมกับเขตจอมทองสำรวจถนนกำนันแม้น เขตจอมทอง ก่อนปรับปรุงถนนและระบบทั้งเส้นทาง

(26 ธ.ค. 54) เวลา 09.30 น. : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายนิวัฒน์ ไชยมิ่ง ผู้อำนวยการเขตจอมทอง ลงพื้นที่ตรวจและสำรวจถนนกำนันแม้น ตั้งแต่บริเวณถนนเอกชัยถึงถนนกัลปพฤกษ์ รวมระยะทาง 2 กม. ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขังบริเวณถนนกำนันแม้นข้างศาลอาญาธนบุรี เพื่อเตรียมการปรับปรุงบริเวณถนน และทางเท้าทั้งหมด โดยมีผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง บริษัท ทศท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมลงสำรวจพื้นที่ ณ บริเวณถนนกำนันแม้น เขตจอมทอง

ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดมหาอุทกภัยขึ้นในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ทำให้หลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งพื้นที่ของเขตจอมทอง อาทิ บริเวณแขวงบางขุนเทียน แขวงบางค้อ และแขวงจอมทองบางส่วนได้รับผลกระทบ และถนนหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะถนนกำนันแม้น แขวงบางขุนเทียน เขตจอมจอมทอง เป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญที่ประชาชนต้องใช้ในการสัญจรจำนวนมาก ได้รับความเสียหายอย่างมาก สภากรุงเทพมหานครจึงร่วมกับสำนักงานเขตจอมทอง เตรียมดำเนินการปรุบปรุงถนน ท้างเท้า ระบบระบายน้ำ และระบบสาธารณูปโภคใหม่ทั้งหมด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรและปัญหาน้ำท่วมขังในถนนกำนันแม้นในระยะยาว โดยจะมีการปรับปรุงถนนแอสฟัลต์ทั้งเส้นทาง ซึ่งบริเวณพื้นผิวถนนจะเพิ่มความสูงจากเดิมอีก 40 ซม. ปรับปรุงทางเท้าทั้งหมด อีกทั้งมีการวางท่อระบายน้ำ และระบบสาธารณูปโภคใหม่ทั้งเส้นทาง อาทิ ระบบน้ำประปา ระบบโทรศัพท์ และระบบไฟฟ้า เป็นต้น โดยโครงการทั้งหมดกำหนดก่อสร้างในต้นปี 2555 และคาดการณ์แล้วเสร็จประมาณกลางปี พ.ศ. 2555 ทั้งนี้ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างจะมีการปรับการจราจรเป็นเส้นทางเดินรถทางเดียว (One Way) ทั้งเส้นทาง เพื่อให้การจราจรในบริเวณนี้เกิดความคล่องตัวอีกด้วย

กทม. จับมือกรมป้องกันฯ ตั้งเป้าปีใหม่อุบัติเหตุลดลง 5 เปอร์เซ็น

(21 ธ.ค. 54) พันตำรวจโทสมเกียรติ นนทแก้ว ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2555 ณ ศูนย์ปฎิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่งเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2555 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 54 – 4 ม.ค. 55 เพื่อสนับสนุนการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ และลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าการเกิดอุบัติเหตุให้ไม่เกิน 3,321 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่เกิน 3,563 คน และผู้เสียชีวิตไม่เกิน 340 คน

ลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำช่วยประชาชนแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย

สำหรับประชาชนที่ใช้บริการสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ทั้ง 20 แห่ง ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2554 จะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน วงเงินเกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาทต่อเดือน วงเงินจำนำตั้งแต่ 1 – 20,000 บาท รวมต่อราย (บุคคล) ไม่เกิน 100,000 บาท วงเงินเกิน 20,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย พร้อมทั้งขยายเวลาครบกำหนดจาก 5 เดือนเป็น 7 เดือน

สำหรับลูกค้าที่มีตั๋วจำนำเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งทรัพย์ได้หลุดจำนำเป็นสิทธิ์ของกรุงเทพมหานครแล้ว สามารถตามซื้อทรัพย์หลุดจำนำกลับคืนได้ โดยเรียกเก็บเพิ่มเฉพาะส่วนของดอกเบี้ยตามระยะเวลา ณ วันที่ลูกค้ามาตามซื้อคืน ในส่วนของสถานธนานุบาลบางพลัด ซึ่งปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2554 และเริ่มเปิดทำการในวันที่ 6 ธันวาคม 2554 นั้น กทม. ได้ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2554 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 และงดคิดดอกเบี้ยรับจำนำระหว่างที่สถานธนานุบาลปิดทำการ

ออกมาตราการเยียวยาผู้เสียภาษีที่ประสบอุทกภัย

โดยก่อนหน้านี้ กทม. ได้ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียภาษีที่ประสบอุทกภัย ในส่วนของภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยผู้เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยไม่สามารถประกอบกิจการเพื่อหารายได้ในระหว่างเกิดอุทกภัย สามารถยื่นคำร้องขอลดภาษีได้ โดยยื่นคำร้องขอลดภาษีในปี 2555 พร้อมกับการยื่นแบบพิมพ์ (ภ.ร.ด.2) เพื่อเสียภาษี และขยายเวลาการยื่นแบบพิมพ์ (ภ.ร.ด.2) ออกไป 2 เดือน จากภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นภายในเดือนเมษายน 2555 ตามมาตรา 19 และสามารถเลือกผ่อนชำระค่าภาษีได้ 3 งวด โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2541) หรือผ่อนได้ไม่จำกัดงวด โดยเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการบริหารการชำระหนี้ พ.ศ. 2547

ในส่วนของผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่จะได้รับการยกเว้นภาษี หากที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้รับความเสียหายเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก แต่หากที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้รับความเสียหายเกินกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกจะได้รับการลดหย่อนภาษีตามส่วนที่เสียหาย รวมถึงขยายเวลาเสียภาษีบำรุงท้องที่ออกไป 3 เดือน จากเดือนเมษายน 2555 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2555 ตามมาตรา 36

ขยายเวลาคิดค่าโดยสาร BRT อัตรา 10 บาทตลอดสายอีก 1 ปี

นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ขยายเวลาการจัดเก็บค่าโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร – ราชพฤกษ์ ในอัตรา 10 บาทตลอดสายไปอีก 1 ปี เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนภายหลังวิกฤติน้ำท่วม

กทม. ขยายเวลาขึ้น BTS ฟรี ช่วงอ่อนนุช – แบริ่ง ถึงสิ้นเดือนเมษายน 55

(26 ธ.ค. 54) ณ ศาลาว่าการกทม. : นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 35/2554 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการพิจารณาลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 อ่อนนุช–แบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร และได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าโดยสารตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการ คือ วันที่ 12 ส.ค. 54 จนถึง 1 ม.ค. 55 โดยที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลายกเว้นการเก็บค่าโดยสารไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 55

ขอความร่วมมือประชาชนทิ้งขยะในจุดที่จัดเตรียมไว้

(26 ธ.ค. 54) ณ ศาลาว่าการกทม. : นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 35/2554 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาขยะตกค้าง ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบปริมาณขยะตกค้างลดลงจนเป็นที่น่าพอใจ ยังคงมีเพียงขยะจำพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกน้ำท่วมซึ่งมีขนาดใหญ่และเป็นปัญหาในการจัดเก็บ รวมถึงการที่ประชาชนนำขยะดังกล่าวมากองริมถนนหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจัดเก็บขยะตกค้างไปแล้ว ทำให้เกิดทัศนียภาพที่ไม่น่ามอง

ทั้งนี้กทม. ขอความร่วมมือประชาชนนำขยะไปทิ้งยังจุดที่สำนักงานเขตได้จัดเตรียมไว้ หากพบเห็นขยะตกค้างจำนวนมากในพื้นที่ใด ขอให้แจ้งที่สายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือสายตรงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โทร. 08 1933 5999 เพื่อให้พื้นที่กรุงเทพฯ ปลอดน้ำ ปลอดขยะ ปลอดยุง ก่อนปีใหม่นี้ ซึ่งเป็นความตั้งใจของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่จะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนกรุงเทพฯ

กทม. เร่งฟื้นฟูศาสนสถาน หลังเกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยในกรุงเทพฯ

(26 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมฟื้นฟูศาสนสถาน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเร่งฟื้นฟูศาสนสถาน และแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายให้กลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ดร.อับดุลเลาะห์ หนุ่มสุข อิหม่ามประจำมัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะห์ พันเอก นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร และประชาชนในพื้นที่ ร่วมงาน ณ มัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะห์ (คลองสามวา) ซ.หทัยราษฎร์ 38 เขตคลองสามวา

เนื่องจากเกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือน ต.ค. 54 เป็นต้นมา ทำให้ 37 พื้นที่เขตในกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ประชาชน ชาวกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบไร้ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงศาสนสถานและแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้รับผลกระทบด้วย กทม. จึงมีนโยบายในการฟื้นฟูเมืองทั้งในด้านกายภาพ สภาพแวดล้อม รวมถึงด้านวัฒนธรรมด้วย โดยได้จัดกิจกรรมฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในครั้งนี้ ระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค. 54 กิจกรรมประกอบด้วย 1. การฟื้นฟูศาสนสถานในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การล้างทำความสะอาด ศาสนสถาน การปรับปรุงภูมิทัศน์ศาสนสถาน การปลูกไม้ยืนต้น ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและปูหญ้าภายในบริเวณศาสนสถาน การออกหน่วย บริการสาธารณสุข การออกหน่วยฝึกอาชีพและให้บริการซ่อมเครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเสวนาธรรม ในหัวข้อ “สร้างสุขลดทุกข์ตามหลักศาสนาหลังมหาอุทกภัย” ซึ่งจะจัดขึ้นรวมทั้งหมด จำนวน 4 ครั้ง ณ ศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ได้แก่ วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา ในวันที่ 23 ธ.ค. 54 วัดพรหมรังษี เขตดอนเมือง ในวันที่ 24 ธ.ค. 54 วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) เขตภาษีเจริญ ในวันที่ 25 ธ.ค. 54 และมัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะ (คลองสามวา) ในวันที่ 26 ธ.ค. 54 และ 2. กิจกรรมตลาดนัดศิลปะ (Art Market) ในวันที่ 23-25 ธ.ค. 54 ณ ลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างพื้นที่ให้แก่ศิลปินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยได้มีโอกาสจำหน่ายผลงานและแสดงออกทางศิลปะ ฟื้นฟูสถานภาพทางอาชีพของศิลปินและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการกระจายรายได้

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน ประชาชนผู้มีจิตอาสา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเทจัดกิจกรรมครั้งนี้ และตนเองเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดเหตุภัยใดๆ หากทุกคนร่วมมือและร่วมใจกันเช่นครั้งนี้ ก็จะร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตไปได้

เตรียมพบกับมหกรรมสินค้าราคาถูกครั้งที่ 3 วันที่ 5-8 ม.ค. 55

(23 ธ.ค. 54) นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “มหกรรมสินค้าถูก รวมกันเราทำได้” ครั้งที่ 2 ของกลุ่มกรุงธนเหนือ ณ บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับผู้ผลิต และผู้ประกอบการ จัดขึ้นวันที่ 23–25 ธ.ค. 54 เวลา 10.00–21.00 น. เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย ให้ได้เลือกซื้อสินค้าอุปโภค–บริโภค วัสดุ อุปกรณ์ล้างทำความสะอาด ซ่อมแซม และตกแต่งบ้านจากผู้ประกอบการ หรือผู้ผลิตโดยตรง เป็นการช่วยลดรายจ่ายและค่าครองชีพให้ประชาชน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ

สำหรับ “มหกรรมสินค้าถูก รวมกันเราทำได้” กำหนดจัดรวม 4 ครั้ง ซึ่งอีก 2 ครั้ง ได้แก่ กลุ่มกรุงธนใต้ วันที่ 22-25 ธ.ค. 54 ณ บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ( ฝั่งธนบุรี) เขตบางพลัด วันที่ 5-8 ม.ค. 55 ณ บริเวณสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพระราม 2 เขตบางขุนเทียน และกลุ่มกรุงเทพเหนือ วันที่ 12-15 ม.ค. 55 ณ บริเวณประตูกรุงเทพฯ กม. 25 เขตสายไหม ตั้งแต่เวลา 10.00–21.00 น. โดยจัดกิจกรรมในงาน อาทิ จำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาประหยัดจากผู้ผลิต จำหน่ายสินค้าซ่อมแซม ตกแต่งและล้างทำความสะอาดบ้าน ให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และคำแนะนำการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด บริการจัดหางานจากกระทรวงแรงงาน บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี ฝึกอาชีพระยะสั้น ซ่อมรถจักรยานยนต์ ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจากโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร และกิจกรรมสาระบันเทิงบนเวทีตลอดงาน

