ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

10.30 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานร่วมเปิดงานมหกรรม
และร่วมเสวนางาน “มหกรรมเด็กแนวบวกครั้งที่ 3 New Gen Virus : ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ สร้างเด็กไทยเพื่อชุมชน”

ณ ห้องประชุมเอนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กทม.


กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมภาคีเครือข่ายประธาน
ชมรมผู้สูงอายุกรุงเทพมหานครณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.

จากนั้น 11.30 น. แถลงผลการประชุม ณ ห้องสุทัศน์ กทม.

14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการเตรียมความพร้อมโครงการล้าง
ทำความสะอาดท่อระบายน้ำและเปิดทางน้ำไหลของกทม.
ณ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สนน. และ สนข.กลุ่มกรุงเทพใต้ ฝั่งตรงข้ามห้างซีคอนฯ

17.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ
“สถานที่สาธารณะ ลดควันบุหรี่ ลดโรค” ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งพหลโยธิน

กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 229 รูป และบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า

กรุงเทพมหานคร เตรียมจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 229 รูป และบวงสรวงสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ในโอกาสเตรียมเปิดใช้สนามหลวง ในวันที่ 3 พ.ค.54 ตั้งแต่เวลา 06.30 – 09.00 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง (ด้านทิศเหนือ)
เวลา 07.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเดินทางถึงสนามหลวง จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล
- พระราชาคณะเจริญพระพุทธมนต์
- พระสงฆ์ 229 รูป ออกรับบิณฆบาต
- ประธานในพิธีถวายภัตตาหารเช้าแด่พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป
- ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม
- พระราชาคณะ อนุโทนา ประธานกรวดน้ำ
เสร็จพิธี

พิธีบวงสรวงพระสยามเทวธิราชและสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า
เวลา 08.09 น. - ประธานจุดธูปเทียนที่โต๊ะสักการะ โปรยข้าวตอกดอกไม้
- พระราชครูวามเทพมุณี หัวหน้าคณะพราหมณ์อ่านโองการบวงสรวง
เสร็จพิธี

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

กำหนดการ สภากทม

กำหนดการ สภากทม หารือข้อราชการร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร เรื่อง มาตรการความร่วมมือด้านการจราจร
และกล้องวงจรปิด CCTV ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2554
ณ ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจจราจร ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร


เวลา 10.00 น. - นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เข้าพบ พล.ต.ต.ภานุ เกิดลาภผล
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เวลา 10.15 น. - ฟังบรรยายสรุป หารือข้อราชการ เรื่อง มาตรการความร่วมมือด้านการจราจร

และกล้องวงจรปิด CCTV ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

เปิดตำนานเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 2




สำนักงานเขตบางรัก สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ โรงแรมรอยัลออร์คิดเชอราตันและรอยัล ซิตี้ร่วมกันจัดงานเปิดตำนานเลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 2 เพื่อเผยแพร่เส้นทางเดินเท้าท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จากตรอกกัปตันบุชถึงเยาวราช รวมทั้งเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐเอกชนและชุมชนท้องถิ่น

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

คณะอนุกรรมการการเศรษฐกิจฯ สภากทม.เร่งรัดการก่อสร้างสวนน้ำพระราม 9

คณะอนุกรรมการการเศรษฐกิจฯ สภากทม.เร่งรัดการก่อสร้างสวนน้ำพระราม 9
ที่ห้องประชุม เขตห้วยขวาง (26 เม.ย. 54) นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการเศรษฐกิจ การเงิน การคลังและติดตามงบหประมาณ ชุดที่ 3 เป็นประธานการประชุมฯติดตามผลการดำเนินงานของสำนักการระบายน้ำ ในโครงการสวนพระราม 9 และโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. (ดาดท้องคลอง) และสถานีสูบน้ำลำรางยายสุ่น จากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองสามเสน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตห้วยขวาง พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจง
ประธานคณะอนุกรรมการการเศรษฐกิจ การเงิน การคลังและติดตามงบประมาณ ชุดที่ 3 กล่าวว่า โครงการสวนน้ำพระราม 9 เป็นโครงการที่สำนักระบายน้ำ น้ำบ่อบำบัดน้ำเสียเดิม ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำกลับมาใช้ประโยชน์ ปรับปรุงให้เป็นสวนน้ำ มีที่พักผ่อน ทั้งนี้ ภายในโครงการฯ ได้มีการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืด คือการน้ำปลาไทยที่มีอยู่ในน้ำจืดเดิมของท้องทุ่งบางกะปิ ห้วยขวาง อาทิ ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาไหล ปลากระดี่ และปลาหรด เป็นต้น มาจัดแสดงเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน ให้นักเรียนและประชาชน เข้ามาศึกษาเยี่ยมชม ซึ่งเป็นกิจกรรมนันทนาการ สถานที่พักผ่อนให้กับประชาชน โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้เร่งรัดให้เสร็จตามแผนงาน คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะมีพิธีเปิดเป็นทางการโดยเชิญผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาเป็นประธานในพิธี
ประธานคณะอนุกรรมการการเศรษฐกิจฯ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. (ดาดท้องคลอง) และสถานีสูบน้ำ ลำรางยายสุ่น จากถนนรัชดาภิเษกถึงคลองสามเสน เดิมเป็นคลองดินธรรมดา รับน้ำจากถนนรัชดา-ห้วยขวาง ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้ผลักดันให้สำนักการระบายน้ำ มาก่อสร้างเป็นเขื่อน ค.ส.ล. ก็ได้จัดงบประมาณมาปรับปรุงแต่ก็ล่าช้ากว่าแผน 50 % ของเดิมเคยได้ผู้รับจ้างแล้วแต่ถูกยกเลิกไปเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ สาเหตุที่ช้านั่นเกิดจากระบบสาธารณูปโภค อาทิ ไฟฟ้า ประปาที่มีอยู่ในลำรางสาธารณะ ซึ่งต้องใช้เวลาในการประสานงานบ้าง หลังจากนี้คณะอนุกรรมการฯ ก็ยังคงติดตามอย่างต่อเนื่องในทุกโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คณะอนุกรรมการฯชุดนี้ เพื่อช่วยประสานเร่งรัดผลักดันการใช้งบประมาณ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนกรุงเทพมหานคร

สภากทม. ผลักดันการจัดทำผังเมืองรวมให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่จริง

สภากทม. ผลักดันการจัดทำผังเมืองรวมให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่จริง
(27 เม.ย. 54) เวลา 10.00 น. นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2554 ซึ่งมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.
โดยที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้มติเห็นชอบญัตติของนางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี เรื่องขอให้กรุงเทพมหานคร จัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบันและทิศทางการพัฒนาเมือง เนื่องจากกฎหมายผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครที่ใช้บังคับในปัจจุบัน คือ กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 ไม่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน เช่น ในพื้นที่เขตสายไหม สภาพความเป็นอยู่ในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปมีจำนวนบ้านเรือนและประชาชนเพิ่มมากขึ้น แต่กฎกระทรวงฉบับดังกล่าว กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย (สีเหลือง) ที่ดินประเภท ย.1 และย.2 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อม และรองรับการขยายตัวของที่อยู่อาศัยในบริเวณชานเมือง โดยห้ามใช้ที่ดินเพื่อกิจการสุสานและฌาปนสถาน ทำให้วัดที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นต้องก่อสร้างเตาเผาศพไม่สามารถขออนุญาตก่อสร้าง จึงเป็นกรณีที่สภาพการเปลี่ยนแปลงและทิศทางการพัฒนาเมืองไม่สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาเมืองตามที่กำหนดไว้ในผังเมืองรวม ประกอบกับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2549 มีผลบังคับใช้ถึงเดือนกรกฎาคม 2555 หลังจากนั้นกรุงเทพมหานครจะต้องดำเนินการจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครและประกาศใช้บังคับเป็นกฎกระทรวงต่อไป ดังนั้น จึงขอให้กรุงเทพมหานครจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน และทิศทางการพัฒนาเมือง
ด้านนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนการจัดทำผังเมืองรวม ระยะที่ 3 นั้น มีความล่าช้ากว่าที่กำหนดซึ่งแต่ละขั้นตอนนั้นมีมากถึง 18 ขั้นตอน ซึ่งจากการประชุมที่ผ่านมา 30 ครั้ง ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในหลายพื้นที่ กทม.ได้คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องของน้ำท่วม ได้เพิ่มเรื่องของแก้มลิง พื้นที่สีเขียว เมืองที่ต้องพึ่งพากันและกัน โดยได้แบ่งเป็นกรุงเทพมหานครชั้นใน และกรุงเทพมหานครชั้นนอก ออกเป็น 6 โซน จะต้องมีการพัฒนาควบคู่ไปพร้อมกัน พร้อมการเพิ่มเรื่องของแผ่นดินทรุด แผ่นดินไหว เข้าไป เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ กทม.จะไม่ส่งเสริมให้มีการกระทำผิดกฎหมาย แต่ก็สามารถออกกฎระเบียบ ข้อญัตติฯต่าง ออกมายืดหยุ่นได้

สภากทม. ตั้ง คกก.วิสามัญฯ พิจารณาหน่วยงานกทม.ยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร

สภากทม. ตั้ง คกก.วิสามัญฯ พิจารณาหน่วยงานกทม.ยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร
สภากทม. มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,644,692,694 บาท ก่อนให้ความเห็นชอบ ทั้งหมด 15 คน เพื่อพิจารณาในรายละเอียด พร้อมตั้ง คกก.วิสามัญ 13 คน ร่วมพิจารณารูปแบบและแนวทางในการกำจัดมูลฝอยของกทม.
(27 เม.ย. 54) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 2 ประจำปีพุทธศักราช 2554 โดยมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.
ในที่ประชุม ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติเรื่อง กรุงเทพมหานครขอความเห็นชอบให้หน่วยงาน 6 หน่วยงานยืนเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,644,692,694 ล้านบาท ด้วยในปีงบประมาณ 2554 กรุงเทพมหานครจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายประจำ และที่มีภาระผูกพันแล้ว 64,800 ล้านบาท แต่มีงบประมาณเพียง 56,000 ล้านบาท ยังขาดงบประมาณอีก 8,800 ล้านบาท กรุงเทพมหานครได้รวบรวมรายการ/โครงการต่างๆ ที่หน่วยงานแจ้งว่าได้ก่อหนี้ผูกพันแล้วและรายการ/โครงการที่ดำเนินการจนได้ตัวผู้ขายหรือผู้รับจ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพันและหน่วยงานจะต้องเบิกจ่ายตามที่ได้รับแจ้งหนี้ หรือตามแผนการใช้จ่ายเงิน หรือตามที่ได้รับตัวผู้ว่าจ้างแล้ว ครั้งหนึ่งเกิน 30 ล้านบาท จำนวน 6 หน่วยงาน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,644,692,694 ล้านบาท ประกอบด้วย สำนักการศึกษา 430,951,000 ล้านบาท สำนักการระบายน้ำ 201,709,127 ล้านบาท สำนักการจราจรและขนส่ง 850,107,152 ล้านบาท สำนักสิ่งแวดล้อม 1,077,725,415 ล้านบาท สำนักการศึกษา 31,600,000 ล้านบาท สำนักการยุทธศาสตร์และประเมินผล 43,600,000 ล้านบาท โดยรายการของสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการต่อเนื่อง มีแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายเงินที่แน่นอน รายการของสำนักการศึกษา เป็นโครงการที่ต้องสมทบงบประมาณงบเงินอุดหนุนรัฐบาลเพื่อส่งเสริมพัฒนาเยาวชน และรายการของสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของสำนักงานเขต จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นโครงการต่อเนื่องที่เป็นภาระผูกพันของกรุงเทพมหานคร เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน ประชาชน และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการของกรุงเทพมหานคร จึงขอยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินการเป็นเงินทั้งสิ้น 2,644,692,694 ล้านบาท
ด้าน สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมกันอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ควรคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน รวมทั้งโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชีวิตของคนกรุงเทพมหานครอีกด้วย
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,644,692,694 บาท ก่อนให้ความเห็นชอบทั้งหมดจำนวน 15 คน โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาในการพิจารณา
จากนั้น นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ได้เสนอญัตติด้วยวาจา เรื่องขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณารูปแบบและแนวทางในการกำจัดมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณารูปแบบและแนวทางในการกำจัดมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 13 คน โดยไม่กำหนดระยะเวลาในการพิจารณา