ยกชุมชนวัดไชยทิศ เป็น 1 ในชุมชนน่าอยู่เขตบางกอกน้อย

บางกอกน้อยเดินหน้าพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ยกชุมชนวัดไชยทิศเป็น 1 ในชุมชนน่าอยู่ จากทั้งหมด 18 ชุมชน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้มหานครแห่งนี้ ก้าวสู่กรุงเทพเมืองสวรรค์ต่อไป

(24 ธ.ค. 54) เวลา 11.30น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “ชุมชนน่าอยู่” เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บริเวณชุมชนวัดไชยทิศ เขตบางกอกน้อย โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตในกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรม จากนั้นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชน ประกอบด้วย ทาสีกำแพงวัด เทน้ำ EM บำบัดน้ำเสียในคูคลอง พัฒนาทำความสะอาดริมคลอง แจกต้นไม้ให้ชุมชน และปลูกต้นศรีมหาโพธิ์บริเวณวัดไชยทิศ

รองผู้ว่าฯ พรเทพ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการ “ชุมชนน่าอยู่” เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เนื่องวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนาชุมชน จำนวน 840 ชุมชน ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ให้มีความน่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเอง โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการจราจร สำนักการระบายน้ำ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดดำเนินการในวันเสาร์–อาทิตย์ ระหว่างเดือน ก.ย. – ธ.ค. 54 ด้วยการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การจัดเก็บขยะ ทำความสะอาดทางเท้า เก็บของเหลือใช้ ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว กำจัดน้ำเน่าเสีย ด้านสุขภาพอนามัย เช่น ตรวจสุขภาพแก่ประชาชนในชุมชน กำจัดลูกน้ำยุงลายและสัตว์นำโรคต่างๆ และด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ทำความสะอาดหลอดไฟ เปลี่ยนหลอดไฟ เพิ่มแสงสว่างในชุมชน ซึ่งเขตบางกอกน้อยได้ดำเนินงานตามชุมชนต่างๆ เสร็จสิ้นไปแล้ว จำนวน 17 ชุมชน ในครั้งนี้ได้ร่วมแรงร่วมใจกับชาวชุมชนวัดไชยทิศ ในการดำเนินงานต่อยอดให้สำเร็จครบ 100% ตามแผนดำเนินงานพัฒนาชุมชนน่าอยู่ รวมทั้งสิ้น 18 ชุมชน เพื่อถวายความจงรักภักดี และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 54 และสร้างชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีรอยยิ้ม เดินหน้าพัฒนามหานครแห่งนี้ ให้ก้าวสู่การเป็นกรุงเทพเมืองสวรรค์ต่อไป

กทม. ร่วมฟื้นฟูวัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร เขตภาษีเจริญหลังน้ำลด

(25 ธ.ค. 54) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมฟื้นฟูด้านวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ร่วมกับสำนักงานเขตภาษีเจริญ วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดขึ้น ณ วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) เขตภาษีเจริญ เพื่อฟื้นฟูศาสนสถาน และแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 เป็นต้นมา

สำหรับการจัดงานฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งนี้ กรุงเทพมหานครกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค. 54 ณ ศาสนสถานในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 4 ครั้ง ประกอบด้วย วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 54 วัดพรหมรังษี เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 54 และมัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะ (คลองสามวา) เขตคลองสามวา ในวันที่ 26 ธ.ค. 54 โดยมีกิจกรรมต่าง อาทิ การฟื้นฟูศาสนสถานการล้างทำความสะอาดศาสนสถาน การปรับปรุงภูมิทัศน์ศาสนสถาน การปลูกไม้ยืนต้น ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและปูหญ้าภายในบริเวณศาสนสถาน การออกหน่วยบริการสาธารณสุข การออกหน่วยฝึกอาชีพและให้บริการซ่อมเครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเสวนาธรรมในหัวข้อ “สร้างสุขลดทุกข์ตามหลักศาสนาหลังมหาอุทกภัย”

กทม. จับมือ 4 สถาบันการเงินชั้นนำ เปิดตัวโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ร่วมเยียวยาคนกรุง

กทม. เดินหน้าเยียวยาชีวิต ฟื้นฟูเศรษฐกิจคนกรุง ผนึกกำลังสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง เปิดตัวโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ช่วยเยียวยาชีวิตและฟื้นฟูเศรษฐกิจคนกรุง

(24 ธ.ค. 54) ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย–ญี่ปุ่น) : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการในวันแรก กว่า 1,000 คน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า โครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” จัดขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า หรือบริการขนาดเล็ก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม ด้วยสถานการณ์มหาอุทกภัย ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายจำนวน 600,000 ครัวเรือน จากทั้งหมด 37 เขต ซึ่งส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน ประชาชนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ในการฟื้นฟู และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องหันไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามเวลาที่กำหนด กรุงเทพมหานคร พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ได้รับผลกระทบ จึงได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อเปิดให้บริการสินเชื่อพิเศษแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมและผู้ที่ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟู หรือสร้างกิจการใหม่ เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น กรุงเทพมหานครจะจัดมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้น โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธเพื่อรับสมัคร พร้อมให้คำแนะนำจากสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งประชาชนหรือสถานประกอบการที่สนใจสามารถนำเอกสาร หลักฐาน มาแสดงความจำนงได้ โดยจะอนุมัติวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดตามความจำเป็นในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และผ่อนชำระเงินคืนนานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านในกทม. อีกด้วย และพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงาน จะได้รับบัตร Fast Track ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก่อนใคร หากเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง สามารถรู้ผลได้ภายใน 5 วัน

กรุงเทพมหานครมีความมุ่งมั่น จริงใจ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถก้าวผ่านจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่นี้ไปให้ได้ และโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ด้วยสินเชื่อพิเศษจากความร่วมมือของสถาบันการเงินชั้นนำที่จะช่วยกู้วิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิต และสภาพจิตใจของคนกรุงเทพฯ ให้กลับมาเข้มแข็งและเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างมีความสุข โดยประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ธนาคารออมสิน โทร. 1115 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0 2645 9000 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0 2555 0555

กทม. ยังมีอำนาจบริหารตลาดจตุจักรต่อแม้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 2 ม.ค. 55

ผู้ว่าฯกทม. ย้ำกทม. ยังมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อ เนื่องจากกฎหมายและมติ ค.ร.ม. ได้กำหนดไว้ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีสิทธิในฐานะเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถเข้าดำเนินการด้วยตนเองหรือจัดตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารจัดการได้เพราะขัดกับ พ.ร.บ.การรถไฟฯ

(25 ธ.ค. 54) เวลา 15.45 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้บริหารพื้นที่จตุจักร หลังสัญญาเช่าจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 ว่า กรุงเทพมหานครมีความชอบธรรมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 281 บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ ดังนั้นถือว่ากรุงเทพมหานครมีหน้าที่ตามที่กฎหมายระบุไว้ อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 22 และวันที่ 14 เม.ย. 25 กำหนดให้กรุงเทพมหานครใช้ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้ที่ดินไว้ โดยการรถไฟฯ มีเพียงสิทธิของการเป็นเจ้าของพื้นที่แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร หากการรถไฟฯ จะเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรหรือจัดตั้งบริษัทเข้ามาดำเนินการแทนก็จะขัดต่อ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ดังนั้นการรถไฟจะขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดให้การรถไฟเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรยังเป็นของกรุงเทพมหานคร

ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งผลการเจรจาทุกครั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นพ้องให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป แต่ที่ไม่ได้ข้อสรุปคือในส่วนของค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ซึ่งกรุงเทพมหานครยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่สูงขึ้นโดยยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม โดยอ้างอิงค่าเช่าพื้นที่ของตลาด อตก. ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นแนวทาง ในอัตราค่าเช่า 779 บาท/ตร.ม./ปี คิดเป็นค่าเช่าพื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 79 ล้านบาท/ปี แต่การรถไฟเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าพื้นที่สูงถึง 420 ล้านบาท/ปี หากกรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าในอัตราดังกล่าวก็สามารถทำได้ใน 2 แนวทาง ได้แก่ ใช้การพัฒนาแนวดิ่งเข้ามาแทนที่ด้วยการปรับพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์การค้าแทน จะส่งผลให้เสน่ห์ของการเป็นตลาดนัดจตุจักรหมดไป และการขึ้นค่าเช่าจนส่งผลกระทบต่อผู้ค้าและผู้ซื้อ เมื่อค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้นก็จะมีผู้ค้ารายใหญ่เข้ามาแทน เป็นการขัดกับเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่เริ่มตั้งตลาดนัดจตุจักรขึ้นมาซึ่งมีแนวทางในการช่วยเหลือให้ผู้ค้ารายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไปแม้สัญญาเช่าฉบับเดิมจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 เนื่องจากมติ ค.ร.ม. ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมากำหนดไว้ว่า เมื่อสัญญาเช่าหมดลงคู่สัญญาจะต้องกลับสู่สถานะเดิมก่อนวันทำสัญญา ซึ่งทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานครต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครจะรอความชัดเจนของมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธ.ค. 54 อีกครั้ง หาก ค.ร.ม. มีมติเห็นเป็นอย่างอื่น กรุงเทพมหานครยังสามารถบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรได้อีก 6 เดือน และกรุงเทพมหานครจะยื่นขอให้ทบทวนมติดังกล่าวอีกครั้ง

เชิญร่วมสืบสานและรำลึกตำนาน 100 ปี เขตบางกะปิ

(26 ธ.ค. 54) เวลา 18.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “ครบรอบ 100 ปี เขตบางกะปิ” ณ บริเวณลานว่างห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล (เก่า) ข้างสำนักงานเขตบางกะปิ ซึ่งสำนักงานเขตบางกะปิ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–27 ธ.ค. 54 ภายใต้ชื่องาน “ย้อนรอยตำนาน ร้อยอดีต 100 ปี เขตบางกะปิ” โดยช่วงเช้าวันนี้ (26 ธ.ค.) เวลา 07.00–12.00 น. จัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พิธีทางศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ณ สำนักงานเขตบางกะปิ ช่วงบ่ายเวลา 14.00–24.00 น. จัดกิจกรรมภาคบันเทิง อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียน เล่นเกมชิงรางวัล การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งนักเรียนจากรายงานชิงช้าสวรรค์ การแสดงดนตรีสตริง ณ บริเวณลานว่างห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล (เก่า) ข้างสำนักงานเขตบางกะปิ ส่วนในวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 14.00–24.00 น. พบกับกิจกรรมให้ความรู้ความบันเทิงมากมาย ประกอบด้วย นิทรรศการเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเขตบางกะปิ นิทรรศการแหล่งท่องเที่ยวในเขตบางกะปิ นิทรรศการให้ความรู้จากสถานศึกษาต่างๆ ในพื้นที่เขตบางกะปิ การออกร้านจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน การจำหน่ายอาหารอร่อยและของดีบางกะปิ นอกจากนี้ ศิลปิน ดารา ร่วมให้ความบันเทิงตลอดงาน อาทิ เล่นเกมส์ ตอบปัญหาชิงรางวัล ขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี และสืบสานตำนานเขตบางกะปิได้ฟรี ณ สำนักงานเขตบางกะปิ และบริเวณลานว่างห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล (เก่า) ตามวันเวลาที่กำหนด

วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สภากทม. ร่วมกับเขตจอมทองสำรวจถนนกำนันแม้น เขตจอมทอง ก่อนปรับปรุงถนนและระบบทั้งเส้นทาง

(26 ธ.ค. 54) เวลา 09.30 น. : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายนิวัฒน์ ไชยมิ่ง ผู้อำนวยการเขตจอมทอง ลงพื้นที่ตรวจและสำรวจถนนกำนันแม้น ตั้งแต่บริเวณถนนเอกชัยถึงถนนกัลปพฤกษ์ รวมระยะทาง 2 กม. ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมขังบริเวณถนนกำนันแม้นข้างศาลอาญาธนบุรี เพื่อเตรียมการปรับปรุงบริเวณถนน และทางเท้าทั้งหมด โดยมีผู้แทนจากการไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง บริษัท ทศท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมลงสำรวจพื้นที่ ณ บริเวณถนนกำนันแม้น เขตจอมทอง