กทม. นำสื่อมวลชนเยือนกาญจนบุรีชมแนวทางอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่

กทม. นำสื่อมวลชนเยือนกาญจนบุรีชมแนวทางอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่
นายมนัส ปสาทรัตน์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กทม. แจ้งว่า กทม. ได้กำหนดจัดสัมมนาสื่อมวลชนตามโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. - 1 พ.ค. 54 ระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่กองประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหาร สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ทำให้ข่าวสารของกรุงเทพมหานครได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง รวมถึงเป็นการเพิ่มศักยภาพการขยายเครือข่ายการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของกรุงเทพมหานครอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้กทม. จะนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมต้นจามจุรียักษ์ ณ กองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 กรมสัตว์ทหารบก จ.กาญจนบุรี ตั้งอยู่บริเวณบ้านกสิกรรม หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.ด่านมะขามเตี้ย มีขนาด 10 คนโอบ อายุราว 300 ปี ซึ่งมีความสูงของเรือนยอด 20 เมตร รัศมีทรงพุ่มกิ่งก้านสาขาเฉลี่ย 25.87 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางร่มเงาประมาณ 51.75 เมตร มีพื้นที่ของพุ่มประมาณ 1 ไร่ 2 งาน 4 วา โดย พ.อ.สันติ แสนรักษ์ หัวหน้ากองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายการดำเนินงานของกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 และแนวทางการอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมากเพื่อชมต้นไม้ใหญ่โบราณที่หาชมได้ยาก และเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.กาญจนบุรี อีกทั้งสอดคล้องกับโครงการประกวดต้นไม้ใหญ่ของกรุงเทพมหานคร (Bangkok Big Trees) ในการเฟ้นหาต้นไม้ใหญ่ที่สุด ต้นไม้สูงที่สุด ต้นไม้สวยสมบูรณ์ที่สุด และต้นไม้ทรงคุณค่าที่สุด เพื่อดำเนินการอนุรักษ์ไม้ใหญ่ในเมืองหลวงและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อไป

เพิ่มหมายเลขสอบถามข้อมูลประกวดคำขวัญกรุงเทพมหานคร

เพิ่มหมายเลขสอบถามข้อมูลประกวดคำขวัญกรุงเทพมหานคร
นายโกสิน เทศวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครจัดทำโครงการประกวดคำขวัญกรุงเทพมหานครขึ้น เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีคำขวัญที่แสดงถึงเอกลักษณ์พิเศษและความเป็นมาของกรุงเทพมหานคร เป็นครั้งแรกในรอบ 229 ปี และสามารถนำคำขวัญดังกล่าวไปใช้ในโอกาสต่างๆ ทั้งยังส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง โดยขณะนี้มีผู้สนใจร่วมประกวดคำขวัญในโครงการฯ จำนวนมาก และมีผู้ติดต่อมายังสำนักการศึกษา กทม. เพื่อสอบถามข้อมูล จนเป็นเหตุให้หมายเลขโทรศัพท์หลักที่ใช้ติดต่อสอบถามข้อมูลของโครงการฯ ไม่ว่างหรือไม่สามารถติดต่อได้ จึงขอแจ้งหมายเลขโทรศัพท์เพิ่มเติมเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ติดต่อสอบถาม ดังนี้ โทร. 0 2437 6631-5 กด 0 หรือต่อ 3412, 3408
สำหรับการประกวดแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1. ระดับประถมศึกษา 2. ระดับมัธยมศึกษา และ 3. ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเนื้อหาของคำขวัญต้องแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์พิเศษและความโดดเด่นที่น่าภาคภูมิใจของกรุงเทพมหานคร มีความยาวไม่เกิน 30 พยางค์ คนละไม่เกิน 1 คำขวัญ ซึ่งการตัดสินในรอบแรกคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาไทย จะร่วมกันคัดเลือกคำขวัญจากคำขวัญทั้งหมดที่ส่งเข้าประกวด ให้เหลือเพียง 5 คำขวัญ โดยระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ระดับละ 1 รางวัล ส่วนระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวน 3 รางวัล รวมเป็น 5 รางวัล คำขวัญที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับรางวัลๆ ละ 50,000 บาท ทั้งนี้ผลการตัดสินของคณะกรรมการฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด กรุงเทพมหานครจะเริ่มเปิดรับคำขวัญตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 เม.ย. 54 จากนั้นระหว่างวันที่ 1–30 มิ.ย. 54 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมโหวตคำขวัญที่ชื่นชอบผ่านทางไปรษณียบัตร เพื่อคัดเลือกให้เป็นคำขวัญประจำกรุงเทพมหานคร และจะมีการจับรางวัลไปรษณียบัตรผู้ที่ร่วมส่งผลโหวตคำขวัญคำขวัญที่ได้คะแนนสูงสุดในวันที่ 2 ก.ค. 54 ผ่านการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ซึ่งผู้โชคดีจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมประกาศผลคำขวัญที่ชนะเลิศให้เป็นคำขวัญประจำกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ชนะการประกวดคำขวัญจะได้รับรางวัลเป็นเงิน จำนวน 500,000 บาท รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้นกว่า 850,000 บาท
ผู้สนใจร่วมส่งคำขวัญเข้าประกวด สามารถส่งมาที่ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (หน่วยศึกษานิเทศก์) 869 ถ.ลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600 โดยรับเฉพาะคำขวัญที่ส่งผ่านทางไปรษณีย์และถือวันประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. 0 2196 2314-5 และ 0 2437 6631-5 กด 0 หรือต่อ 3412, 3408 หรือผ่านทาง www.facebook.com/bkkmotto

กทม. เพิ่มศักยภาพนักบริหารระดับกลาง รุ่น 9

กทม. เพิ่มศักยภาพนักบริหารระดับกลาง รุ่น 9
(27 เม.ย. 54) เวลา 09.30 น. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลาง รุ่นที่ 9 ระหว่างวันที่ 27 เม.ย. - 11 ส.ค. 54 เพื่อพัฒนาศักยภาพนักบริหารของกรุงเทพมหานคร พร้อมมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับคะแนนรวมการประเมินผลการฝึกอบรมดีเด่นรุ่นที่ 8 จำนวน 5 ราย โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายหรรษารมย์ โกมุทผล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการ และผู้เข้ารับการอบรม รวมจำนวน 39 คน ร่วมพิธี ณ ห้องเจ้าพระยา กทม.
กรุงเทพมหานครจัดอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลาง รุ่นที่ 9 เพื่อพัฒนานักบริหารมืออาชีพที่มีขีดสมรรถนะในการบริหารจัดการสูง มีภาวะผู้นำที่ดี มีคุณธรรมและจริยธรรม สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ประชาชน รวมทั้งดำรงตนเป็นที่พึ่งของประชาชน และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สาธารณะ โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 99 คน ประกอบด้วย ข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครระดับ 7 และระดับ 8 จากสำนักและสำนักงานเขต จำนวน 30 คน ข้าราชการ พนักงานจากหน่วยงานต่างสังกัด จำนวน 9 คน ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมราชองครักษ์ การประปานครหลวง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำนักงาน ป.ป.ช. องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมฟ้าผ่า จังหวัดสมุทรปราการ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร กำหนดระยะการฝึกอบรม ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. - 11 ส.ค. 54 รวมจำนวน 16 สัปดาห์ ประกอบด้วย การฝึกอบรมภาควิชาแบบไป–กลับ การฝึกอบรมผู้บังคับบัญชา–ลูกเสือ ระดับผู้นำ ขั้นความรู้ชั้นสูง ณ ค่ายลูกเสือ วชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี การดูงานในประเทศ และต่างประเทศ
สำหรับผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารมหานครระดับกลางรุ่นที่ 8 ที่ได้คะแนนรวมสูงสุด 5 อันดับ และได้รับเกียรติบัตร ประกอบด้วย 1. นายสุรศักดิ์ กาญจนไวกูณฐ์ ผู้อำนวยการกองจัดเก็บค่าผ่านทาง 2 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม 2. นางรัตนา บรรณาธรรม นักวิชาการสาธารณสุข 8 วช. กลุ่มงานวิจัยและพัฒนาทางส่ธารณสุข สำนักงานพัฒนาระบบสาธารณสุข สำนักอนามัย 3. นายเกรียงไกร ตั้งจิตมณีศักดา นายแพทย์ 8 วช. กลุ่มงานอนามัยชุมชน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำนักการแพทย์ 4. นายธนธร เปรมสิทธิ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 7 กลุ่มงานยุทธศาสตร์การเงินและการคลัง สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล 5. นางเบญญา อินทรวงศ์โชติ หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตปทุมวัน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า รู้สึกดีเป็นอย่างยิ่งที่ทราบว่ามีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมาจากหลายหน่วยงานและสายงานต่างๆ นับเป็นประโยชน์ที่จะได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ ประสบการณ์ในการทำงานของนักบริหาร อีกทั้งประสานการทำงานระหว่างองค์กรในภายหน้า และมั่นใจว่าผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับการพัฒนาทั้งความรู้ทางวิชาการ ตลอดจนได้รับการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของนักบริหาร อันจะนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม

กทม. เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน

กทม. เตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน
(27 เม.ย. 54) เวลา 14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 4/2554 โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ปีนี้คาดว่าฤดูฝนจะมาถึงเร็วกว่าปกติ และอาจมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าทุกปี ประกอบกับในระยะนี้จะเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ จึงกำชับให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตต่างๆ เร่งดำเนินการขุดลอกท่อ เพื่อเปิดทางน้ำไหล รวมทั้งเร่งติดตั้งซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ และสถานีสูบน้ำในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง และเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกวดขันผู้ประกอบการป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ตรวจสอบความแข็งแรงของป้าย รวมทั้งดูแลตัดกิ่งไม้พื้นที่ที่มีต้นไม้ใหญ่เพื่อไม่ให้หักโค่น หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน ผู้สัญจรผ่านไปมาในเวลาที่เกิดพายุลมแรงอีกด้วย

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

กทม. เปิดรับสมัครงานหลายอัตรา

กทม. เปิดรับสมัครงานหลายอัตรา
นายมนัส ปสาทรัตน์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กทม.แจ้งว่า หน่วยงานของกรุงเทพมหานครเปิดรับสมัครงานหลายอัตรา ดังนี้
สำนักการระบายน้ำ รับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งคนงาน จำนวน 1 อัตรา สังกัดกองระบบอาคารบังคับน้ำ ผู้ประสงค์จะสมัครสอบให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่กลุ่มงานการเจ้าหน้าที่ สำนักเลขานุการ สำนักการระบายน้ำ ชั้น3 ศาลาว่าการกทม.2 ถ.มิตรไมตรี แขวงดินแดง ระหว่างวันที่ 28 เม.ย. – 4 พ.ค. 54 ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร. 0 2246 0259
โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ รับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างชั่วคราว สังกัดโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ สำนักการแพทย์ ดังนี้ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป ตำแหน่งลูกมือช่าง (ช่างประปา) จำนวน 1 อัตรา และฝ่ายการพยาบาล ตำแหน่งคนงาน จำนวน 1 อัตรา ผู้ประสงค์จะสมัครสอบให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่งานธุรการและการเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ฯ ชั้น 2 อาคาร 2 ชั้น ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 4 พ.ค. 54 ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร. 0 2429 3575–81 ต่อ 8505
เขตปทุมวัน รับสมัครบุคคลเข้าเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เพื่อปฏิบัติการสอนในโรงเรียนสวนลุมพินี สังกัดเขตปทุมวัน จำนวน 1 อัตรา ผู้ประสงค์จะสมัครให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่โรงเรียนสวนลุมพินี เขตปทุมวัน ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 3 พ.ค. 54 ในวันและเวลาราชการ สอบถาม โทร 0 2252 6957

กทม. เปิดรับความคิดเห็นการเวนคืนที่ดินขยายถนนพุทธมณฑลสาย 1

กทม. เปิดรับความคิดเห็นการเวนคืนที่ดินขยายถนนพุทธมณฑลสาย 1
นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครจะดำเนินการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์โครงการสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายพุทธมณฑลสาย 1 (บริเวณจุดตัดกับถนนเพชรเกษม ถ.บางแวก ถ.บรมราชชนนี และบริเวณถนนเลียบทางรถไฟสายใต้) ในท้องที่แขวงตลิ่งชัน ฉิมพลี บางระมาด เขตตลิ่งชัน แขวงคลองขวาง บางด้วน บางหว้า เขตภาษีเจริญ แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค จึงมีความจำเป็นต้องเสนอตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนพุทธมณฑลสาย 1 พ.ศ. ...
เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 57 วรรคสองบัญญัติให้การดำเนินการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต้องจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงก่อนดำเนินการ ดังนั้นกรุงเทพมหานครจะจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีดำเนินการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ โครงการสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนพุทธมณฑลสาย 1 ในระหว่างวันที่ 2–20 พ.ค. 54 โดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 ข้อ 9 (1) (ข) ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้ที่กองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักโยธา ศาลาว่าการกทม.2 ถ.มิตรไมตรี แขวง/เขตดินแดง กทม. โทร. 0 2246 0298, 0 2246 0301 ต่อ 2180

ขอเชิญร่วมประกวดจุดผ่อนผันดีเด่นและผู้ค้าดีเด่น

ขอเชิญร่วมประกวดจุดผ่อนผันดีเด่นและผู้ค้าดีเด่น
นายกระมล โอฬาระวัต ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ค้าและเจ้าหน้าที่ อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้ค้าและจุดผ่อนผันอื่นๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญ ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจุดผ่อนผัน ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข กรุงเทพมหานครจึงได้จัดประกวดจุดผ่อนผันดีเด่นและผู้ค้าดีเด่นขึ้น โดยให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต คัดเลือกผู้ค้าส่งเข้าประกวด สำหรับรางวัลจุดผ่อนผันดีเด่นจะได้รับโล่และใบประกาศเกียรติบัตร คือ รางวัลที่ 1 โล่ทอง รางวัลที่ 2 โล่เงิน รางวัลที่ 3 โล่ทองแดง ส่วนผู้ค้าดีเด่นจะได้รับเข็มพร้อมใบประกาศเกียรติบัตร คือ รางวัลที่ 1 เข็มทอง รางวัลที่ 2 เข็มเงิน รางวัลที่ 3 เข็มทองแดง จึงขอเชิญชวนผู้ค้าเสนอชื่อผู้ค้าและจุดผ่อนผันเข้าประกวดภายในเดือนพฤษภาคม 2554 ผ่านคณะกรรมการระดับเขตซึ่งมีผู้อำนวยการเขตเป็นประธาน และเสนอคณะกรรมการระดับกรุงเทพมหานคร มีปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิจารณาตัดสินเพื่อมอบรางวัลดังกล่าวในวันที่ 1 กันยายน วันสถาปนาเทศกิจ

กทม. ตรวจเข้มอาคารหลังได้รับการร้องเรียน

กทม. ตรวจเข้มอาคารหลังได้รับการร้องเรียน
(25 เม.ย. 54) เวลา 16.00 น. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบ การก่อสร้างอาคารบริษัท ปอร์ติโก้ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซ.หลังสวน เขตลุมพินี ว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนจากนางศรีอัปสร ซัมพุนท์พงศ์ ผ่านสื่อว่า การก่อสร้างอาคารของบริษัทดังกล่าว ทำให้บ้านของผู้ร้องเรียนซึ่งอยู่ติดกับการก่อสร้างได้รับความเสียหาย และอาคารดังกล่าว ก่อสร้างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย คือ อาคารไม่มีที่ว่างโดยรอบอาคาร 2.00 เมตร และหน้าต่างของอาคารมีระยะห่างเขตที่ดินไม่ถึง 3.00 เมตร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งต่อมาบริษัท ปอร์ติโก้ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีหนังสือแจ้งกองควบคุมอาคารว่าได้แก้ไขแนวอาคารตามข้อทักท้วงแล้ว และหลังจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขแบบก่อสร้างและแก้ไขแนวอาคารให้มีที่ว่างโดยรอบอาคาร 2.00 เมตรแล้ว ในส่วนของหน้าต่างของอาคารทางบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร

29 เม.ย. นี้ กทม. ระดมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติร่วมสร้าง “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์”

29 เม.ย. นี้ กทม. ระดมผู้เชี่ยวชาญนานาชาติร่วมสร้าง “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์”
กทม. เตรียมจัดระดมสมองผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างชาติปรับปรุงฟื้นฟูเมืองตามแนวพระราชดำรัส“กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” ให้เป็นเมืองโปร่ง เมืองน่าดู เมืองประวัติศาสตร์ และเมืองสวยงาม เชิญ 4 ชาติผู้นำการปรับปรุงฟื้นฟูเมืองร่วมเสนอแนะแนวทางการพัฒนาให้เป็นเมืองต้นแบบที่มีเอกลักษณ์
(26 เม.ย. 54) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 10.30 น. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมปรับปรุงฟื้นฟูเมืองตามแนวพระราชดำรัส “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งกทม. จะจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงการเปิดเวทีสัมมนาระดมสมอง และการนำเสนอผลการประชุมระดมความคิดเห็นระดับนานาชาติ ในวันที่ 29 เม.ย. 54 เพื่อบูรณาการความคิด ข้อเสนอแนะ มุมมอง และประสบการณ์ของบุคลากรเชี่ยวชาญชั้นนำในระดับนานาชาติ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการกำหนดแนวทางการฟื้นฟูเมืองและองค์ประกอบเมือง ที่มีเอกลักษณ์ เป็นเมืองโปร่ง เป็นเมืองน่าดู เป็นเมืองประวัติศาสตร์ และเป็นเมืองที่สวยงาม ตามแนวพระราชดำรัส “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับการสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 เม.ย.54 เวลา 09.30–15.30 น. ณ ห้องมัฆวาน-รังสรรค์ สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต โดย กทม.ได้เชิญผู้แทนจากมหานครชั้นนำของโลก 4 ประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จในการปรับปรุงฟื้นฟูเมือง ประกอบด้วย ประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญไทย เพื่อเป็นวิสัยทัศน์ในการกำหนดแนวทางการปรับปรุงและฟื้นฟูกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องไปกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ โดยจะนำข้อสรุปการหารือแนวทางการปรับปรุงและฟื้นฟูเมืองจากผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อกำหนดเมืองต้นแบบกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์
ภายในงานยังได้นำเสนอแนวคิดและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการ “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” อาทิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับแนวทางการพัฒนากรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการแก้ไขปัญหาจราจร น้ำท่วม นำเสีย การวางผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร และตัวอย่างการปรับปรุงเมืองในประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ และสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นต้น
นอกจากนี้ภายหลังจากการสัมมนาระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ สำนักผังเมือง กทม. จะรวบรวมข้อสรุปและแนวคิดการสร้างเมืองต้นแบบตามแนวพระราชดำรัสกรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือเชิงสารคดีอันทรงคุณค่า ชุด “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์ ด้วยพระบารมีจักรีวงศ์” บันทึกพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ผู้ทรงวางรากฐานและสร้างสรรค์ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองสวยงามน่าอยู่ ซึ่งจะจัดทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา โดยเป็นหนังสือวิชาการประกอบหลักฐานชั้นต้น อาทิ ภาพประวัติศาสตร์ พระราชหัตถเลขา และเอกสารราชการต่างๆ เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งในการศึกษาและเรียนรู้ของคนรุ่นต่อไป

28 เม.ย. นี้ กทม. จัดหน่วยบริการตรวจสุขภาพฟรี

28 เม.ย. นี้ กทม. จัดหน่วยบริการตรวจสุขภาพฟรี
พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัย ร่วมกับมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ และชมรมสันติสุขไทย-อินเดีย จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส โดยให้บริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป คัดกรองความเสี่ยงสุขภาพ ตรวจรักษาโรคช่องปากและฟันด้วยการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ตรวจมวลกระดูก ตรวจวัดสายตา คัดกรองโรคต้อกระจก เอกซเรย์ปอดตรวจวัณโรค สาธิตอาหารเพื่อสุขภาพ ให้คำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ โภชนาการ ปัญหาครอบครัว สุขภาพจิต บริการรถคลายเครียดเคลื่อนที่ รถสร้างสรรค์กิจกรรมสร้างสุข มอบแว่นตาแก่ผู้สูงอายุ มอบถุงยังชีพ และตัดผม–ซอยผม นอกจากนี้ยังมีบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสุนัขและแมว บริการทำหมันโดยสัตว์เลี้ยงที่จะนำมาทำหมันต้องงดอาหารและน้ำ 8-12 ชั่วโมง และบริการฝังไมโครชิปสัตว์เลี้ยง โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องนำสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วย
ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปใช้บริการดังกล่าวได้ ในวันที่ 28 เม.ย. 54 เวลา 08.00–12.00 น. ณ ลานกีฬาชุมชนทรัพย์สินพัฒนา เขตบางขุนเทียน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

พุธนี้ สภากทม. พิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กทม.ยืมเงินสะสม 2,600 ล้านบาท

พุธนี้ สภากทม. พิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กทม.ยืมเงินสะสม 2,600 ล้านบาท
ประชุมสภากทม. 27 เม.ย. นี้ เตรียมพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,644,692,694 บาท รวมทั้งญัตติขอให้กรุงเทพมหานครจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบันและทิศทางการพัฒนาเมือง
(27 เม.ย. 54)นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร แจ้งว่าจะเปิดประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 2) ประจำปี พ.ศ. 2554 ในวันพุธที่ 27 เม.ย. 54 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณา ญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครดำเนินกิจการนอกเขตกรุงเทพมหานครโครงการก่อสร้าง ถ.หทัยราษฎร์ ช่วงจาก ถ.สุวินทวงศ์ - ซ.หทัยราษฎร์ 1 และช่วงจากคลองสาม – ถ.วงแหวนรอบนอกฝั่งตะออก อีกทั้งญัตติขอความเห็นชอบให้กรุงเทพมหานครยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,644,692,694 บาท ญัตติของนางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบันและทิศทางการพัฒนาเมือง รวมทั้งญัตติด้วยวาจาของนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ เรื่อง ขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณารูปแบบและแนวทางในการกำจัดขยะมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร และญัตติของนายพีรพล กนกวลัย เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินจากโรงพยาบาลโดยใช้รายรับจริงจากค่าห้องพักผู้ป่วยเป็นฐานในการคำนวนภาษี
อย่างไรก็ตามอาจมีญัตติด่วนด้วยวาจาที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่อไป