กทม. ยังมีอำนาจบริหารตลาดจตุจักรต่อแม้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 2 ม.ค. 55

กทม. ยังมีอำนาจบริหารตลาดจตุจักรต่อแม้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 2 ม.ค. 55
ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำ กทม. ยังมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อ เนื่องจากกฎหมายและมติ ค.ร.ม. ได้กำหนดไว้ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีสิทธิในฐานะเจ้าของพื้นที่ไม่สามารถเข้าดำเนินการด้วยตนเองหรือจัดตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารจัดการได้เพราะขัดกับ พ.ร.บ.การรถไฟฯ
(25 ธ.ค. 54) เวลา 15.45 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าว กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้บริหารพื้นที่จตุจักร หลังสัญญาเช่าจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 ว่า กรุงเทพมหานครมีความชอบธรรมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักตรต่อไป ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 281 บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ ดังนั้นถือว่ากรุงเทพมหานครมีหน้าที่ตามที่กฎหมายระบุไว้ อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 22 และวันที่ 14 เม.ย. 25 กำหนดให้กรุงเทพมหานครใช้ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้ที่ดินไว้ โดยการรถไฟฯ มีเพียงสิทธิของการเป็นเจ้าของพื้นที่แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร หากการรถไฟฯ จะเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรหรือจัดตั้งบริษัทเข้ามาดำเนินการแทนก็จะขัดต่อ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ดังนั้นการรถไฟจะขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดให้การรถไฟเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรยังเป็นของกรุงเทพมหานคร
ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งผลการเจรจาทุกครั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นพ้องให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป แต่ที่ไม่ได้ข้อสรุปคือในส่วนของค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ซึ่งกรุงเทพมหานครยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่สูงขึ้นโดยยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม โดยอ้างอิงค่าเช่าพื้นที่ของตลาด อตก. ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นแนวทาง ในอัตราค่าเช่า 779 บาท/ตร.ม./ปี คิดเป็นค่าเช่าพื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 79 ล้านบาท/ปี แต่การรถไฟเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าพื้นที่สูงถึง 420 ล้านบาท/ปี หากกรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าในอัตราดังกล่าวก็สามารถทำได้ใน 2 แนวทาง ได้แก่ ใช้การพัฒนาแนวดิ่งเข้ามาแทนที่ด้วยการปรับพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์การค้าแทน จะส่งผลให้เสน่ห์ของการเป็นตลาดนัดจตุจักรหมดไป และการขึ้นค่าเช่าจนส่งผลกระทบต่อผู้ค้าและผู้ซื้อ เมื่อค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้นก็จะมีผู้ค้ารายใหญ่เข้ามาแทน เป็นการขัดกับเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่เริ่มตั้งตลาดนัดจตุจักรขึ้นมาซึ่งมีแนวทางในการช่วยเหลือให้ผู้ค้ารายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไปแม้สัญญาเช่าฉบับเดิมจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 เนื่องจากมติ ค.ร.ม. ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมากำหนดไว้ว่า เมื่อสัญญาเช่าหมดลงคู่สัญญาจะต้องกลับสู่สถานะเดิมก่อนวันทำสัญญา ซึ่งทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานครต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครจะรอความชัดเจนของมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธ.ค. 54 อีกครั้ง หาก ค.ร.ม. มีมติเห็นเป็นอย่างอื่น กรุงเทพมหานครยังสามารถบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรได้อีก 6 เดือน และกรุงเทพมหานครจะยื่นขอให้ทบทวนมติดังกล่าวอีกครั้ง

กทม.ร่วมฟื้นฟูวัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร เขตภาษีเจริญหลังน้ำลด

(25 ธ.ค.54) เวลา 10.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมฟื้นฟูด้านวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งกรุงเทพมหานคร โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ร่วมกับสำนักงานเขตภาษีเจริญ วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดขึ้น ณ วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) เขตภาษีเจริญ เพื่อฟื้นฟูศาสนสถาน และแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 เป็นต้นมา
สำหรับการจัดงานฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งนี้ กรุงเทพมหานครกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 -26 ธ.ค.54 ณ ศาสนสถานในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 4 ครั้ง ประกอบด้วย วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.54 วัดพรหมรังษี เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.54 และมัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะ(คลองสามวา) เขตคลองสามวา ในวันที่ 26 ธ.ค.54 โดยมีกิจกรรมต่าง อาทิ การฟื้นฟูศาสนสถานการล้างทำความสะอาดศาสนสถาน การปรับปรุงภูมิทัศน์ศาสนสถาน การปลูกไม้ยืนต้น ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและปูหญ้าภายในบริเวณศาสนสถาน การออกหน่วยบริการสาธารณสุข การออกหน่วยฝึกอาชีพและให้บริการซ่อมเครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเสวนาธรรมในหัวข้อ “สร้างสุขลดทุกข์ตามหลักศาสนาหลังมหาอุทกภัย”

กทม. ยังมีอำนาจบริหารตลาดจตุจักรต่อแม้จะหมดสัญญาเช่าในวันที่ 2 ม.ค. 55 ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำ กทม. ยังมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อ เนื่องจากกฎหมายและมติ ค.ร.ม. ได้กำหนดไว้ การรถไฟแห่งประเทศไท

(25 ธ.ค. 54) เวลา 15.45 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าว กรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นผู้บริหารพื้นที่จตุจักร หลังสัญญาเช่าจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 ว่า กรุงเทพมหานครมีความชอบธรรมในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักตรต่อไป ซึ่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 281 บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำบริการสาธารณะ ดังนั้นถือว่ากรุงเทพมหานครมีหน้าที่ตามที่กฎหมายระบุไว้ อีกทั้งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 22 และวันที่ 14 เม.ย. 25 กำหนดให้กรุงเทพมหานครใช้ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อจัดตลาดนัด ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้ที่ดินไว้ โดยการรถไฟฯ มีเพียงสิทธิของการเป็นเจ้าของพื้นที่แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักร หากการรถไฟฯ จะเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรหรือจัดตั้งบริษัทเข้ามาดำเนินการแทนก็จะขัดต่อ พ.ร.บ.การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ดังนั้นการรถไฟจะขอมติคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดให้การรถไฟเข้าบริหารตลาดนัดจตุจักรก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าอำนาจในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรยังเป็นของกรุงเทพมหานคร
ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานคร ได้หารือร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งผลการเจรจาทุกครั้งเป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นพ้องให้กรุงเทพมหานครบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไป แต่ที่ไม่ได้ข้อสรุปคือในส่วนของค่าเช่าพื้นที่เท่านั้น ซึ่งกรุงเทพมหานครยินดีที่จะจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในอัตราที่สูงขึ้นโดยยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม โดยอ้างอิงค่าเช่าพื้นที่ของตลาด อตก. ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงเป็นแนวทาง ในอัตราค่าเช่า 779 บาท/ตร.ม./ปี คิดเป็นค่าเช่าพื้นที่ตลาดนัดทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 79 ล้านบาท/ปี แต่การรถไฟเรียกร้องให้กรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าพื้นที่สูงถึง 420 ล้านบาท/ปี หากกรุงเทพมหานครจ่ายค่าเช่าในอัตราดังกล่าวก็สามารถทำได้ใน 2 แนวทาง ได้แก่ ใช้การพัฒนาแนวดิ่งเข้ามาแทนที่ด้วยการปรับพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นศูนย์การค้าแทน จะส่งผลให้เสน่ห์ของการเป็นตลาดนัดจตุจักรหมดไป และการขึ้นค่าเช่าจนส่งผลกระทบต่อผู้ค้าและผู้ซื้อ เมื่อค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้นก็จะมีผู้ค้ารายใหญ่เข้ามาแทน เป็นการขัดกับเจตนารมณ์เดิมตั้งแต่เริ่มตั้งตลาดนัดจตุจักรขึ้นมาซึ่งมีแนวทางในการช่วยเหลือให้ผู้ค้ารายย่อยมีสถานที่จำหน่ายสินค้า
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรต่อไปแม้สัญญาเช่าฉบับเดิมจะหมดลงในวันที่ 2 ม.ค. 55 เนื่องจากมติ ค.ร.ม. ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมากำหนดไว้ว่า เมื่อสัญญาเช่าหมดลงคู่สัญญาจะต้องกลับสู่สถานะเดิมก่อนวันทำสัญญา ซึ่งทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานครต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามกรุงเทพมหานครจะรอความชัดเจนของมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 27 ธ.ค. 54 อีกครั้ง หาก ค.ร.ม. มีมติเห็นเป็นอย่างอื่น กรุงเทพมหานครยังสามารถบริหารจัดการตลาดนัดจตุจักรได้อีก 6 เดือน และกรุงเทพมหานครจะยื่นขอให้ทบทวนมติดังกล่าวอีกครั้ง
----------------------

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กทม.ตั้งเป้าเก็บขยะดอนเมืองเสร็จในวันพรุ่งนี้

(24 ธ.ค.54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการจัดเก็บขยะบริเวณถนนวัดเวฬุวนาราม (ไผ่เขียว) และถนนกำแพงเพชร 6 เขตดอนเมือง โดยสั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งจัดเก็บขยะตกค้างในหมดก่อนสิ้นปีเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะสามารถจัดเก็บขยะให้แล้วเสร็จได้ในวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. จนถึงปัจจุบัน กทม.ได้จัดเก็บขยะไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 660,000 ตัน โดยเขตดอนเมืองเป็นเขตที่มีปริมาณขยะสูงสุด ซึ่งเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ได้ประเมินว่าปริมาณขยะตกค้างในเขตดอนเมืองอยู่ที่ประมาณ 6,000 ตัน ซึ่ง กทม.ได้ระดมกำลังจากหลายภาคส่วน ทั้งสำนักงานเขตต่างๆ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. รวมถึงหน่วยทหาร ช่วยกันจัดเก็บขยะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงขณะนี้ โดยคาดว่าในวันพรุ่งนี้จะจัดเก็บขยะทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นกองขยะตกค้างในพื้นที่ใด ขอให้แจ้งที่สายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือสายตรงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โทร. 08 1933 5999 เพื่อให้พื้นที่กรุงเทพฯ ปลอดน้ำ ปลอดขยะ ปลอดยุง ก่อนปีใหม่นี้

กทม.ตั้งเป้าเก็บขยะดอนเมืองเสร็จในวันพรุ่งนี้

(24 ธ.ค.54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการจัดเก็บขยะบริเวณถนนวัดเวฬุวนาราม (ไผ่เขียว) และถนนกำแพงเพชร 6 เขตดอนเมือง โดยสั่งการให้ทุกพื้นที่เร่งจัดเก็บขยะตกค้างในหมดก่อนสิ้นปีเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะสามารถจัดเก็บขยะให้แล้วเสร็จได้ในวันพรุ่งนี้ (25 ธ.ค.)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. จนถึงปัจจุบัน กทม.ได้จัดเก็บขยะไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 660,000 ตัน โดยเขตดอนเมืองเป็นเขตที่มีปริมาณขยะสูงสุด ซึ่งเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ได้ประเมินว่าปริมาณขยะตกค้างในเขตดอนเมืองอยู่ที่ประมาณ 6,000 ตัน ซึ่ง กทม.ได้ระดมกำลังจากหลายภาคส่วน ทั้งสำนักงานเขตต่างๆ สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. รวมถึงหน่วยทหาร ช่วยกันจัดเก็บขยะตั้งแต่เมื่อวานจนถึงขณะนี้ โดยคาดว่าในวันพรุ่งนี้จะจัดเก็บขยะทั้งหมดให้แล้วเสร็จได้ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นกองขยะตกค้างในพื้นที่ใด ขอให้แจ้งที่สายด่วน กทม. โทร. 1555 หรือสายตรงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โทร. 08 1933 5999 เพื่อให้พื้นที่กรุงเทพฯ ปลอดน้ำ ปลอดขยะ ปลอดยุง ก่อนปีใหม่นี้

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กทม.จับมือ 4 สถาบันการเงินชั้นนำ เปิดตัวโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ร่วมเยียวยาคนกรุงผ่าน

กทม.เดินหน้าเยียวยาชีวิต ฟื้นฟูเศรษฐกิจคนกรุง ผนึกกำลังสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง เปิดตัวโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระนานสูงสุด 30 ปี ช่วยเยียวยาชีวิตและฟื้นฟูเศรษฐกิจคนกรุง
(24 ธ.ค. 54) เวลา 10.00 น. ณ อาคารกีฬเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการในวันแรก กว่า 1,000 คน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า โครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” จัดขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งผู้ประกอบกิจการ ธุรกิจการค้า หรือบริการขนาดเล็ก ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม ด้วยสถานการณ์มหาอุทกภัย ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายจำนวน 600,000 ครัวเรือน จากทั้งหมด 37 เขต ซึ่งส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วน ประชาชนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้ทุนทรัพย์ในการฟื้นฟู และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องหันไปกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ซึ่งไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันตามเวลาที่กำหนด กรุงเทพมหานคร พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ได้รับผลกระทบ จึงได้ประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อเปิดให้บริการสินเชื่อพิเศษแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมและผู้ที่ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟู หรือสร้างกิจการใหม่ เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่สนใจให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น กรุงเทพมหานครจะจัดมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้น โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธเพื่อรับสมัคร พร้อมให้คำแนะนำจากสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งประชาชนหรือสถานประกอบการที่สนใจสามารถนำเอกสาร หลักฐาน มาแสดง ความจำนงได้ โดยจะอนุมัติวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดตามความจำเป็นในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และผ่อนชำระเงินคืนนานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องมีทะเบียนบ้านใน กทม. อีกด้วย และพิเศษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงาน จะได้รับบัตร Fast Track ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก่อนใคร หากเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้อง สามารถรู้ผลได้ภายใน 5 วัน
กรุงเทพมหานคร มีความมุ่งมั่น จริงใจ และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ ให้สามารถก้าวผ่านจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่นี้ไปให้ได้ และโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” จะเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ด้วยสินเชื่อพิเศษจากความร่วมมือของสถาบันการเงินชั้นนำที่จะช่วยกู้วิกฤติเศรษฐกิจ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิต และสภาพจิตใจของคนกรุงเทพฯ ให้กลับมาเข้มแข็งและเข้าสู่ภาวะปกติได้อย่างมีความสุข โดยประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ธนาคารออมสิน โทร. 1115 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0 2645 9000 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0 2555 0555

ยกชุมชนวัดไชยทิศ เป็น 1 ในชุมชนน่าอยู่เขตบางกอกน้อย

บางกอกน้อยเดินหน้าพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ยกชุมชนวัดไชยทิศเป็น 1 ในชุมชนน่าอยู่ จากทั้งหมด 18 ชุมชน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้มหานครแห่งนี้ ก้าวสู่กรุงเทพเมืองสวรรค์ต่อไป
(24 ธ.ค.54) เวลา 11.30น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “ ชุมชนน่าอยู่” เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา บริเวณชุมชนวัดไชยทิศ เขตบางกอกน้อย โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตในกลุ่มเขตกรุงธนเหนือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรม จากนั้นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้ร่วมกิจกรรมพัฒนาชุมชน ประกอบด้วย ทาสีกำแพงวัด เทน้ำ EM บำบัดน้ำเสียในคูคลอง พัฒนาทำความสะอาดริมคลอง แจกต้นไม้ให้ชุมชน และปลูกต้นศรีมหาโพธิ์บริเวณวัดไชยทิศ
รองผู้ว่าฯพรเทพ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้จัดทำโครงการ “ ชุมชนน่าอยู่” เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เนื่องวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนาชุมชน จำนวน 840 ชุมชน ในพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ให้มีความน่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของตนเอง โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการจราจร สำนักการระบายน้ำ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกำหนดดำเนินการในวันเสาร์ – อาทิตย์ ระหว่างเดือน ก.ย. – ธ.ค. 54 ด้วยการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น การจัดเก็บขยะ ทำความสะอาดทางเท้า เก็บของเหลือใช้ ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว กำจัดน้ำเน่าเสีย ด้านสุขภาพอนามัย เช่น ตรวจสุขภาพแก่ประชาชนในชุมชน กำจัดลูกน้ำยุงลายและสัตว์นำโรคต่างๆ และด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น ทำความสะอาดหลอดไฟ เปลี่ยนหลอดไฟ เพิ่มแสงสว่างในชุมชน ซึ่งเขตบางกอกน้อยได้ดำเนินงานตามชุมชนต่างๆ เสร็จสิ้นไปแล้ว จำนวน 17 ชุมชน ในครั้งนี้ได้ร่วมแรงร่วมใจกับชาวชุมชนวัดไชยทิศ ในการดำเนินงานต่อยอดให้สำเร็จครบ 100% ตามแผนดำเนินงานพัฒนาชุมชนน่าอยู่ รวมทั้งสิ้น 18 ชุมชน เพื่อถวายความจงรักภักดี และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 54 และสร้างชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนมีรอยยิ้ม เดินหน้าพัฒนามหานครแห่งนี้ ให้ก้าวสู่การเป็นกรุงเทพเมืองสวรรค์ต่อไป

คลองสามวาจัดกิจกรรมเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยและบูรณะฟื้นฟูศาสนสถานหลังน้ำลด

นายนราธิป ภัทรวิมล ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา กทม. แจ้งว่า สำนักงานเขต คลองสามวา ร่วมกับสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กำหนดจัดกิจกรรมฟื้นฟูศาสนสถานในพื้นที่เขต ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจะดำเนินการบริเวณมัสยิดดารุ้ลอีบาด๊ะ จัดกำลังเจ้าหน้าที่รณรงค์ล้างทำความสะอาดปรับปรุงภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ และปูหญ้า นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยการให้บริการประชาชนด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย การแจกจ่ายน้ำจุลินทรีย์ชีวภาพ (น้ำอีเอ็ม) การออกหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ การออกหน่วยฝึกอาชีพและให้บริการซ่อมเครื่องยนต์ - เครื่องใช้ไฟฟ้า และการเสวนาธรรม เรื่อง “สร้างสุขลดทุกข์ตามหลักศาสนาหลังมหาอุทกภัย” ตลอดจนกิจกรรมดนตรีและนันทนาการ “สร้างสุขเติมกำลังใจคืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ” ในวันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2554 เวลา 08.00 – 16.00 น. ณ มัสยิดดารุ้ลอีบาด๊ะห์ ถนนหทัยราษฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา
จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2554

08.30 น. นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา สพฐ.-ฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคีปี 7 ณ สนามกีฬาหัวหมาก
09.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรมฟื้นฟูศาสนสถาน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมฯ ณ วัดพรหมรังษี เขตดอนเมือง
09.00 น. นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการชุมชนน่าอยู่เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
ณ ชุมชนวัดไชยทิศ จรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย
10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “ยิ่มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม”
ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศุนย์เยาวชน (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง
11.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจพื้นที่การจัดเก็บขยะพื้นที่ดอนเมือง
สำนักงานเขตดอนเมือง

กำหนดการกรุงเทพมหานคร
วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554
*****************
10.30 น. พ.ญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีฟื้นฟูศาสนสถาน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมฯ
ณ อาคารมานนา วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) เขตภาษีเจริญ

กำหนดการกรุงเทพมหานคร
วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554
*****************
09.00 น. นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกิจกรรมฟื้นฟูศาสนสถาน พิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมฯ
ณ มัสยิดดารุ๊ลอีบาดะห์ (คลองสามวา) เขตคลองสามวา
10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมผู้บริหาร กทม. ครั้งที่ 35
ณ ห้องสุทัศน์ กทม.
18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานครบรอบ “100 ปีเขตบางกะปิ”
ณ บริเวณลานว่างห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล(เก่า) ข้างสำนักงานเขตบางกะปิ

เขตตลิ่งชันจัดโครงการชุมชนน่าอยู่เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา

นางมัณฑนา ชูติกาญจน์ ผู้อำนวยการเขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ตามที่กรุงเทพมหานคร
ได้กำหนดให้ทุกสำนักงานเขตดำเนินการโครงการ ชุมชนน่าอยู่ เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายความจงรักภักดีและเฉลิมพระเกียรติต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา
ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยการน้อมนำแนวคิดปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทาง
ในการดำเนินการพัฒนาชุมชนของกรุงเทพมหานคร

ในการนี้สำนักงานเขตตลิ่งชันได้คัดเลือกชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 18 ชุมชน โดยในวันเสาร์ที่
24 ธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 09.00– 12.00 น. จะมีการจัดกิจกรรมที่ชุมชนวัดชัยพฤกษมาลา บริเวณ
โรงเรียนวัดชัยพฤกษมาลา โดยเขตฯจะร่วมกับชาวชุมชนดำเนินการพัฒนาทางระบายน้ำภายในชุมชนฯ
ลอกท่อระบายน้ำ การให้บริการด้านสุขอนามัยในชุมชนได้แก่บริการตรวจสุขภาพรักษาโรค การบริการฉีดวัคซีน
สุนัข /แมว การฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุง การพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชน โดยการเก็บขยะตกค้างภายในชุมชน
การตัดแต่งต้นไม้ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการซ่อมแซมเครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าการตัดแต่งผมชาย-หญิง และการให้
บริการให้คำปรึกษาแก้ไขปัญหาจากฝ่ายต่าง ๆ ในสำนักงานเขตตลิ่งชัน

จึงขอเชิญชาวชุมชนวัดชัยพฤกษมาลา และผู้พักอาศัยในย่านใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนา
ในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม ๒๕๕๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. โดยพร้อมเพรียงกัน

หนองแขมประกาศรายชื่อผู้ขอรับการช่วยเหลือน้ำท่วมเกือบหมื่นห้าพันราย

นายพิบูล เวคะวากยานนท์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับลงทะเบียนขอรับการสงเคราะห์ผู้ประสบอุทกภัยหลังคาเรือนละ 5,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. - 21 ธ.ค. 54 มีผู้มายื่นคำร้องทั้งสิ้น 40,865 ราย เขตฯ ออกหนังสือรับรองไปแล้ว 14,856 ฉบับ ประชาชนสามารถติดตามการประกาศรายชื่อได้ทางเว็บไซต์สำนักงานเขตหนองแขม หรือ www.bangkok.go.th/nongkhame สำหรับประชาชนที่ได้รับใบรับรองไปแล้วให้รอการประกาศรายชื่อจากธนาคารออมสิน สาขาหมู่บ้านเศรษฐกิจ เพื่อขอรับเงินดังกล่าวต่อไป

เขตดินแดงตรวจเข้มพื้นที่เสี่ยงต่อเหตุเพลิงไหม้

น.ส.แสนสุข สตงคุณห์ ผู้อำนวยการเขตดินแดง กทม. แจ้งว่า เขตฯ ร่วมกับสถานีดับเพลิงในพื้นที่ จัดทำแผนปฏิบัติการตรวจพื้นที่เสี่ยงภัยขึ้น โดยเน้นเข้าถึงทุกพื้นที่ทุกชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนในชุมชนรวมถึงการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ลดปัญหาและความเสี่ยงภัยต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยในชุมชน เช่น ไม่วางสิ่งของหรือกระถางต้นไม้กีดขวางทางสัญจร ตรวจสอบประปาหัวแดงในชุมชน ให้ความรู้และสาธิตเกี่ยวกับการใช้ถังดับเพลิง รวมทั้งการซักซ้อมอพยพหนีไฟ โดยจะเริ่มตรวจตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่และทุกชุมชนที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุอัคคีภัย รวมทั้งจะดำเนินการตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง และอาคารสูงต่างๆ ในพื้นที่ พร้อมให้ความรู้และแนวทางการปฏิบัติแก่เจ้าของและผู้ประกอบการ ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุอัคคีภัยในพื้นที่ให้มากที่สุด นอกจากนี้ในวันที่ 28 ธ.ค. 54 เวลา 09.00–12.00 น. จะมีการซักซ้อมอพยพหนีไฟให้แก่นักเรียนโรงเรียนสามเสนนอก เขตดินแดง โดยมีนางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีการซักซ้อมอพยพหนีไฟดังกล่าว