คืนความสะอาดให้ถนนสีลมหลังสงกรานต์

คืนความสะอาดให้ถนนสีลมหลังสงกรานต์
(24 เม.ย. 54) นายมนู สิทธิประสาศน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม Cleaning Silom : TOGETHER WE CAN เขตบางรัก ณ บริเวณหน้าอาคาร ซีพี ทาวเวอร์ ถ. สีลม ซึ่งกรุงเทพมหานคร ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตบางรัก พระโขนง วัฒนา คลองเตย สาทร ปทุมวัน สวนหลวง ยานนาวา บางนา บางคอแหลม อาสาสมัคร และผู้ที่เคยเล่นน้ำสงกรานต์ รวมกว่า 200 คน รถน้ำ 6 คัน รถขยะ 8 คัน ร่วมมือร่วมแรงกันล้างถนนสีลมตลอดสายตั้งแต่แยกศาลาแดง – แยกนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกบนพื้นถนน คืนความสะอาด สวยงามให้ถนนสีลม หลังปิดถนนเล่นน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์เมื่อวันที่ 13–15 เม.ย. ที่ผ่านมา

คืบหน้าผังเมืองรวมกทม. (ปรับปรุงครั้งที่ 3)

คืบหน้าผังเมืองรวมกทม. (ปรับปรุงครั้งที่ 3)
ผังเมืองรวมฯ ปรับปรุงครั้งที่ 3 คืบหน้า หลังรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน หน่วยงาน และองค์กรวิชาชีพรอบแรกกว่า 30 ครั้งแล้วเสร็จ เตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมกทม.เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของร่างผังเมืองฯ ก่อนปิดประกาศและเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนรอบ 2 พร้อมเสนอต่อคณะกรรมการผังเมือง และปิดประกาศร่างให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นคำร้องแก้ไขภายในกำหนด
นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ในการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (25 เม.ย. 54) เนื่องจากประกาศผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 2) ฉบับปัจจุบัน ซึ่งประกาศใช้บังคับเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 49 จะสิ้นสุดระยะเวลาการใช้บังคับในวันที่ 15 พ.ค. 54 และขณะนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ประกาศขยายระยะเวลาการใช้บังคับครั้งที่ 1 กำหนดให้สิ้นสุดระยะเวลาการใช้บังคับในวันที่ 15 พ.ค. 55 ซึ่งสำนักผังเมืองได้ประเมินผลการบังคับใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2549 เห็นควรให้มีการปรับปรุง ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) เนื่องจากสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมของเมืองเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้คณะที่ปรึกษา ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครได้มีข้อเสนอแนะเมื่อวันที่ 2 มี.ค. 54 ให้พิจารณามาตรการลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในพื้นที่เขตชั้นในของกรุงเทพมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน และควรเร่งรัดดำเนินการวางแผนและจัดทำผังเมืองรวมฯ (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ให้แล้วเสร็จเพื่อให้กฎกระทรวงผังเมืองรวมสามารถบังคับใช้ได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการดำเนินการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ขณะนี้ได้ทำการรวบรวม ประมวล วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นรายกลุ่มเขต อีกทั้งหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งของกรุงเทพมหานคร หน่วยงานภายนอก หน่วยงานของจังหวัดโดยรอบกรุงเทพมหานคร ตลอดจนกลุ่มนักวิชาการและองค์กรวิชาชีพ รวมกว่า 30 ครั้ง เพื่อนำผลการศึกษาและข้อคิดเห็นที่ได้จากการประชุมมาพิจารณาประกอบหลักการทางวิชาการด้านผังเมือง โดยคำนึงถึงการส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ มีสภาพแวดล้อมของการอยู่อาศัยที่ดี มีระบบคมนาคมขนส่งที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่เพียงพอได้มาตรฐาน ส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การบริหารและการปกครองประเทศ การรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และลดการใช้พลังงานซึ่งส่งผลกระทบต่อปัญหาภาวะโลกร้อน อีกทั้งจัดทำแผนผังกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน การกำหนดนโยบาย มาตรการและวิธีดำเนินการเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผังเมืองรวม เป็นต้น
ทั้งนี้ในแผนการดำเนินการระยะต่อไปจะได้มีการประชุมคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพมหาครเพื่อพิจารณาร่างผังเมืองรวมฯ ปิดประกาศร่างผังเมืองรวมและจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งภายหลังจากรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนแล้ว จะประชุมคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาร่างผังเมืองรวมฯ ฉบับปรับปรุงใหม่ และเสนอต่อคณะกรรมการผังเมือง ซึ่งมีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ก่อนจะปิดประกาศร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร 90 วัน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบร่างผังเมืองรวมฯ และเปิดให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นคำร้องขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดต่างๆ
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า นอกจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และหน่วยงานต่างๆ แล้ว ให้สำนักผังเมืองจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของหัวหน้าหน่วยงานและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครมีส่วนร่วมในการเสนอแนะข้อคิดเห็น เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการเมืองหลวงตามภารกิจต่างๆ อีกทั้งนำเสนอต่อรัฐบาลในการกำหนดนโยบายให้จังหวัดโดยรอบกรุงเทพมหานครจัดทำผังเมืองบริเวณพื้นที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพมหานครให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับผังเมืองรวมของกรุงเทพมหานคร เพื่อการพัฒนาพื้นที่โดยรวมขนาดใหญ่และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ต่อเนื่องต่อไป

เร่งผลักดันกทม. สู่เมืองหนังสือโลก ในปี 56

เร่งผลักดันกทม. สู่เมืองหนังสือโลก ในปี 56
กทม. ยืนข้อเสนอต่อยูเนสโก เพื่อการเป็นเมืองหนังสือโลก Bangkok World Book Capital 2013 พร้อมเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานทุกภาคส่วน เดินหน้าโครงการรณรงค์ให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่าน (Bangkok Read for Life)
(25 เม.ย. 54) เวลา 12.00 น. นายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมการในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่าน Bangkok World Book Capital 2013 โดยได้จัดให้มีการประชุมสมัชชาการอ่านเพื่อจัดเตรียมเอกสารเสนอให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหนังสือโลก การร่วมงาน BMA Book Fair และการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการรณรงค์ให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่านร่วมกับ 78 หน่วยงาน ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้เสนอ Proposal เพื่อเสนอให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหนังสือโลกต่อยูเนสโก เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 54 ที่ผ่านมา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเดินทางไปยื่นเอกสารด้วยตนเองอีกครั้ง วันที่ 29 เม.ย. 54 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จากนี้กรุงเทพมหานครจะจัดการประชุมเครือข่ายที่เข้าร่วม MOU จำนวน 78 หน่วยงาน ในวันที่ 10 พ.ค. 54
สำหรับแผนกิจกรรมโครงการรณรงค์ให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่าน (Bangkok Read for Life) ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 เปลี่ยนกระบวนทัศน์ของสังคม Mindset Change ประกอบด้วย การผลิตสื่อหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ การเผยแพร่สื่อ และการบริหารจัดการงานสื่อสาร โดยร่วมกับภาคีในการสื่อสารสาธารณะ ยุทธศาสตร์ที่ 2 บริหารจัดการและขับเคลื่อนนโยบาย โดยมีการกำหนดนโยบายของกรุงเทพมหานครที่ชัดเจนและต่อเนื่อง มีการกำหนดแผนงานส่งเสริมการอ่านทั้งระยะสั้นและระยะยาว การจัดทำ Proposal เพื่อเข้าชิง World Book Capital จาก Unesco การจัดจ้างที่ปรึกษากำกับและประเมินเพื่อพัฒนาโครงการ ยุทธศาสตร์ที่ 3 สร้างการมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง All for Read ประกอบด้วย การจัดตั้งศูนย์ประสานงาน Bangkok Read for life กิจกรรมสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ยุทธศาสตร์ที่ 4 “ทุกพื้นที่ มีให้อ่าน” ประกอบด้วย การพัฒนาพื้นที่การอ่านเดิม ขยายพื้นที่การอ่านใหม่ และยุทธศาสตร์ที่ 5 กิจกรรมหลากหลาย ตรงใจทุกกลุ่มประกอบด้วย กิจกรรมถนนนักอ่าน และกิจกรรม Bangkok Read for Life
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญประชาชนทุกฝ่ายร่วมสนับสนุนทุกกิจกรรมเพื่อให้กรุงเทพมหานครได้รับการคัดเลือกเป็นเมืองหนังสือโลกในปี 2556

กำหนดการกรุงเทพมหานคร 26 เมษายน พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร
วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554
****************

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ H.E.Dr.Jorge Ryder
Torres Pereira เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐโปรตุเกสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยม
คารวะในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
ณ ห้องเจ้าพระยา กทม.
10.30 น. นาย พรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว “กรุงเทพเมืองสวรรค์”
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
12.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวสุนทรพจน์ในงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน
ให้แก่สมาชิกหอการค้าอังกฤษ-ไทย
ณ ห้องPinnacle โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
16.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ นาง Reta Jo Lewis ผู้แทนพิเศษจาก
Global Intergovernmental Affairs เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อหารือข้อราชการ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน
ประเด็นสาธารณะต่างๆ
ณ ห้องเจ้าพระยา กทม.

เดินหน้าพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคป้องกันประชาชนถูกเอาเปรียบ

เดินหน้าพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคป้องกันประชาชนถูกเอาเปรียบ
กทม. สร้างความเชื่อมั่นด้านงานคุ้มครองสิทธิให้ประชาชน จัดสัปดาห์คุ้มครองผู้บริโภค 25 เม.ย. – 2 พ.ค. 54 ที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต พร้อมเป็นทางเลือกหนึ่งในการพิทักษ์สิทธิประชาชน เปิดรับข้อร้องเรียนการละเมิดสิทธิผ่านสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง
(25 เม.ย. 54) พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “สัปดาห์การคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานคร” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 เม.ย. – 2 พ.ค. 54 ณ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เนื่องในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทยซึ่งตรงกับวันที่ 30 เม.ย. ของทุกปี เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและผลงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานครให้ประชาชนรับทราบเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่ง ในการปกป้องสิทธิ และดูแลประชาชนไม่ให้ถูกละเมิดหรือถูกผู้ประกอบการเอาเปรียบ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานเขต 50 แห่ง ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย ชมรมคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานครทั้ง 50 ชมรม และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี รวม 370 คน ร่วมพิธีเปิดงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า)
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การมอบโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์แก่ผู้แทนสำนักงานเขต 50 แห่ง เพื่อเป็นสัญลักษณ์และส่งสัญญาณว่ากรุงเทพมหานครและผู้เกี่ยวข้องยังคงมุ่งมั่นตั้งใจทำงานช่วยเหลือประชาชนด้านการคุ้มครองสิทธิในฐานะผู้บริโภคเต็มที่ การรับมอบข้อบังคับสมาพันธ์ชมรมคุ้มครองผู้บริโภคกรุงเทพมหานคร และชมรมคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานคร ทอลค์โชว์ หัวข้อ “สังคมเมืองกับการทำหน้าที่ช่วยเหลือด้านการคุ้มครองผู้บริโภค” โดยอาจารย์ประมาณ เลืองวัฒนะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ประชาชน และผู้สนใจรับทราบนโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร รวมถึงรับรู้สิทธิที่เกี่ยวข้องในฐานะผู้บริโภค
พญ.มาลินี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีการดำเนินงานตามนโยบายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาจากการซื้อ–สินค้าและบริการ อาทิ ปิดประกาศฉลากสินค้าไม่ตรงกับความเป็นจริง โฆษณาสินค้าผิดสรรพคุณหรือเกินจริง ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่กำหนดแนวนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคของกรุงเทพมหานคร และกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย เป็นหน่วยงานสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้ส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงสิทธิของผู้บริโภค 5 ประการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา และสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหายจากการบริโภคสินค้า อีกทั้งรณรงค์ให้ประชาชนให้รับการคุ้มครองสิทธิด้านการบริโภคอย่างถูกต้องด้วย ประชาชนสามารถแจ้งข้อร้องเรียนด้านการคุ้มครองผู้บริโภคได้ที่ สายด่วน กทม. 1555

กทม. มุ่งพัฒนาโรงเรียนในสังกัดฯ เน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง

กทม. มุ่งพัฒนาโรงเรียนในสังกัดฯ เน้นความสัมพันธ์อันดีระหว่างโรงเรียนกับผู้ปกครอง
(24 เม.ย. 54) ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ เขตวัฒนา : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน เพื่อพัฒนาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครองนักเรียน ได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์และแนวคิดร่วมกัน ในการพัฒนาการจัดการศึกษา ซึ่งผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย ประธานกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 436 โรงเรียนๆ ละ 1 คน และเจ้าหน้าที่ดำเนินการจำนวน 25 คน รวมจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 461 คน โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และนายอรรถพร สุวัธนเดชา ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ร่วมพิธี
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครให้มีการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้ศึกษาในระบบอย่างมีมาตรฐาน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีส่วนร่วมระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การเสนอข้อคิด การแก้ไขปัญหาและพัฒนาทางที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนและโรงเรียน เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ ความสามารถ และเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและประเทศชาติต่อไป

กทม. จัดพิธีบวงสรวง-พุทธาภิเษกมวลสารพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม.

กทม. จัดพิธีบวงสรวง-พุทธาภิเษกมวลสารพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม.
เชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ย่านบางขุนเทียน โดยกทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง มอบให้แก่ผู้บริจาค ฤกษ์ดีวันเสาร์ 5 เดือน 5 วันที่ 23 เม.ย. นี้ ร่วมสลักชื่อลงแผ่นทองในพิธีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมบวงสรวงบูชาฤกษ์ และพุทธาภิเษกมวลสาร โดยมีพระเกจิอาจารย์และพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ร่วมพิธี
(23 เม.ย. 54 ) ณ มณฑลพิธีลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. : กรุงเทพมหานครได้จัดพิธีบวงสรวง และพิธีพุทธาพิเษกมวลสาร ทอง ชนวนโลหะ สำหรับจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

บูชาฤกษ์วันเสาร์ 5 เดือน 5 เวลา 14.09 น.
การประกอบพิธีบวงสรวง และพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ทอง ชนวนโลหะ เป็นการบูชาฤกษ์ และปลุกเสกมวลสาร ในวันที่ถือเป็นสิริมงคลยิ่ง เนื่องจากตรงกับวันเสาร์ 5 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งถือเป็นวันแข็ง ดีเลิศในด้านการทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เริ่มตั้งแต่เวลา 13.30 น. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เดินทางไปสักการะบูชาพระศรีศากยมุนี ณ วิหารหลวงวัดสุทัศน์ และนมัสการ ณ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ จากนั้นเข้าสู่พิธีบวงสรวง เวลา 14.09 น. ณ มณฑลพิธีลานคนเมือง โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนำจุดธูปเทียนบูชาเทพ เทวดา ครูอาจารย์ และพราหมณ์ปกรณ์ วุฒิพราหมณ์ ประกอบพิธีบวงสรวง อัญเชิญเทพยดาทั่วท้องจักรวาล จากนั้นเวลา 14.49 น.เป็นพิธีเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์ 10 รูป ได้แก่ สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา พระสาสนโสภณ วัดโสมนัสวิหาร พระธรรมกวี วัดราชาธิวาส พระธรรมสิทธินายกวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระธรรมรัตนากร วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระธรรมคุณาภรณ์ วัดปทุมคงคา พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทวราชกุญชรและพระราชวิจิตรปฏิภาณ วัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ประธานสงฆ์และจุดเทียนชัยเพื่อประกอบพิธีพุทธาภิเษก
เมื่อถึงเวลา 15.09 น. เป็นพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปที่สวดนำพุทธาภิเษก จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ ท่าพระจันทร์ ได้แก่ พระสิริชัย โสภณ พระครูสรวุฒิพิศิษฎ์ พระครูปลัดเนียม พระครูธรรมธรจรัล พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์ และพระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์จากวัดต่าง ๆทั้งกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต จำนวน 99 รูป นั่งเจริญจิตภาวนา โดยมี พระเทพภาวนาวิกรม วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นประธานสงฆ์นั่งปรกเอก และดับเทียนชัย

ผู้บริหารกทม. เห็นชอบร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน

ผู้บริหารกทม. เห็นชอบร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน
(25 เม.ย. 54) ในการประชุมคณะผู้บริหารกทม. ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมนั้น สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกทม. ให้มีการพิจารณาปรับปรุงระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2543 เนื่องจากกทม. ได้ใช้ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้บริการประชาชนมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 ต่อมาได้มีการปรับปรุงโครงสร้าง ปรับเปลี่ยนภารกิจ และปรับเปลี่ยนชื่อของหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นระยะๆ ทำให้ระเบียบฯ ไม่ตรงกับข้อมูลความเป็นจริง ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารกรุงเทพมหาครตามวาระ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงการแบ่งกลุ่มการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต จาก 6 กลุ่มเขต เป็น 12 กลุ่มเขต และแก้ไขเป็น 6 กลุ่มเขต
ทั้งนี้การปรับปรุงระเบียบฯ ว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน นั้น เป็นไปเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน อีกทั้งสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานกรุงเทพมหานครให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้ระบบราชการมีความรวดเร็วในการให้บริการประชาชนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนที่ติดต่อสามารถเข้าใจได้ว่า ถ้าต้องการให้หน่วยงานของกรุงเทพมหานครดำเนินการในเรื่องนั้นๆ จะมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร ใช้เวลาแต่ละขั้นตอนเท่าใด และต้องมีเอกสารหลักฐานใดบ้างที่ใช้ประกอบคำขอหรือนำมาแสดง เพื่อหน่วยงานจะได้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาระบุไว้ โดยใช้แนวทางตามตัวอย่างจากคู่มือระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชนของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2532 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงรูปแบบเดิมของระเบียบฯ พ.ศ. 2543 ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ.... และจะมีการลงนามเพื่อประกาศใช้ในระเบียบกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยการปฏิบัติราชการเพื่อประชาชน พ.ศ. 2554 แบ่งเป็น 4 หมวด ประกอบด้วย หมวด 1 ขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการของสำนัก 86 งานบริการ หมวด 2 ขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติราชการของสำนักงานเขต 72 งานบริการ หมวด 3 ข้อยกเว้นในการปฏิบัติราชการ หมวด 4 การร้องทุกข์และการกำกับให้เป็นไปตามระเบียบ และบทเฉพาะกาล

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

สภากรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เยือนสภากทม. กระชับความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ระหว่าง 3-7 พ.ค. นี้

สภากรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เยือนสภากทม. กระชับความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ระหว่าง 3-7 พ.ค. นี้
สภากรุงเทพมหานครเตรียมให้การต้อนรับสภากรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีใต้ ตามโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างวันที่ 3-7 พ.ค. 54 นี้
(25 เม.ย. 54) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สภากรุงเทพมหานคร เตรียมให้การต้อนรับ Mr. Kwang tae hu ประธานสภากรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และคณะผู้แทน ทั้งหมด 14 คน เนื่องในโอกาสเดินทางมาเยือนกรุงเทพมหานคร ตามคำเชิญของสภากรุงเทพมหานคร โครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง ระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย. 54 โดยสภากรุงโซลมีกำหนดการเข้าเยี่ยมคาราวะประธานสภากรุงเทพมหานคร ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร เวลา 09.30 น. ในวันที่ 4 พ.ค. 54 และวันเดียวกันนี้ทางสภากรุงเทพมหานครจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงต้อนรับ โดยระหว่างพำนักอยู่ในประเทศไทยทางสภากรุงเทพมหานครจะนำคณะศึกษาดูงานหน่วยงานของกรุงเทพมหานครและเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ รวมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของไทยอีกด้วย สำหรับการเดินทางมาเยือนของสภากรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสภากรุงเทพมหานครตามโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง อีกทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเพิ่มความร่วมมือระหว่างองค์กร ภาคเอกชน ตลอดจนส่งเสริมและแลกเปลี่ยนความร่วมมือ ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนเพื่อการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้านอื่นๆในอนาคตต่อไป

กทม. มอบประกาศเชิดชูเกียรติแท็กซี่พลเมืองดี

กทม. มอบประกาศเชิดชูเกียรติแท็กซี่พลเมืองดี
(22 เม.ย. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ครอบครัวนายอำนาจ พวงสูงเนิน แท็กซี่พลดีเมืองดี พร้อมด้วยดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นางเพียงใจ วิศรุตรัตน นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องเจ้าพระยา พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 50,000 บาท ให้แก่ครอบครัวพวงสูงเนิน โดยมีนางสายทอง พวงสูงเนิน มารดา และนายเพลิน น้าชาย เป็นผู้รับมอบ นายอำนาจ พวงสูงเนิน แท็กซี่พลดีเมืองดีของสังคม อายุ 34 ปี มีภูมิลำเนา ตำบลศรีชมพู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ นับเป็นบุคคลตัวอย่างของคนทำความดีเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจนตนเองเสียชีวิต จากเหตุการณ์คนร้าย คือ นายธาดา อินทมาศ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงรถยนต์ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 54 อีกทั้งใช้มีดและปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ประจำป้อมควบคุมสัญญาณไฟ จราจรบริเวณแยกขัตติยานี เสียชีวิต โดยนายอำนาจ ได้ขับรถขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้หลบหนีจากการจับกุม แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ส่วนคนร้ายได้ถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมา
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในนามของกรุงเทพมหานครขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายอำนาจ พวงสูงเนิน ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอชื่นชมในวีรกรรมของนายอำนาจ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมไทย นับว่าบ้านเมืองยังมีคนดีมีจิตสาธารณะ มีความเสียสละช่วยเหลือผู้อื่นและสังคม และโอกาสนี้กรุงเทพมหานครได้มอบใบประกาศเกียรติคุณ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวพวงสูงเนิน เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติในคุณงามความดีเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมไทยต่อไป