เขตคลองสานเตือนเมาไม่ขับ ต้อนรับปีใหม่

นายขจิต ชัชวานิชย์ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน กทม. แจ้งว่า เนื่องด้วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2555 นี้ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนส่วนใหญ่จะต้องมีการพบปะสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง ตลอดจนมักจะมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อกัน เขตฯ มีความห่วงใยในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้ถนนร่วมกัน จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่จำเป็นต้องขับรถหรือเดินทางไกล งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวจะลดลงได้ ถ้าประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของสุรา ขับขี่รถโดยไม่ประมาทและมีสติอยู่เสมอ เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ เร็วไม่ขับ โทร.ไม่ขับ และสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ขี่หรือซ้อนจักรยานยนต์

เขตสาทรเตือน “เมาไม่ขับ ไม่รับไม่โทร”

น.ส.พรรณทิพา งามญาณ ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. แจ้งว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่และช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นวันสำคัญที่ปวงชนชาวไทยยึดเป็นวันเริ่มต้นของปี และเป็นปีใหม่ที่มีวันหยุดต่อเนื่องนานถึง 4 วัน ประชาชนส่วนใหญ่มักจะเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด และมีการสนุกสนานเฮฮา ดื่มสุรา หรือรับโทรศัพท์ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย อีกทั้งขับรถขณะที่มีอาการมึนเมาทำให้เกิดอันตรายได้รับบาดเจ็บถึงขั้นพิการ เสียชีวิต เสียทรัพย์สิน
เขตฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังการขับรถบนถนนในช่วงเทศกาลดังกล่าว หากต้องเดินทางไกลไม่ควรโทรศัพท์ขณะขับรถ และห้ามดื่มสุราโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่น นอกจากนี้สุราเป็นสาเหตุของปัญหาต่างๆ อาทิ ทำให้เสียทรัพย์ ครอบครัวเกิดการแตกแยก ทะเลาะวิวาทเป็นอาชญากรโดยไม่ได้ตั้งใจ และขาดความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ถ้าประชาชนร่วมมือร่วมใจและตระหนักถึงพิษภัยจากการดื่มสุราจะสามารถป้องกันการสูญเสียได้อีกทางหนึ่ง

ตลาดธนบุรีเปิดให้บริการตามปกติ

นายพฤทธิยา รุมาคม ผู้อำนวยการสำนักงานตลาด กทม. กล่าวว่า หลังจากที่ตลาดธนบุรี (สนามหลวง 2) และพื้นที่เขตทวีวัฒนาซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยเป็นเวลานานมากกว่า 1 เดือน ทำให้เกิดความเดือนร้อน ไม่สามารถเปิดให้บริการแก่ผู้ค้าและประชาชนได้ ทั้งนี้สำนักงานตลาดจึงได้ร่วมมือกับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเขตทวีวัฒนา กลุ่มผู้ค้าและหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง เร่งฟื้นฟูและทำความสะอาดตลาดให้กลับมาสู่สภาพปกติ โดยได้ทำการจัดกิจกรรม “Big Cleaning Day” พร้อมทั้งเปิดให้บริการตามปกติแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตลาดธนบุรีจะได้รับความเชื่อมั่นและความสนใจจากผู้ค้า ประชาชนด้วยดีอย่างเช่นที่ผ่านมา

สผม. จัดประชุมพิจารณาคำขอเสนอโครงการจัดรูปที่ดินสวนหลวง ร.9

น.ส.อมรรัตน์ กฤตยานวัช รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. แจ้งว่า สำนักผังเมืองจะดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 27 ธ.ค. 54 เวลา 10.30 ณ ห้องสุทัศน์ ชั้น 2 ศาลาว่าการกทม. เพื่อพิจารณาคำขอเสนอโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 ซึ่งระเบียบคณะกรรมการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอจัดรูปที่ดินฯ พ.ศ. 2550 กำหนดให้ผู้ที่จะดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินให้ยื่นคำขอเสนอโครงการตามแบบ จร.2 ต่อเลขานุการคณะกรรมการส่วนจังหวัดแห่งท้องที่ที่โครงการนั้นตั้งอยู่ พร้อมหลักฐานและรายละเอียดของโครงการจัดรูปที่ดิน เช่น ชื่อโครงการ ชื่อผู้ดำเนินโครงการ ที่ตั้งสำนักงานโครงการ หนังสือแสดงความยินยอมของเจ้าของที่ดิน ขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินโครงการ ผังแม่บทการจัดรูปที่ดิน แผนการเงินและค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน เป็นต้น ซึ่งสมาคมจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 ได้ยื่นหนังสือสมาคมจัดรูปที่ดินฯ พร้อมคำขอเสนอโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 พร้อมหลักฐานและรายละเอียดของโครงการเรียบร้อยแล้ว ในลำดับต่อไปจะได้มีการมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีประกาศโครงการจัดรูปที่ดินบริเวณสวนหลวง ร.9 และมีหนังสือแจ้งไปยังภูมิลำเนา ของเจ้าของที่ดินทางไปรษณีย์ตอบรับ

กทม. เดินหน้าจัดหน่วยแพทย์เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง

กรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย ร่วมกับมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ และชมรมสันติสุขไทย-อินเดีย จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยียวยาสุขภาพกายใจให้ประชาชนหลังประสบภัยน้ำท่วม
พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า สำนักอนามัย ร่วมกับมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ และชมรมสันติสุขไทย-อินเดีย เดินหน้าจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปตรวจรักษาและให้คำแนะนำดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยให้กลับมามีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งขณะนี้ผู้ประสบภัยเริ่มมีปัญหาสุขภาพในหลายๆ ด้าน โดยจะจัดให้บริการตรวจรักษาโรค ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต มอบข้าวสาร ชุดทำความสะอาดบ้านเรือน คู่มือประชาชนเพื่อฟื้นฟูสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมจากอุทกภัย รวมทั้งฉีดพ่นยุงลายในชุมชนป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปใช้บริการดังกล่าวได้ ในวันที่ 28 ธ.ค. 54 ณ หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค วันที่ 5 ม.ค. 55 หมู่บ้านมณีมาศ ทาวเฮาส์ เขตคันนายาว วันที่ 12 ม.ค. 55 วัดอินทราวาส เขตตลิ่งชัน วันที่ 19 ม.ค. 55 หมู่บ้านสกุลทิพย์ เขตทวีวัฒนา ตั้งแต่เวลา 09.00–12.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

รร.วัดไผ่เงินโชตนารามคว้าแชมป์ประกวดการพูดระดับประถม “เยาวชนไทยเพื่อพ่อของแผ่นดิน”

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดการประกวดการพูดระดับประถมศึกษา ครั้งที่ 1 เรื่อง “เยาวชนไทย เพื่อพ่อของแผ่นดิน” ซึ่งสโมสรโรตารีบางคอแหลม ร่วมกับสำนักเขตบางคอแหลม จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 54 ณ หอประชุมคุณหญิงประยงค์ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ว่า การประกวดในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้เยาวชนไทยมีความกล้าแสดงออก อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและยกระดับให้การพูดของเยาวชนไทยทัดเทียมกับเยาวชนต่างประเทศ โดยมีโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตบางคอแหลม จำนวน 7 แห่ง เข้าร่วมการประกวด ประกอบด้วย 1. โรงเรียนวัดราชสิงขร 2. โรงเรียนวัดบางโคล่นอก 3. โรงเรียนวัดจันทร์นอก 4. โรงเรียนวัดจันทร์ใน 5. โรงเรียนวัดไทร 6. โรงเรียนวัดลาดบัวขาว และ 7. โรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม เข้าร่วมการประกวด ซึ่งคณะกรรมการได้เปิดโอกาสให้แต่ละโรงเรียนได้แสดงความสามารถด้านการพูด ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนไทย เพื่อพ่อของแผ่นดิน” โรงเรียนละ 5 นาทีและการตอบคำถามโรงเรียนละ 1 คำถาม
สำหรับผลการประกวดโรงเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 5,000 บาท คือ ด.ญ.ฐิตาภา รัตนพันธ์ จากโรงเรียนวัดไผ่เงินโชตนาราม รองชนะเลิศอันดับ 1 คือ ด.ญ.สาวิตรี ปะวะสาร จากโรงเรียนวัดจันทร์ใน ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 3,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 1,000 บาท คือ ด.ญ.กานต์พิชญา เกตุวิเชียร จากโรงเรียนวัดราชสิงขร และรางวัลชมเชย ได้รับทุนการศึกษาจำนวน 500 บาท ประกอบด้วย 1. ด.ญ.โสรญา มีแสง จากโรงเรียนวัดบางโคล่นอก 2. ด.ญ.วิชุดา ร้อยจำปา จากโรงเรียนวัดจันทร์นอก 3. ด.ญ.นภัสสร ศรีเรืองรุ่งกมล จากโรงเรียนวัดไทร และ 4. ด.ญ.ณัฐธิกา สุขเจริญ จากโรงเรียนวัดลาดบัวขาว

กทม. เร่งฟื้นฟูศาสนสถาน และแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมหลังมหาอุทกภัย

(23 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. ณ ศาลาการเปรียญ วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา : นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรมฟื้นฟูด้านวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยว่า เนื่องจากเกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 เป็นต้นมา ทำให้ 37 พื้นที่เขตในกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย ประชาชนชาวกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบไร้ที่อยู่อาศัย รวมไปถึงศาสนสถานและแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ได้รับผลกระทบด้วย กทม.จึงมีนโยบายในการฟื้นฟูเมืองทั้งในด้านกายภาพ สภาพแวดล้อม รวมถึงด้านวัฒนธรรมด้วย โดยการทำกิจกรรมในวันนี้เพื่อเป็นการเร่งฟื้นฟูศาสนสถาน และแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย
สำหรับการจัดงานฟื้นฟูด้านศิลปวัฒนธรรมจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค.54 ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้ 1. การฟื้นฟูศาสนสถานในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การล้างทำความสะอาด ศาสนสถาน การปรับปรุงภูมิทัศน์ศาสนสถาน การปลูกไม้ยืนต้น ปลูกไม้ดอกไม้ประดับและปูหญ้าภายในบริเวณศาสนสถาน การออกหน่วยบริการสาธารณสุข การออกหน่วยฝึกอาชีพและให้บริการซ่อมเครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า และการเสวนาธรรม ในหัวข้อ “สร้างสุขลดทุกข์ตามหลักศาสนาหลังมหาอุทกภัย” ซึ่งจะจัดขึ้นรวมทั้งหมด จำนวน 4 ครั้ง ณ ศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัย ได้แก่ วัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา ในวันที่ 23 ธ.ค. 54 วัดพรหมรังษี เขตดอนเมือง ในวันที่ 24 ธ.ค. 54 วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร (วัดบางเชือกหนัง) เขตภาษีเจริญ ในวันที่ 25 ธ.ค. 54 และมัสยิดดารุ๊ลอีบาด๊ะ (คลองสามวา) ในวันที่ 26 ธ.ค. 54 และ 2. กิจกรรมตลาดนัดศิลปะ (Art Market) ในวันที่ 23-25 ธ.ค. 54 ณ ลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 14.00–20.00 น. เพื่อสร้างพื้นที่ให้แก่ศิลปินที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยได้มีโอกาสจำหน่ายผลงานและแสดงออกทางศิลปะ ฟื้นฟูสถานภาพทางอาชีพของศิลปินและกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการกระจายรายได้