กทม. ติวเข้มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผัน

กทม. ติวเข้มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผัน
(22 เม.ย. 54) เวลา 08.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอบรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันมุ่งสู่ประชาคมผู้ค้าเข้มแข็งและเข้าถึงแหล่งเงินทุน (เพิ่มเติม) จำนวน 20,275 ราย โดยแบ่งเป็น 7 รุ่นๆ ละ 1 วัน ระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย. 54 เวลา 07.00-16.00 น. เพื่อขยายผลให้กับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันเดิม โดยมี นางทยา ทีปสุวรรณ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นางอารุณี รัศมิทัต ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม และกลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอย รวมจำนวน 2,923 คน ร่วมงาน ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
กรุงเทพมหานครจัดโครงการอบรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันมุ่งสู่ประชาคมผู้ค้าเข้มแข็งและเข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้กับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันใหม่ 147 จุด จำนวน 2,294 ราย วันที่ 4 เม.ย. 54 ที่ผ่านมา และเพื่อขยายผลให้กับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันเดิม จึงจัดอบรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผันทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 20,275 ราย โดยแบ่งเป็น 7 รุ่นๆ ละ 1 วัน ระหว่างวันที่ 22-28 เม.ย. 54 เวลา 07.00-16.00 น. ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดยวิทยากรจาก กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักเทศกิจ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมบรรยาย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดีที่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผัน จากสำนักงานเขตดินแดง พญาไท และราชเทวี จำนวน 2,923 ราย ได้รับความรู้เรื่องการจัดตั้งกลุ่ม การพัฒนากลุ่มไปสู่ประชาคมผู้ค้าที่เข้มแข็งได้ด้วยตนเอง และทราบข้อมูลเกี่ยวกับการขอสินเชื่อจากเจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 4 แห่ง เพื่อสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและสามารถช่วยให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครมีความมั่นคงในชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

สภากทม.ติดตามปัญหาโรงเรียนกทม.ในพื้นที่เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตบางขุนเทียน

สภากทม.ติดตามปัญหาโรงเรียนกทม.ในพื้นที่เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตบางขุนเทียน

(22 เม.ย.54) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมติดตามปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่เขตหนองแขม เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน โดยมีผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.

ประธานสภากทม. กล่าวว่า โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในพื้นที่ เขตหนองแขม มีจำนวน 6 แห่ง เขตบางขุนเทียน 16 แห่ง เขตบางบอน 8 แห่ง โดยจากการประชุมพบปัญหาว่า ยังขาดงบประมาณจัดสรรไม่เพียงพอ ซึ่งในบางโรงเรียนมีห้องน้ำและอาคารเรียนทรุดโทรม และยังขาดอุปกรณ์ทางการศึกษาอีกด้วย ทั้งนี้จะนำข้อมูลที่ได้ประชุมร่วมกันในวันนี้ประชุมร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเพื่อเสนอให้ผู้บริหารดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอกับความต้องการต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

กทม. เติมความรู้ผู้ค้าหาบเร่พร้อมชี้ช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุน

นายอรุณ พ่วงสมบัติ ผู้อำนวยการกองการพัฒนาชุมชน สำนักพัฒนาสังคม กทม. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครเตรียมจัด “อบรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนผัน มุ่งสู่ประชาคมผู้ค้าเข้มแข็งและเข้าถึงแหล่งทุน” ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย–ญี่ปุ่น) โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้แทนผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่เขตทั้ง 50 เขตของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 7,500 ราย แบ่งการอบรมออกเป็น 7 รุ่น ระหว่างวันที่ 22–28 เม.ย.54 เพื่อให้ผู้ค้ามีความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาคมผู้ค้าเข้มแข็ง และสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้
ทั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับความรู้ใน 3 หัวข้อ ประกอบด้วย 1. การพัฒนาจุดผ่อนผันตามหลักเกณฑ์ของกรุงเทพมหานคร โดยวิทยากรจากสำนักเทศกิจ 2. การนำกลุ่มผู้ค้าให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต โดยวิทยากรจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน 3. การเสริมสร้างการรวมกลุ่มและการพัฒนากลุ่มผู้ค้ามุ่งสู่ความเข้มแข็งและเป็นประชาคมที่เข้มแข็ง โดยวิทยากรจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ นอกจากนี้ยังมีการออกบูธนำเสนอสินเชื่อของธนาคาร 4 แห่ง เพื่อให้ข้อมูลและรายละเอียดในการกู้ยืมแก่ผู้สนใจด้วย

เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจรับมือแผ่นดินไหวอย่างปลอดภัย

เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจรับมือแผ่นดินไหวอย่างปลอดภัย
(21 เม.ย. 54) นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง การเกิดแผ่นดินไหว แนวทางการป้องกัน และการตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว (สำหรับประชาชน) โดยมี นายสุวัตน์ เชาว์ปรีชา นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ร่วมพิธีเปิด วิศวกรและประชาชนทั่วไปกว่า 100 คน ร่วมงานสัมมนา ณ อาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ วสท. จัดขึ้นเพื่อให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาเกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการปฏิบัติตนเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหว ช่วยลดความเสียหายจากการเกิดเหตุ สามารถดูแลป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง รวมถึงหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาเบื้องต้น และพิจารณารูปแบบอาคารที่มีความปลอดภัยรับมือเหตุแผ่นดินไหวได้ ซึ่งมีการบรรยายพิเศษ เรื่อง การเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทย และกฎหมายเกี่ยวกับอาคารต้านแผ่นดินไหว การเสวนา เรื่อง แนวทางการป้องกันและตรวจสอบอาคารหลังแผ่นดินไหว โดยวิทยากรจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและรับมือเหตุแผ่นดินไหวแก่ประชาชน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันเกิดเหตุแผ่นดินไหวในหลายประเทศสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ส่งผลกระทบมายังพื้นที่ต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งกรุงเทพมหานคร สามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนดังกล่าวด้วย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมและวางแนวทางป้องกันภัยจากแผ่นดินไหวให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด พร้อมทั้งนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์และถ่ายทอดให้บุคคลอื่นต่อไป

เสาร์ 23 เม.ย. นี้ กทม.จัดพิธีศักดิ์สิทธิ์บวงสรวงและพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ทอง ชนวนโลหะ พระกริ่ง กทม.

ฤกษ์ดี เสาร์ ๕ เดือน ๕ กทม.จัดพิธีศักดิ์สิทธิ์ พิธีบวงสรวงและพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ทอง ชนวนโลหะ
เพื่อใช้จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. เพื่อระดมยอดบริจาคสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
ย่านบางขุนเทียน วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 แรม 5 ค่ำ เดือน 5 ณ มณฑลพิธีลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

14.09 น. พิธีบวงสรวงบูชาเทพเทวดา เทวดา ครู อาจารย์
โดยมี พระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์ ประกอบพิธีบวงสรวง
อัญเชิญเทพยดาทั่วท้องจักรวาล

14.49 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์
โดยมี สมเด็จพระวันรัต วันบวรนิเวศวิหาร ประธานสงฆ์ ทำพิธีจุดเทียนชัย
- พระราชาคณะ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์

15.09 น. พิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ทอง ชนวนโลหะ
- พระเกจิอาจารย์ และพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 99 รูป นั่งปรก
- พระราชาคณะ นำสวดพุทธาภิเษก
- พระเทพภาวนาภิกรม วัดไตรมิตรวิทยาราม ทำพิธีดับเทียนชัย
-------------------------------

ภายในงาน - เชิญชวนประชาชนร่วมสวมชุดขาวเข้าร่วมพิธี
- เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาเช่าแผ่นทองจารึกชื่อ ในราคา 99 บาท หรือ ทองก้อนราคา 999 บาท เพื่อใช้ในการจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช ขนาดฐานกว้าง 61 นิ้ว หน้าตักกว้าง 39 บาท สูง 2.5 เมตร ประดิษฐาน ณ โรงพยาบาลแห่งใหม่

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

รับสมัครอาสาสมัครทำงานด้านการเมือง

รับสมัครอาสาสมัครทำงานด้านการเมือง
- เพศ – ชาย หรือ หญิง ไม่จำกัดความรู้
- มีใจรักงานทางด้านการเมือง (พรรคประชาธิปัตย์) / มีจิตสาธารณะในการช่วยเหลือคน
- สามารถใช้ Computer / Internet / Face book ได้เป็นอย่างดี
- สามารถถ่ายภาพได้
- สามารถขับรถยนตร์ / ขับมอร์เตอร์ไซด์ และมีใบขับขี่
- สามารถทำงานวันหยุด / วันหยุดนักขัตฤกษ์ และสามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ คุณต่าย ผู้ช่วยส.ก. 081-855-5519 หรือส่ง Resume มาที่ vudgroup@gmail.com

กำหนดการ กทม. 21 เม.ย.54

9.00 น. รผว.พรเทพ ประธานพิธีเปิดสัมมนา การเกิดแผ่นดินไหว แนวทางการป้องกันและการตรวจสอบอาคาร
หลังแผ่นดินไหว ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 4 อาคารวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซ.รามคำแหง 39
09.00 น. รผว.ทยา ประชุมคณะทำงานโครงการเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประจำ กทม. ครั้งที่ 3 ณ ห้องสุทัศน์ กทม.
09.00 น. รป.ทวีศักดิ์ ประธานประชุมจุดการค้าเสน่ห์ของเมือง ณ ห้องสุทัศน์ กทม.
14.00 น. รผว.พรเทพ ประชุมติดตามงานสำนักการระบายน้ำ ณ ห้องสุทัศน์ กทม.

สภากทม.เร่งฝ่ายบริหารกทม.ประสานหน่วยงานสร้างพื้นที่สีเขียว

สภากทม.เร่งฝ่ายบริหารกทม.ประสานหน่วยงานสร้างพื้นที่สีเขียว
ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร (20 เม.ย.54) :นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปีพุทธศักราช 2554 ซึ่งมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ทั้งนี้ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้มีมติเห็นชอบญัตติของนายสุไหง แสวงสุข สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตทวีวัฒนา เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอใช้พื้นที่จัดสร้างสวนสาธารณะ เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนสาธารณะหลักคือมีพื้นที่ตั้งแต่ ๑๐ ไร่ขึ้นไปจำนวน ๒๗ แห่ง มีสวนสาธารณะประเภทต่างๆ เช่น สวนหย่อม สวนป่า สวนชุมชน สวนในหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และมีพื้นที่อื่นๆ ที่มีการตกแต่งภูมิทัศน์ของเมือง เช่น ที่ว่างริมทาง เกาะกลาง ทางเท้า ที่ว่างริมคลอง รวมมีพื้นที่สีเขียวจำนวนทั้งสิ้น 14,719.202 ไร่ (23,550,723.48 ตารางเมตร) ต่อจำนวนประชากรของกรุงเทพมหานครในปี 2553 จำนวน 5,702,595 คน คิดเป็นสัดส่วน 4.13 ตารางเมตรต่อคน และเนื่องจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีนโยบายการเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยใน 4 ปี (พ.ศ. 2552-2555) มีเป้าหมายที่จะให้มีพื้นที่สีเขียวจำนวน 5,000 ไร่ หรือเฉลี่ยปีละ 1,250 ไร่ ทั้งนี้ในปี 2554 มีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้ได้ในอัตราส่วนต่อประชากรเท่ากับ 4.21 ตารางเมตรต่อคน ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงขอให้กรุงเทพมหานครเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอใช้พื้นที่จัดสร้างสวนสาธารณะ เช่น การทางพิเศษฯ กรมทางหลวง การรถไฟฯ กรมธนารักษ์ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีพื้นที่ว่างที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการจัดสร้างสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร การเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนแล้ว ยังเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนได้โดยตรงด้วย สำหรับญัตติฯดังกล่าว สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยเสนอแนะให้ฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานคร ดำเนินการสำรวจพื้นที่ว่างของหน่วยงานต่างๆ รอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว เพิ่มปอดให้กับประชาชน กทม. นอกจากนี้ยังมีที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ที่มีข้อกฎหมายเปิดให้กรุงเทพมหานคร เข้าไปขอใช้ในกิจการสาธารณะ โดยไม่ต้องผ่านการประมูล เพียงแต่ต้องไปทำข้อตกลงกับกรมธนารักษ์ เพื่อขอใช้พื้นที่ จะทำให้กทม.ประหยัดเงินงบประมาณและ มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นอีกมาก ด้านนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเพิ่มพื้นที่สีเขียวนั้นเป็นนโยบายของ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อยู่แล้วที่จะเพิ่ม 5 พันไร่ ตลอดวาระที่ดำรงตำแหน่ง เฉลี่ยแล้วกทม.จะสามารถเพิ่มได้ปีละ 1,250 ไร่ ซึ่งการจัดหาพื้นที่จัดสร้างสวนสาธารณะนั้น ก็ได้หลายหน่วยงานช่วยจัดหา เช่น สำนักงานเขต สำนักงานทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ เอกชนบริจาค วัด โรงเรียน ซึ่งขณะนี้กทม.ติดต่อขอเช่าที่ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ พื้นที่ของกรมทางหลวง การเคหะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย แต่กรุงเทพมหานคร ไม่ได้ทำเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งจะมีประชาชน รัฐบาลช่วยในการผลักดันให้กรุงเทพมหานคร นำพื้นที่ว่างมาทำสวนสาธารณะ อาทิ ที่ดินของ อสมท. กองทุนฟื้นฟู 33 ไร่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสวนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวม 900 ไร่ อาทิ พื้นที่ใต้ทางด่วนซอยวัชรพล เขตบางกอกน้อย และซอยลาดพร้าว 71 เป็นต้น

กทม. เปิดรับสมัครงานหลายอัตรา

กทม. เปิดรับสมัครงานหลายอัตรา
นายมนัส ปสาทรัตน์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กทม. แจ้งว่า หน่วยงานของกรุงเทพมหานครเปิดรับสมัครงานหลายอัตรา ดังนี้
เขตราษฎร์บูรณะ รับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา และตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ (เก็บขนมูลฝอย) จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่ ฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 26 เม.ย. 54 ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร. 0 2428 4884 ต่อ 6807-8
เขตสวนหลวง รับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นครูสอนภาษาสเปนนักเรียนโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเชตสวนหลวง จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองที่ ฝ่ายการศึกษา ชั้น 5 สำนักงานเขตสวนหลวง ตั้งแต่บัดนี้ถึง 26 เม.ย. 54 สอบถามโทร. 0 2322 4672 ต่อ 7077,7079

สภากทม. ตั้ง คกก.วิสามัญกำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาโรงเรียนสังกัดกทม.

สภากทม. ตั้ง คกก.วิสามัญกำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาโรงเรียนสังกัดกทม.
สภากทม. ติงผู้บริหารควรปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานขององค์กรยังไม่สามารถอำนวยการให้การบริหารการศึกษาในโรงเรียนบรรลุได้ตามเป้าหมาย พร้อมตั้ง คกก. กำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
(20 เม.ย. 54) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปีพุทธศักราช 2554 โดยมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม.
นายพิรกร วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตจอมทอง ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครกำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการจัดการศึกษาในปัจจุบันมีข้อที่สมควรปรับปรุงหลายประการ เช่น การจัดระบบโครงสร้างการบริหารงานขององค์กรยังไม่สามารถอำนวยการให้การบริหารการศึกษาในโรงเรียนบรรลุได้ตามเป้าหมาย การบริหารงานบุคคลยังไม่สามารถเพิ่มขวัญกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ รวมทั้งด้านการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษายังไม่สามารถที่จะส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครควรเพิ่มประสิทธิภาพและให้ความสำคัญเพื่อให้การศึกษาของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครมีคุณภาพได้มาตรฐานยิ่งขึ้น รวมทั้งบรรลุความมุ่งหมายและหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 รวมทั้งผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ควรกำหนดมาตรการในการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดให้ชัดเจน เพื่อสามารถขับเคลื่อนตรงตามนโยบายที่วางไว้
ในที่ประชุม สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมกันอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงการบริหารงานที่ขาดประสิทธิภาพและยังขาดแนวทางที่ชัดเจน ทั้งนี้ผู้บริหารควรเร่งดำเนินการตามนโยบาย รวมทั้งพิจารณาเพิ่มขวัญกำลังใจให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้รับประโยชน์มากที่สุดอีกด้วย
ด้าน นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้บริหารให้ความสำคัญด้านการศึกษามาโดยตลอด รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณด้านเทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้เด็กนักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครอีกด้วย ทั้งนี้กรุงเทพมหานครมีแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาเพื่อให้ตรงตามนโยบายซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารงานต่อไป
ทั้งนี้ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญกำหนดมาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งหมด 11 คน โดยไม่กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณา

สสล. รับสมัครสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล คัดเลือกประกวดระดับประเทศ

สสล. รับสมัครสิ่งประดิษฐ์จากขยะรีไซเคิล คัดเลือกประกวดระดับประเทศ
นายบรรจง สุขดี รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัด “โครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2554” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ด้วยการนำวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงให้เกิดประโยชน์ใหม่ แบ่งการประกวดออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. ประเภทสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ 2. ประเภทเครื่องแต่งกายจากวัสดุเหลือใช้ และ 3 ประเภทของใช้ส่วนตัวจากวัสดุเหลือใช้
ผู้สนใจสามารถส่งใบสมัครพร้อมส่งผลงานเข้าประกวด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มงานส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กองนโยบายและแผนงาน สำนักสิ่งแวดล้อม ชั้น 3 ศาลาว่าการกทม.2 (ดินแดง) ถ.มิตรไมตรี เขตดินแดง 10400 โทร. 0 2245 8859 โทรสาร 0 2245 8432 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซด์ www.bangkok.go.th (เข้าหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร คลิกเลือกสำนักสิ่งแวดล้อม) หรือเว็บไซต์ www.deqp.go.th ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 29 ก.ค. 54 ในวันและเวลาราชการ โดยผลงานที่ผ่านการคัดเลือกระดับละ 3 ผลงาน ตามประเภทและกลุ่มเป้าหมายในระดับกรุงเทพมหานคร จะถูกส่งเข้าประกวดในระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในเดือน ก.ย. 54 ต่อไป

กทม. ติวเข้มนักผจญเพลิง เพิ่มทักษะในการกู้ภัย

กทม. ติวเข้มนักผจญเพลิง เพิ่มทักษะในการกู้ภัย
(20 เม.ย. 54) นายพูลพันธ์ ไกรเสริม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน รุ่นที่ 9 โดยมีนายยุทธศักดิ์ ร่มฉัตรทอง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และข้าราชการ ลูกจ้างในสังกัดสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 97 คน ร่วมพิธี ณ ห้องปรินซ์ 2 ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์ พาเลซ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
สำหรับหลักสูตรการฝึกอบรม ประกอบด้วย ภาคทฤษฎี ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานในวิชาชีพ หลักในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิธีการและขั้นตอนในการเข้าผจญเพลิง การป้องกันและระงับอัคคีภัยในสถานที่ต่างๆ หลักในการกู้ภัย รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร การฝึกภาคปฏิบัติ เป็นการนำความรู้ที่ได้รับไปฝึกปฏิบัติจำลองสถานการณ์ประกอบการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ในการเผชิญเหตุเพื่อเกิดทักษะ ความชำนาญ สามารถใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการฝึกสมรรถภาพร่างกายและระเบียบวินัย เพื่อร่างกายมีความแข็งแรง พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้เต็มกำลังความสามารถ โดยกำหนดการฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 20 เม.ย. – 13 ก.ค. 54 เป็นการฝึกอบรมแบบพักค้างตลอดหลักสูตร รวม 12 สัปดาห์ ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ศูนย์ฝึกอบรม สถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร (หนองจอก) และศูนย์ฝึกอบรม อาฟเฟอร์ อ.ชะอำ จ. เพชรบุรี
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานกู้ภัย เพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ พัฒนาเทคนิคต่างๆ ในการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ในการดับเพลิงและกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมในการรองรับความเสี่ยงของภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น

เปิดเวที Bangkok Music Award ปีที่ 7 สานฝันนักร้องนักดนตรีมืออาชีพ

เปิดเวที Bangkok Music Award ปีที่ 7 สานฝันนักร้องนักดนตรีมืออาชีพ
กทม. เดินหน้ากิจกรรมส่งเสริมความสามารถเยาวชนด้านดนตรีต่อเนื่อง จัดประกวดร้องเพลงประเภทเดี่ยวและวง ชิงเงินรางวัลรวม 300,000 บาท สนใจส่ง Demo สมัครตั้งแต่บัดนี้ถึง 18 พ.ค. 54
(20 เม.ย. 54) นางทยา ทีปสุววรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมประกวดดนตรีและการประกวดร้องเพลงเยาวชน กรุงเทพมหานคร (Bangkok Music Award) ภายใต้โครงการมหานครแห่งดนตรี โดยมี ดร.วินัย พันธุรักษ์ นายกสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถด้านดนตรี มีเวทีในการแสดงความสามารถเพิ่มขึ้น และเป็นการส่งเสริมเยาวชนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด และอบายมุขต่างๆ
นางทยา กล่าวว่า การประกวดดนตรีและการประกวดร้องเพลงเยาวชนกรุงเทพมหานคร ถือเป็นกิจกรรมและนโยบายหลัก ที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 แล้ว มุ่งสนับสนุนและสร้างเสริมให้เยาวชนมีพัฒนาการทางอารมณ์ และสังคมที่ดี เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถที่เป็นแบบอย่างที่ดี รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสในการก้าวสู่การเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในอนาคตด้วย ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจสมัครร่วมกิจกรรมประเภทเดี่ยว 840 คน และประเภทวงดนตรี 482 วง
สำหรับการประกวดแบ่งเป็น ประเภทชาย–หญิง อายุ 12–15 ปี ได้แก่ เพลงไทยสากล หรือ สากล และเพลงไทยลูกทุ่ง รางวัลที่ 1 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 25,000 บาท รางวัลที่ 2 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 20,000 บาท รางวัลที่ 3 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 15,000 บาท ชมเชย 2 รางวัล รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 5,000 บาท ประเภทวงดนตรีแนวสตริง หรือร่วมสมัย อายุไม่เกิน 25 ปี สมาชิกวงละ 4–8 คน รางวัลที่ 1 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 100,000 บาท รางวัลที่ 2 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 50,000 บาท รางวัลที่ 3 รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 30,000 บาท ชมเชย 2 รางวัล รับถ้วยรางวัลพร้อมเงิน 20,000 บาท ผู้สนใจสมัครส่ง Demo ทางไปรษณีย์ที่ ตู้ ปณ. 188 จตุจักร กทม. 10900 วงเล็บมุมซอง “ประกวดดนตรีหรือร้องเพลง” ตั้งแต่แต่บัดนี้ถึงวันที่ 18 พ.ค. 54 สอบถามเพิ่มเติมที่กองการประกวด Bangkok Music Award สายด่วน 08 6377 9804–5 หรือดูรายละเอียดทาง www.bangkokmusicaward.com

เปิด สน.ยุติธรรม นำร่องที่ตลิ่งชัน กทม.