กทม. เผยมาตรการลดภาระด้านการเงินของผู้ประสบภัยน้ำท่วม

กทม. เผยมาตรการลดภาระด้านการเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขยายเวลายื่นแบบชำระภาษีบำรุงท้องที่ พร้อมเปิดโอกาสให้ผ่อนชำระได้ และยกเว้นภาษีโรงเรีอนกรณีที่ดินเพาะปลูกเสียหายเกิน 2 ใน 3
(23 ธ.ค. 54) ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.ได้ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ ผู้เสียภาษีที่ประสบอุทกภัย ในส่วนของภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยผู้เสียภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ได้รับความเสียหาย จากอุทกภัยไม่สามารถประกอบกิจการเพื่อหารายได้ในระหว่างเกิดอุทกภัย สามารถยื่นคำร้องขอลดภาษีได้ โดยยื่นคำร้องขอลดภาษีในปี 2555 พร้อมกับการยื่นแบบพิมพ์ (ภ.ร.ด.2) เพื่อเสียภาษี นอกจากนี้กทม. ได้ขยายเวลาการยื่นแบบพิมพ์ (ภ.ร.ด.2) ออกไป 2 เดือน จากภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เป็นภายในเดือนเมษายน 2555 ตามมาตรา 19 และสามารถเลือกผ่อนชำระค่าภาษีได้ 3 งวด โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2541) หรือผ่อนได้ไม่จำกัดงวด โดยเสียเงินเพิ่มร้อยละ 10 ตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการบริหารการชำระหนี้ พ.ศ. 2547
ในส่วนของผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่จะได้รับการยกเว้นภาษี หากที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้รับความเสียหายเกินกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก แต่หากที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูก ได้รับความเสียหายเกินกว่า 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 2 ใน 3 ของจำนวนเนื้อที่ที่ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกจะได้รับการลดหย่อนภาษีตามส่วนที่เสียหาย รวมถึงขยายเวลาเสียภาษีบำรุงท้องที่ออกไป 3 เดือน จากเดือนเมษายน 2555 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2555 ตามมาตรา 36 ซึ่งการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 23 พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ.2509
ลดดอกเบี้ยโรงรับจำนำกทม. ช่วยผู้ประสบภัย
นอกจากนี้กทม. ยังออกมาตรการลดอัตราดอกเบี้ย สถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร ทั้ง 20 แห่ง ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 31 ธ.ค. 54 สำหรับวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 บาทต่อเดือน วงเงินเกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาทต่อเดือน วงเงินจำนำตั้งแต่ 1–20,000 บาท รวมต่อราย (บุคคล) ไม่เกิน 100,000 บาท วงเงินเกิน 20,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมาย พร้อมทั้งขยายเวลาครบกำหนดจาก 5 เดือนเป็น 7 เดือน
สำหรับลูกค้าที่มีตั๋วจำนำเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งทรัพย์ได้หลุดจำนำเป็นสิทธิ์ของกรุงเทพมหานครแล้ว สามารถตามซื้อทรัพย์หลุดจำนำกลับคืนได้ โดยเรียกเก็บเพิ่มเฉพาะส่วนของดอกเบี้ยตามระยะเวลา ณ วันที่ลูกค้ามาตามซื้อคืน ในส่วนของสถานธนานุบาลบางพลัด ซึ่งปิดทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2554 และเริ่มเปิดทำการในวันที่ 6 ธ.ค. 54 นั้น กทม. ได้ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ตั้งแต่วันที่ 6-31 ธ.ค. 54 และงดคิดดอกเบี้ยรับจำนำระหว่างที่สถานธนานุบาลปิดทำการ

ประชาชนกว่า 2 ล้านคน ร่วมถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร

กทม. เผย “โครงการถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร” สำเร็จทะลุเป้า ประชาชนกว่า 2 ล้านคน ร่วมถวายปณิธาน ทุกภาคส่วนพร้อมร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจราจร ปลุกจิตสำนึกแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน เตรียมน้อมเกล้าฯ ถวายในหลวงในโอกาสต่อไป
(23 ธ.ค. 54) เวลา 14.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในงานแถลงข่าวสรุปผลโครงการ “ถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร” ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน และเป็นการกระตุ้นเตือนให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการปฏิบัติตามกฎจราจร ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม 84 พรรษา ในปี 2554 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครและผู้แทนเครือข่ายรักษ์วินัยจราจร ร่วมงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.
รองผู้ว่าฯ ธีระชน กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายรักษ์วินัยจราจรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 60 หน่วยงาน ในการเชิญชวนประชาชนไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ร่วมกันถวายคำปณิธานฯ เพื่อปลุกจิตสำนึก กระตุ้นเตือนให้ทุกคนร่วมกันรักษาวินัยจราจร นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างยั่งยืน จากนั้นได้รวมพลังข้าราชการ ลูกจ้างกรุงเทพมหานคร และนักเรียนจากโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแสดงความตั้งใจถวายปณิธานรักษ์วินัยจราจร ณ ลานคนเมือง อีกทั้งยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง 65 ครั้ง ในพื้นที่สำคัญทั่วกรุงเทพมหานคร โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนที่สนใจร่วมถวายปณิธานผ่าน 5 ช่องทาง คือ Facebook (www.facebook.com/clubddbma) เว็บไซต์โครงการ www.club-dd.com ทางSMS หมายเลข 4535303 ทางไปรษณียบัตรผ่าน ตู้ ปณ. 170 ปณศ. จรเข้บัว กทม. 10230 และบัตรถวายปณิธาน เพื่อรวมพลังทุกภาคส่วนในสังคมมาร่วมทำความดีถวายในหลวงกับโครงการนี้ รวมถึงย้ำเจตนารมณ์ของกรุงเทพมหานคร “รวมกัน...เราทำได้” (Together We Can) อีกด้วย
การดำเนินงานโครงการ “ถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร” ตลอดระยะเวลา 267 วัน มีผู้เข้าร่วมถวายปณิธาน 2,140,615 คน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนในสังคม ได้ให้ความสำคัญพร้อมที่จะร่วมมือกันแก้ไข และมีจิตสำนึกในการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน ไม่เฉพาะแต่ประชาชนชาวกรุงเทพฯเท่านั้น ยังมีประชาชนจากทั่วประเทศ ที่ห่วงใยในการแก้ไขปัญหาจราจรและแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าร่วมถวายคำปณิธานอีกด้วย ทำให้มียอดผู้ร่วมถวายคำปณิธานเพิ่มจากเป้าหมาย 1 ล้านคน กว่า 1 เท่าตัว ซึ่งกรุงเทพมหานครจะเตรียมดำเนินการนำรายชื่อพร้อมคำถวายปณิธานน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครขอขอบคุณในความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสำเร็จของโครงการฯ ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกและสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนได้ หากทุกคนร่วมกันรักษาวินัยและมีน้ำใจในการจราจร กรุงเทพมหานครจะเป็นเมืองที่มีความเป็นระเบียบ และประชาชนมีรอยยิ้มตลอดไป

ผู้ว่าฯกทม.เผยกรุงเทพฯ ผ่านพ้นสถานการณ์น้ำท่วมทุกเขตแห้งแล้ว

สถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ แห้งแล้วทุกพื้นที่ ส่วนปัญหาขยะที่มีจำนวนมากคาดจัดเก็บแล้วเสร็จก่อนปีใหม่ เผย WHO ชื่นชม กทม.ควบคุมสถานการณ์ได้ดีไม่มีการระบาดของโรคติดต่อในช่วงวิกฤตน้ำท่วม
(23 ธ.ค.54) เวลา 14.00 น. ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการ กทม. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครผ่านพ้นสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว โดยได้ให้สำนักงานเขตที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสำรวจพื้นที่ว่ายังมีน้ำท่วมขังอีกหรือไม่ ซึ่งรายงานล่าสุดทุกพื้นที่น้ำแห้งหมดแล้ว พื้นที่สุดท้ายคือที่หมู่บ้านเศรษฐกิจก้าวหน้า เขตบางเขน มีน้ำท่วมขังประมาณ 10 ซม. ได้ให้สำนักการระบายน้ำสูบน้ำออกขณะนี้แห้งแล้วเมื่อคืนวันที่ 22 ธ.ค.54 สำหรับในบางพื้นที่ที่มีน้ำเอ่อล้นบ้างเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถระบายน้ำได้จะต้องอาศัยการระบายน้ำตามธรรมชาติ จึงถือได้ว่าสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯ ขณะนี้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โอกาสนี้จึงขอขอบคุณ รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย จังหวัดต่างๆ รวมทั้งประชาชน อาสาสมัคร ข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ที่ร่วมมือกันทำงานอย่างทุ่มเท เสียสละ ช่วยเหลือ ดูแลการระบายน้ำจนสามารถผ่านวิกฤตมหาอุทกภัยไปได้
นอกเหนือจากมหาอุทกภัยที่คลี่คลายแล้ว อีกปัญหาที่สำคัญ คือ ขยะซึ่งมีจำนวนมากโดยระหว่างวันที่ 15 ต.ค. – 22 ธ.ค.54 กทม.ได้เก็บขยะไปแล้ว 644,788 ตัน และเท่าที่ประเมินขณะนี้ยังคงมีขยะตกค้างอีกประมาณ 11,666 ตัน ใน 8 เขต ประกอบด้วย เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม บางแค หนองแขม ทวีวัฒนา และตลิ่งชัน ซึ่งจะต้องจัดเก็บให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 25 ธ.ค.54 ยกเว้นเขตตลิ่งชันและบางแคจะจัดเก็บให้เสร็จภายในวันนี้(23 ธ.ค.
54) และเขตดอนเมืองจะระดมสรรพกำลังเพื่อเร่งจัดเก็บให้หมดก่อน 25 ธ.ค.54 ในส่วนของเขตหนองแขมซึ่งมีปัญหาในการจัดเก็บขยะในตรอก ซอยเป็นไปอย่างยากลำบากจึงต้องยืดเวลาในการจัดเก็บไปถึงวันที่ 28 ธ.ค.54 อย่างไรก็ตามเกรงว่าอาจมีขยะเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากประชาชนอาจมีการตัดสินใจทิ้งขยะที่ได้รับความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีกในภายหลัง แต่ก็จะเร่งจัดเก็บขยะที่เกิดจากอุทกภัยให้หมดภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ในส่วนปัญหาเรื่องของยุงนั้น กทม.ได้ดำเนินการฉีดพ่นยาเป็นประจำทุกวันเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตเร่งทำความสะอาด ลอกท่อระบายน้ำ ดูดโคลนเลน เพื่อเตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์น้ำในปีหน้า โดยจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันพิจารณาจุดเสี่ยงที่จำเป็นต้องเข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่าในช่วงที่เกิดอุกทกภัยพบผู้ป่วยจากโรคที่มากับน้ำ อาทิ ตาแดง ฉี่หนู และท้องเสียพอสมควร แต่ไม่มีรายงานการเกิดโรคระบาด ในเรื่องดังกล่าวทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ตั้งข้อสังเกตพร้อมชื่นชมที่ กทม.สามารถบริหารจัดการควบคุม ดูแลสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีไม่มีการระบาดของโรคในขณะที่ปัญหามหาอุกทกภัย โดยทีมควบคุมโรคสำนักอนามัย กทม.ได้มีการลงพื้นที่เพื่อแจกจ่ายยาและให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันทั้งก่อนและขณะมีน้ำท่วมอย่างทั่วถึง

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554

08.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย
ณ ห้องนพรัตน์ กทม.
09.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกิจกรรมฟื้นฟูด้านวัฒนธรรม จากเหตุการณ์มหาอุทกภัย
ณ วัดปรุณาวาส เขตทวีวัฒนา
10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 ของ บริษัท กรุงเทพธนาคม
ณ ห้องประชุมบริษัทกรุงเทพธนาคม
14.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวถวายปณิธานล้านหัวใจ รักษ์วินัยจราจร
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “มหกรรมสินค้าถูก รวมกันเราทำได้” ครั้งที่ 2
ณ เชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี
17.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดงานชม ชิม ช๊อป เขตสาทร ครั้งที่ 8
ณ ซอยเย็นจิต หน้าสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย เขตสาทร

ปทุมวันรับสมัครลูกจ้างประจำ

นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับสมัครบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างประจำ ตำแหน่งพนักงานทั่วไป บ1 จำนวน 1 อัตรา เพื่อปฏิบัติงานในโรงเรียนวัดบรมนิวาส สังกัดสำนักงานเขตปทุมวัน ผู้สนใจขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขตปทุมวัน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 29 ธ.ค. 54

สรุปข่าวบริการสำนักงานเขต

สำนักงานเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานครพร้อมบริการทุ่มเทการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ดังนี้
เขตประเวศ นางอัจฉรา ห่อสมบัติ ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม. แจ้งว่า เขตฯ จัดกิจกรรมทิ้งของเหลือใช้ เพื่อป้องกันการนำของเหลือใช้ไปทิ้งในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม โดยในวันที่ 24 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จะดำเนินการจัดเก็บ ณ บริเวณหมู่บ้านสุธาทิพย์ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงประเวศ จึงขอความร่วมมือประชาชนที่ประสงค์จะทิ้งของเหลือใช้ เก็บรวบรวมสิ่งของ ตลอดจนเครื่องใช้ เครื่องเรือนที่ชำรุด นำมาวางหน้าอาคารบ้านเรือนในวัน เวลาดังกล่าว เพื่อความสะดวกในการเก็บขนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะได้นำไปกำจัดให้ถูกสุขลักษณะต่อไป
เขตคลองเตย นางอัจฉราวดี ชัยสุวิรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. แจ้งว่า คณะผู้บริหารเขตและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจพื้นที่ทุกวันจันทร์และวันพุธของสัปดาห์ เวลา 09.00–12.00 น. สำหรับวันที่ 26 ธ.ค. 54 ตรวจพื้นที่บริเวณถนนสุขุมวิท ตั้งแต่ ซ.สุขุมวิท 40 – ซ.สุขุมวิท 52 ติดต่อพื้นที่เขตพระโขนง ศูนย์การค้าพระโขนง สำนักงานเขตคลองเตย ตลาดกล้วยน้ำไท และสถานีขนส่งเอกมัย และวันที่ 28 ธ.ค. 54 ถ.พระราม 4 ตั้งแต่ริมทางรถไฟสายช่องนนทรีจรดถนนพระราม 3 และ ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่ริมทางรถไฟสายช่องนนทรี – ซ.สุขุมวิท 40 นอกจากนี้เขตฯ ดำเนินการรณรงค์พัฒนาความสะอาดล้างทางเท้า ผิวจราจร และจุดพักขยะเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง สำหรับในวันที่ 26 ธ.ค. 54 เวลา 10.00 น. ดำเนินการพัฒนาความสะอาดบริเวณ ถ.พระราม 4 ตั้งแต่ตลาดไก่ - สี่แยกรัชดาภิเษก (ตลาดคลองเตย) จากสี่แยกรัชดาภิเษก - ห้าแยก ณ ระนอง ทั้ง 2 ฝั่ง ตลาดกล้วยน้ำไท ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่สี่แยกรัชดาภิเษก - แยกถนนสุนทรโกษา และ ถ.สุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 38

เขตสาทรสร้างราชการใสสะอาด

น.ส.พรรณทิพา งามญาณ ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. แจ้งว่า ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี 2555 แผนกลยุทธ์การสร้างราชการใสสะอาดของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย วิธีปฏิบัติที่กำหนดไว้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ให้ข้าราชการทำงานให้บริการเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของภาครัฐ มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน ลดการทุจริต และประพฤติมิชอบ พร้อมทั้งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการช่วยดูแลและสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่มีพฤติกรรมส่อไปทางทุจริต และประพฤติมิชอบ และเพื่อป้องกันและยับยั้งเหตุทุจริต หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่มีผลกระทบต่อตนเองและหน่วยงาน อันเป็นภัยอย่างมหันต์ต่อการบริหารราชการใสสะอาดของสำนักงานเขต เขตฯ จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน สื่อมวลชนทุกแขนง ประชาชนในชุมชน ช่วยดูแลและตรวจสอบพฤติกรรม หากพบเห็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานเขตมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่อไปทางทุจริตคอรัปชั่น โปรดแจ้งผู้อำนวยการเขตสาทร โทร. 0 2211 6087

เขตสาทรสร้างราชการใสสะอาด

น.ส.พรรณทิพา งามญาณ ผู้อำนวยการเขตสาทร กทม. แจ้งว่า ตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี 2555 แผนกลยุทธ์การสร้างราชการใสสะอาดของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย วิธีปฏิบัติที่กำหนดไว้ชัดเจน เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ให้ข้าราชการทำงานให้บริการเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของภาครัฐ มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอน ลดการทุจริต และประพฤติมิชอบ พร้อมทั้งให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นการช่วยดูแลและสอดส่องพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติที่มีพฤติกรรมส่อไปทางทุจริต และประพฤติมิชอบ และเพื่อป้องกันและยับยั้งเหตุทุจริต หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่มีผลกระทบต่อตนเองและหน่วยงาน อันเป็นภัยอย่างมหันต์ต่อการบริหารราชการใสสะอาดของสำนักงานเขต เขตฯ จึงขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน สื่อมวลชนทุกแขนง ประชาชนในชุมชน ช่วยดูแลและตรวจสอบพฤติกรรม หากพบเห็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของสำนักงานเขตมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ส่อไปทางทุจริตคอรัปชั่น โปรดแจ้งผู้อำนวยการเขตสาทร โทร. 0 2211 6087

ประเวศเตือนส่งเด็กเข้าเรียนภาคบังคับ ปี 2555

นางอัจฉรา ห่อสมบัติ ผู้อำนวยการเขตประเวศ กทม. แจ้งว่า ขณะนี้เขตฯ เปิดรับแจ้งการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา ที่จัดการศึกษาภาคบังคับ จึงขอแจ้งเตือนพ่อ แม่หรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเกิดปี พ.ศ. 2548 ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่เขตประเวศ นำหลักฐานสูติบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านมาติดต่อแจ้งการส่งเด็กเข้าเรียนได้ที่ ฝ่ายการศึกษา สำนักงานเขตประเวศ หรือที่โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตประเวศทุกแห่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หากไม่สามารถแจ้งด้วยตนเองได้ต้องมอบให้บุคคลอื่นมาทำการแทน ผู้ฝ่าฝืนไม่แจ้งการส่งเด็กเข้าเรียนจะมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 0 2328 7152

15 สำนักงานเขตฝั่งธนบุรีจับมือจัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปีนี้ สุดยิ่งใหญ่

นายขจิต ชัชวานิชย์ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน กทม. แจ้งว่า เนื่องในวันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานเขตฝั่งธนบุรี 15 สำนักงานเขต ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2554 ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) และถนนลาดหญ้าตลอดสาย ในวันที่ 27–28 ธ.ค. 54 ตลอด 2 วัน 2 คืน เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่มีต่อชาติไทย
การจัดงานเทิดพระเกียรติฯ ในวันที่ 27 ธ.ค. 54 เวลา 09.00 น. พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอินทารามวรวิหาร เขตธนบุรี และจะมีพิธีเปิดงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2554 ในเวลา 19.00 น. ณ เวทีกลาง ใกล้ซุ้มประตูไทยซิกข์ เฉลิมพระเกียรติ ถนนลาดหญ้า ส่วนในวันที่ 28 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากนี้บริเวณถนนลาดหญ้า ยังมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน การจัดมหรสพเทิดพระเกียรติฯ และกิจกรรมความบันเทิง 3 เวทีใหญ่ อาทิ การแสดงดนตรีลูกทุ่ง อุปรากรจีน ลิเก สิงโต มังกรทอง การประกวดอาหาร การแข่งขันชกมวยและตะกร้อลอดบ่วง
ทั้งนี้จะมีการปิดการจราจรบริเวณถนนลาดหญ้า ตั้งแต่ถนนรอบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) ถึงแยกคลองสาน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค. 54 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ธ.ค. 54 สำนักงานเขตคลองสาน ขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนร่วมงานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2554 ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

เสาร์ 24 ธ.ค. นี้ รับสิทธิพิเศษสินเชื่อจากสถาบันการเงินในงาน “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม”

กทม. พร้อมสถาบันการเงินชั้นนำร่วมเยียวยาชีวิตและฟื้นฟูเศรษฐกิจกรุงเทพฯ มอบโอกาสทางการเงินสุดพิเศษแก่ผู้ประสบภัย
นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้จัดโครงการ “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้นเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งผู้ประกอบการ ธุรกิจ การค้าหรือบริการขนาดเล็กที่ได้รับ ความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม โดยร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เปิดให้บริการสินเชื่อพิเศษแก่ผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปซ่อมแซมบ้านและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้งนำไปลงทุนทำการค้า ฟื้นฟู หรือสร้างกิจการใหม่ เพื่อสภาพความเป็นอยู่ที่ดีไม่น้อยไปกว่าเดิม
นอกจากนี้เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น กรุงเทพมหานครจึงกำหนดจัดมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” ขึ้น โดยภายในงานจะมีการเปิดบูธเพื่อรับสมัครพร้อมให้คำแนะนำจากสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งประชาชนหรือสถานประกอบการที่สนใจสามารถนำเอกสาร หลักฐานมาแสดงความจำนงได้ โดยจะอนุมัติวงเงินให้สินเชื่อสูงสุดตามความจำเป็น ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด และผ่อนชำระเงินคืนนานสูงสุดถึง 30 ปี พร้อมเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนทั่วไปที่ไม่จำเป็น ต้องมีทะเบียนบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ อีกด้วย และพิเศษสุดสำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันงานจะได้รับบัตร Fast Track ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษ ได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินก่อนใคร หากเอกสารหลักฐานครบถ้วน ถูกต้อง สามารถทราบผลได้ภายใน 5 วัน
สำหรับมหกรรม “ยิ้มสู้ กู้ภัยน้ำท่วม” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 24 ธ.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสิน โทร. 1115 ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 1302 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 0 2645 9000 และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 0 2555 0555

11 องค์กรร่วมลงนามเป็นองค์กรแห่งความสุข“ส่งท้ายด้วยธรรม ต้อนรับด้วยศีล”

(22 ธ.ค. 54) ณ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนรถไฟ) : นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามการเป็นองค์กรแห่งความสุข “ส่งท้ายด้วยธรรม ต้อนรับด้วยศีล : (มวลน้ำไหลมา มวลปัญญาเพิ่มพูน)” ส่งเสริมการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่แบบชาวพุทธ กับ 10 องค์กร ประกอบด้วย พระมหาวุฒิชัย ว.วชิรเมธี, หอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ,มหาวิทยาลัยมหิดล, บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด, ธนาคารเกียรตินาคิน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, บริษัทแอลพีเอ็น เดลเวลลอปเมท์ จำกัด และดิเอ็มโพเรียม ช็อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ เพื่อให้คนไทยน้อมนำสิ่งดีงามเข้าสู่ชีวิตเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
โดยภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมการลงนามบันทึกความร่วมมือในการเป็น "องค์กรแห่งความสุข" ของ 11 องค์กร การสวดพระพุทธมนต์ 9 บท เพื่อความก้าวหน้า การปฏิบัติสมาธิภาวนาเพื่อความสดชื่นรื่นเย็นแห่งชีวิต รับฟังปาฐกถาธรรมเพื่อความเป็นสิริมงคลจาก ท่าน ว.วชิรเมธี เรื่อง "เพื่อความสวัสดีแห่งชีวิต" ภาคบ่าย ร่วมรับฟังงานเสวนา เรื่อง "2012 หากโลกาวินาศ ไทยทั้งชาติจะรับมืออย่างไร" โดยวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตการณ์วิบัติภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จาก 3 มุมมอง 3 ศาสตร์ ทั้งมุมมองด้านพุทธศาสตร์ โดย ท่าน ว.วชิรเมธี มุมมองด้านวิทยาศาสตร์ โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา และมุมมองด้านโหราศาสตร์ โดย โหรกรหริศ บัวสรวง โหราจารย์ชื่อดังแห่งยุคสมัย ปิดท้ายด้วยพิธีมอบรางวัลศิลปินไทยหัวใจโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นรางวัลที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิมุตตยาลัย มอบให้แด่ศิลปินที่ร่วมกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นตัวอย่างของการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น สอดคล้องกับปรัชญาของสถาบันวิมุตตยาลัยที่ว่า "ขอให้เธอเบิกบานกับการรับใช้เพื่อนมนุษย์"

สั่งชะลอโครงการของกทม. เปิดทางให้เข้าตรวจสอบเต็มที่ ขณะผันงบไปใช้ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

รผว.ธีระชน เห็นชอบชะลอโครงการในกำกับสำนักการจราจรและขนส่ง เพื่อนำงบไปฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เผยข้าราชการประจำเกิดความกังวลใจ หลังหลายองค์กรเข้าตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินงาน พร้อมยืนยันไม่ดึงดันหากผู้ปฏิบัติงานยังกังวลใจ
(22 ธ.ค. 54) ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาการขอตรวจสอบการดำเนินงานโครงการต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร อาทิ โครงการติดตั้งระบบตรวจจับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร (Red Light Camera) โครงการจัดซื้อเครื่องออกใบสั่งอัตโนมัติ จากหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ส่งผลให้ข้าราชการประจำเกิดความกังวลใจในการดำเนินงานโครงการดังกล่าว และได้ทำหนังสือขอชะลอการดำเนินงานโครงการฯ จนกว่าการชี้แจงข้อเท็จจริงในการดำเนินการฯ ต่อหน่วยที่ร้องขอเสร็จสิ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถชี้แจงต่อสาธารณะได้
ในการนี้ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักงบประมาณ กทม. ได้เห็นชอบให้ชะลอโครงการติดตั้งระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (Red light camera) รวมถึงโครงการจัดซื้อเครื่องออกใบสั่งอัตโนมัติ โครงการ Super Sky walk และโครงการโมโนเรล ออกไปก่อน เพื่อนำเงินงบประมาณไปใช้ในกิจกรรมการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมในกรุงเทพมหานครซึ่งมีความเร่งด่วนมากกว่า รวมถึงเพื่อให้การตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ดำเนินไปจนกระทั่งหมดข้อกังขา ภาคประชาสังคมมีความเข้าใจและสนับสนุนให้เกิดโครงการต่างๆ และที่สำคัญที่สุด คือ ข้าราชการในฐานะผู้ปฏิบัติซึ่งต้องรับผิดชอบโดยตรง จะต้องไม่มีความกังวลใจในการปฏิบัติงาน

เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่เขตจอมทอง ในวันคล้ายวันประสูติพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์

(22 ธ.ค. 54) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โดยมี นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายนิวัฒน์ ไชยมิ่ง ผู้อำนวยการเขตจอมทอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ ร่วมงาน ณ บริเวณวัดบางประทุนนอก เขตจอมทอง
กรุงเทพมหานครเป็นแหล่งที่มีเกษตรกรประกอบอาชีพด้านเกษตรอยู่อีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรายได้ที่เกิดจากอาชีพการเกษตร ในเขตจอมทอง การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นการดำเนินการวิธีหนึ่ง ที่สามารถให้บริการทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ให้บรรลุผลสำเร็จตามที่มุ่งหวังเร็วขึ้น เป็นการบูรณาการนักวิชาการในแต่ละสาขา ทั้งด้านพืช สัตว์ ประมง ดิน และน้ำ โดยอาศัยเครื่องมืออุปกรณ์เข้าช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว สามารถเคลื่อนที่ไปได้ทุกจุด สร้างแรงดึงดูดใจจากเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย เป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรตื่นตัวและยอมรับนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนเป็นการฟื้นฟูอาชีพการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สำหรับงานคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้จัดขึ้นที่วัดบางประทุนนอก เขตจอมทอง ในวันที่ 22 ธ.ค. 54 ระหว่างเวลา 08.00-16.30 น. โดยเปิดให้บริการเกษตรกรในคลินิกต่างๆ ดังนี้ คลินิกสัตว์ ให้บริการทำหมันสุนัขและแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า คลินิกประมง ให้คำปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสัตว์น้ำ คลินิกพืช ตรวจวินิจฉัยโรคและแมลงศัตรูพืช คลินิกดิน วิเคราะห์และตรวจสอบดินและปุ๋ย คลินิกชลประทาน การบริหารจัดการน้ำ คลินิกสหกรณ์ การดำเนินงานด้านสหกรณ์ คลินิกบัญชี แนะนำการจัดทำบัญชีครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม สายใยรักแห่งครอบครัว การแจกหน่อพันธุ์กล้วยไม้ การจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การดำเนินงานให้บริการในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานที่เปิดให้บริการคลินิกเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จะนำข้อมูลผลการให้บริการด้านต่างๆไปประมวลผลและจัดทำแผนการให้บริการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเกษตรกรผู้เข้ารับบริการตามคลินิกต่างๆ ยังได้นำความรู้ที่ได้รับจากคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ประจำแต่ละคลินิกไปใช้ในการตัดสินใจในการพัฒนา การผลิตทางการเกษตร เพื่อให้มีการพัฒนาผลผลิตและรายได้อย่างยั่งยืน อันจะเกิดผลดีต่อตนเองและประเทศชาติต่อไป

กทม. ถอดกล้อง CCTV ดัมมี่ที่มีกว่า 1,300 จุด ออกจากพื้นที่หมดแล้ว

ผู้ว่าฯกทม. กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามการทำงานและสภาพกล้อง CCTV 12,000 ตัว ให้ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมติดตั้งกล้องเพิ่มเติมในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้ประชาชน อีกทั้ง เชื่อมโยงกล้องรุ่นเก่าและรุ่นใหม่เข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้บริหารเพิ่มศักยภาพการทำงาน มั่นใจประชาชนฉลองปีใหม่ได้ด้วยความปลอดภัย
(22 ธ.ค. 54) เวลา 11.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยกล้อง CCTV บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า ตามที่มีประชาชนเกิดความกังวลและไม่สบายใจเกี่ยวกับการติดตั้งกล้องดัมมี่ในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ นั้น การติดตั้งกล้องดังกล่าวเป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกทำเหมือนกัน แต่เพื่อความสบายใจของประชาชนกรุงเทพมหานครได้จัดเก็บกล้องดัมมี่ทั้ง 1,325 จุด ออกหมดแล้ว ซึ่งบริเวณที่ติดตั้งกล้องดัมมี่เดิมส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ที่มีกล้อง CCTV ที่ใช้งานจริงได้อยู่แล้วจึงไม่ส่ง ผลกระทบใดๆ ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ติดตั้งกล้อง CCTV ที่มีศักยภาพกว่ากล้องแบบเดิมเพิ่มไปแล้วประมาณ 10,000 ตัว ส่งผลให้ปัจจุบันมีกล้อง CCTV ที่ใช้งานได้จริงในพื้นที่กรุงเทพฯ ราว 12,000 ตัว และตั้งเป้าจะติดกล้อง CCTV เพิ่มอีก 10,000 ตัวภายในปี 2555 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด เนื่องจากระยะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่แล้ว จึงได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง ตรวจติดตามการทำงานของกล้อง CCTV ทั้งหมดเป็นพิเศษหากพบชำรุดเสียหายก็ให้ซ่อมแซมโดยเร็วให้สามารถใช้งานได้ตามปกติตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ ข้าวสาร อโศก ทองหล่อ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเกิดความมั่นใจว่าจะได้รับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้ทดลองเชื่อมโยงกล้อง CCTV รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่เข้าด้วยกันและนำเข้าสู่ระบบอินเตอร์เน็ตสำหรับผู้บริหารในการติดตามดูแลด้านความปลอดภัยให้ประชาชน ซึ่งหากพบภาพหรือเหตุการณ์ใดที่มีความผิดปกติหรือต้องสงสัย ก็จะส่งต่อให้กองบัญชากาตำรวจนครบาล (บช.น.) ต่อไป พร้อมทั้งมีแนวคิดในการประสานความร่วมมือจัดทำเครือข่ายระบบกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานคร กับภาคเอกชน และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานของระบบกล้อง CCTV ในพื้นที่ โดยเฉพาะในจุดที่กรุงเทพมหานครไม่สามารถติดตั้งกล้องได้ อีกทั้งจะเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อกล้องเพิ่มเติมด้วย

เชิดชูเกียรติพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ปี 54

(22 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนาเชิดชูเกียรติ “วันพ่อ” ประจำปี 2554 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “พ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร” แก่พ่อตัวอย่าง จำนวน 49 คน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมบางกอกพาเลซ เพื่อเทิดกระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา อีกทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรมในการแสดงความกตัญญูต่อพ่อผู้ให้กำเนิด ส่งเสริมให้สังคมเกิดความตระหนักและรำลึกถึงพระคุณของพ่อ รวมถึงยกย่องเชิดชูเกียรติพ่อตัวอย่างของกรุงเทพมหานครด้วย กิจกรรมในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หัวข้อ “คำสอนของพ่อ” 9 ข้อ ได้แก่ ความเพียร ความพอดี ความรู้ตน คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พูดจริงทำจริง หนังสือเป็นออมสิน ความซื่อสัตย์ และการเอาชนะใจตน นิทรรศการเกียรติประวัติ “พ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร” ประจำปี 2554 การบรรยายพิเศษหัวข้อ “พ่ออันเป็นที่รักของเรา” โดยศาสตราจารย์พิเศษทองต่อ กล้วยไม้ ณ อยุธยา
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต คัดเลือกพ่อที่เป็นแบบอย่างที่ดี มีความเหมาะสมได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ประจำปี 54 เขตละ 1 คน โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ อายุ 55 ปีขึ้นไป มีชื่อในทะเบียนบ้านเขตกรุงเทพมหานคร มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่แตกแยก ส่งบุตร–ธิดาให้ได้รับการศึกษา ไม่ทอดทิ้ง มีความเสียสละบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่เคยต้องโทษคดีอาญา (ยกเว้นลหุโทษ) ประกอบอาชีพสุจริตเป็นหลักฐาน ไม่ลุ่มหลงมัวเมาการพนันและอบายมุข และไม่ดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งในปีนี้มีพ่อได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร จำนวน 49 คน จาก 49 เขต เนื่องจากเขตบางซื่อไม่ส่งรายชื่อพ่อตัวอย่างประจำปี 54
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พ่อถือเป็นบุคคลสำคัญ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่เป็นเสาหลักทำงานหารายได้เลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว การยกย่องเชิดชูเกียรติของพ่อเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในฐานะผู้ให้กำเนิดที่เอาใจใส่เลี้ยงดูลูกและสมาชิกในครอบครัวด้วยดีเสมอมา นอกจากนี้ประเทศไทยมีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็งมาอย่างยาวนาน มีการแสดงออกทางความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกในหลายรูปแบบที่เป็นที่ประจักษ์แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ มีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระคุณพ่อ แสดงออกซึ่งความรักและทดแทนพระคุณพ่อของตน

เชิดชูเกียรติพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ปี 54

(22 ธ.ค. 54) เวลา 09.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนาเชิดชูเกียรติ “วันพ่อ” ประจำปี 2554 พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “พ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร” แก่พ่อตัวอย่าง จำนวน 49 คน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมบางกอกพาเลซ เพื่อเทิดกระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา อีกทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกด้านคุณธรรม จริยธรรมในการแสดงความกตัญญูต่อพ่อผู้ให้กำเนิด ส่งเสริมให้สังคมเกิดความตระหนักและรำลึกถึงพระคุณของพ่อ รวมถึงยกย่องเชิดชูเกียรติพ่อตัวอย่างของกรุงเทพมหานครด้วย กิจกรรมในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หัวข้อ “คำสอนของพ่อ” 9 ข้อ ได้แก่ ความเพียร ความพอดี ความรู้ตน คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พูดจริงทำจริง หนังสือเป็นออมสิน ความซื่อสัตย์ และการเอาชนะใจตน นิทรรศการเกียรติประวัติ “พ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร” ประจำปี 2554 การบรรยายพิเศษหัวข้อ “พ่ออันเป็นที่รักของเรา” โดยศาสตราจารย์พิเศษทองต่อ กล้วยไม้ ณ อยุธยา
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้ 50 สำนักงานเขต คัดเลือกพ่อที่เป็นแบบอย่างที่ดี มีความเหมาะสมได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ประจำปี 54 เขตละ 1 คน โดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้ อายุ 55 ปีขึ้นไป มีชื่อในทะเบียนบ้านเขตกรุงเทพมหานคร มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย ครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่แตกแยก ส่งบุตร–ธิดาให้ได้รับการศึกษา ไม่ทอดทิ้ง มีความเสียสละบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม ประพฤติปฏิบัติ อยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่เคยต้องโทษคดีอาญา (ยกเว้นลหุโทษ) ประกอบอาชีพสุจริตเป็นหลักฐาน ไม่ลุ่มหลงมัวเมาการพนันและอบายมุข และไม่ดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งในปีนี้มีพ่อได้รับรางวัลพ่อตัวอย่างกรุงเทพมหานคร จำนวน 49 คน จาก 49 เขต เนื่องจากเขตบางซื่อไม่ส่งรายชื่อพ่อตัวอย่างประจำปี 54
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พ่อถือเป็นบุคคลสำคัญ ในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่เป็นเสาหลักทำงานหารายได้เลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว การยกย่องเชิดชูเกียรติของพ่อเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณในฐานะผู้ให้กำเนิดที่เอาใจใส่เลี้ยงดูลูกและสมาชิกในครอบครัวด้วยดีเสมอมา นอกจากนี้ประเทศไทยมีสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็งมาอย่างยาวนาน มีการแสดงออกทางความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกในหลายรูปแบบที่เป็นที่ประจักษ์แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ มีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี เพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระคุณพ่อ แสดงออกซึ่งความรักและทดแทนพระคุณพ่อของตน