เปิด สน.ยุติธรรม นำร่องที่ตลิ่งชัน กทม.
(20 เม.ย. 54) เวลา 08.00 น. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิด สน.ยุติธรรม ระยะที่ 1 นำร่อง ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างแนวร่วมกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแสข้อมูลการกระทำความผิด ลดปัญหาอาชญากรรม โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม หัวหน้าส่วนราชการ และอาสาสมัครพิทักษ์ยุติธรรม ร่วมงาน ณ สน.ยุติธรรม ตลิ่งชัน (ตลาดน้ำคลองลัดมะยม) เขตตลิ่งชัน
กระทรวงยุติธรรมจัดโครงการ สน.ยุติธรรม และอาสาสมัครพิทักษ์ยุติธรรม เพื่อสร้างแนวร่วมกับภาคประชาชนในการเฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแสข้อมูลการกระทำความผิด รวมทั้งเป็นช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้โดยสะดวก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง การดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทยของรัฐบาลในยุทธศาสตร์ด้านการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การเมือง และความไม่เท่าเทียมในสังคม โดยมีเป้าหมายการจัดตั้งและเปิดดำเนินการในปีงบประมาณ 2554 จำนวน 20 แห่ง แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 เปิดดำเนินการนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ สน.ยุติธรรม ชุมชนตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน สน.ยุติธรรม ชุมชนสุคันธาราม เขตดุสิต สน.ยุติธรรม ชุมชนอยู่เจริญ เขตดอนเมือง สน.ยุติธรรม ชุมชนดินแดง เขตดินแดง ระยะที่ 2 จะเปิดดำเนินการในเดือน พ.ค. 54 อีก 8 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดที่มีการจัดตั้ง สน.ยุติธรรม แล้วและพร้อมดำเนินการ ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา สมุทรสงคราม ระยอง และสุราษฎร์ธานี ระยะที่ 3 จะเปิดดำเนินการอีก 8 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดที่อยู่ระหว่างการพิจารณาความพร้อม ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ตาก ชลบุรี เพชรบุรี ภูเก็ต พังงา และสงขลา หรือพิจารณาดำเนินการในเขตกรุงเทพมหานครตามความเหมาะสมต่อไป

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสามัญประจำสภากรุงเทพมหานคร

บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการสามัญประจำสภากรุงเทพมหานคร
การทำงานของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้แบ่งบทบาท
หน้าที่กันเป็นอย่างดีเพื่อตรวจสอบ ติดตามการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหาร ให้ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน อันเป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ทุกสำนัก ทุกหน่วยงาน ทุกสำนักงานเขต จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการสามัญประจำสภาขึ้น จำนวน 11 คณะ
1 .คณะกรรมการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย
มีหน้าที่กระทำกิจการ หรือพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาเรื่องใดๆ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งได้แก่เรื่องการปกครองและทะเบียน การป้องกันอุบัติภัย การรับและพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน

2.คณะกรรมการกิจการสภากรุงเทพมหานคร
มีหน้าที่ติดตามมติ ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตในเรื่องต่างๆที่สภากรุงเทพมหานครได้เห็นชอบและส่งให้ฝ่ายบริหารนำไปพิจารณาดำเนินการแล้วแต่ยังมิได้กำเนินการ ตลอดจนรับคำร้องเรียนและข้อเสนอแนะของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและสภาเขต

3.คณะกรรมการการท้องเที่ยวและการกีฬา
มีหน้าที่พิจารณาการทำงานด้านการท่องเที่ยวและกีฬาซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร และประสานงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว และสำนักงานเขตต่างๆ แล้วรายงานต่อสภากรุงเทพมหานคร

4.คณะกรรมการการจราจรขนส่งและระบายน้ำ
มีหน้าที่ศึกษา พิจารณามาตรการดำเนินงานด้านการจราจรการขนส่งและการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครติดตามตรวจสอบ ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินโครงการต่างๆของสำนักการจราจรและขนส่ง เช่น การก่อสร้างถนน ทางลอด ทางข้าม สะพานลอยรถข้าม ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานของสำนักการระบายน้ำเพื่อป้องกันแก้ไขน้ำท่วม

5.คณะกรรมการการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม
มีหน้าที่พิจารณาการศึกษาและให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหา และข้อขัดข้องต่างๆ ในการดำเนินการขอหน่วยงานแล้วรายงานต่อสภากรุงเทพมหานคร

6.คณะกรรมการเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และติดตามงบประมาณ
มีหน้าที่กระทำกิจการ หรือพิจารณาสอบสวนหรือศึกษาเรื่องใดๆ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ในด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การงบประมาณ การจัดเก็บรายได้การพัฒนาที่ดิน การพาณิชย์ของกรุงเทพมหานคร การพัฒนากิจการการคตลาดและสวัสดิการสังคมชของข้าราชการและลูกจ้างของกรุงเทพมหานคร

7.คณะกรรมการการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม
มีหน้าที่พิจารณาการศึกษาและให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสะอาดและสิ่งแวดล้อม ในเรื่องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวกับการจัดการขยะ และสิ่งปฏิกูล การจัดกาสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์พลังงาน

8.คณะกรรมการสาธารณสุข
มีหน้าที่พิจารณาและศึกษาด้านการสาธารณสุข ซึ่งประกอบ ด้วยงานสุขาภิบาลอาหาร การควบคุมโรค และส่งเสริมสุขภาพ การรักษาพยาบาล และระบบสาธารณสุข รวมทั้งให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ต่อฝ่ายบริหาร แล้วรายงานต่อสภากรุงเทพมหานคร

9.คณะกรรมการการโยธาและผังเมือง
มีหน้าที่พิจารณาศึกษา ติดตาม ตรวจสอบ และให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในส่วนที่เกี่ยวกับงานโยธาและการจัดทำผังเมือง ในเขตกรุงเทพมหานครรวมทั้งศึกษาปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชน เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป

10.คณะกรรมการการศึกษาและวัฒนธรรม
มีหน้าที่พิจารณาศึกษาด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน รวมทั้งข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหารในการส่งเสริมการบริหารงานด้านการศึกษาของโรงเรียนในการสังกัดกรุงเทพมหานคร ตลอดจนงานด้านวัฒนธรรม

11.คณะกรรมการการตรวจรายงานการประชุมและพิจารณาเปิดเผยรายงานการประชุมลับ
มีหน้าที่พิจารณาตรวจรายงานการประชุมของสภากรุงเทพมหานคร ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการได้จัดทำขึ้นใหเป็นไปตามข้อเท็จจริงในการประชุมและถูกต้องตามหลักภาษา ตลอดจนวางมาตรฐานในการจดรายงานการประชุมแก่เจ้าหน้าที่ เพื่อให้ถือปฏิบัติอย่างถูกต้องต่อไป

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ประธานสภากทม.เปิดโครงการฝึกอบรมคัดเลือกเยาวชนแลกเปลี่ยนคุนหมิง

ประธานสภากทม.เปิดโครงการฝึกอบรมคัดเลือกเยาวชนแลกเปลี่ยนคุนหมิง
(19 เม.ย. 54) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมเอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด : นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง โดยมี นายอรรถพร สุวัธนเดชา ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา หัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ ศึกษานิเทศก์ ผู้ปกครอง ครู นักเรียน และผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีเปิด
ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง เป็นโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง ที่สภากรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนและเยาวชนของประเทศต่างๆ ที่ร่วมโครงการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเยาวชนกรุงเทพมหานครและเยาวชนของทั้งสองเมืองที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน อันจะเป็นประสบการณ์สำคัญที่จะได้รับและนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยส่งเสริมให้เยาวชน ได้ตะหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนเกิดความรัก หวงแหน ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้มั่นคง มีการสืบสานและเผยแพร่ได้เป็นอย่างดี
สำหรับโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง สำนักการศึกษาได้ดำเนินกิจกรรมมา 3 ระยะ โดย ระยะที่ 1 ได้ทำการคัดเลือกนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 คน จากผู้สมัครทั้งสิ้น 470 คน โดยการเขียนเรียงความและสัมภาษณ์ จากนั้นระยะที่ 2 ฝึกอบรมและคัดเลือกด้านทักษะภาษาจีนพร้อมการแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมไทย โดยทำการคัดเลือกไว้ จำนวน 40 คน และระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 19–22 เม.ย. 54 ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด เป็นการฝึกอบรมแบบพักค้าง เพื่อฝึกการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะในการเตรียมการแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมไทย และการศึกษาด้านภาษาจีนเบื้องต้น ตลอดจนพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกัน โดยทำการคัดเลือกไว้ จำนวน 20 คน เพื่อเป็นผู้แทนเยาวชนเดินทางไปแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9–18 ก.ค. 54 นี้

กทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่งมอบให้ผู้ร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่

กทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่งมอบให้ผู้ร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
เชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ย่านบางขุนเทียน โดยกทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง มอบให้แก่ผู้บริจาค ฤกษ์ดีวันเสาร์ 5 เดือน 5 วันที่ 23 เม.ย. นี้ ร่วมสลักชื่อลงแผ่นทองในพิธีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมบวงสรวงบูชาฤกษ์ และพุทธาภิเษกมวลสาร โดยมีพระเกจิอาจารย์และพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ร่วมพิธี
(19 เม.ย. 54 ) ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยในการแถลงข่าว “การจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม.” ว่า สืบเนื่องจากผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคที่ดินจำนวน 34 ไร่ ให้กรุงเทพมหานครเพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ในเขตบางขุนเทียน โดยกรุงเทพมหานครมีนโยบายสร้างเป็นโรงพยาบาลศูนย์รักษาโรคทั่วไปขนาด 200 เตียง และศูนย์เวชศาสตร์ด้านผู้สูงอายุครบวงจร อีก 100 เตียง มีเป้าหมายที่เปิดให้บริการ ปี 2555 ซึ่งคาดว่าต้องใช้วงเงินในการก่อสร้างประมาณ 2,200 ล้านบาท ดังนั้นกรุงเทพมหานครร่วมกับมูลนิธิกรุงเทพมหานคร 2552 จึงเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมโครงการจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. โดยมอบพระ ที่จัดสร้างขึ้นให้แก่ผู้บริจาคเพื่อความเป็นสิริมงคล

สมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานนาม “พระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช”
ในโครงการดังกล่าวได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับเป็นประธานที่ปรึกษาโครงการฯ พร้อมทั้งได้ประทานนามพระพุทธรูปที่จัดสร้างขึ้นว่า “พระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช” ซึ่งมีความหมายถึง พระพุทธเจ้าผู้ทรงรุ่งเรืองในการช่วยเหลือประชากรด้วยธรรมโอสถ เป็นพระที่จัดสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐาน ณ โรงพยาบาลแห่งใหม่ โดยมีสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) รับเป็นประธานดำเนินโครงการฯ และกรุงเทพมหานครได้กำหนดพิธีการไว้ 3 วาระ ให้เกิดความเป็นสิริมงคล เพื่อความศักดิ์สิทธิ์และถูกต้องตามตำราแต่โบราณที่ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ (พิธีพราหมณ์) พร้อมทั้งพิธีพุทธาภิเษกมวลสาร ทองชนวนโลหะ เพื่อนำไปจัดสร้างวัตถุมงคล โดยกำหนดไว้ด้วยฤกษ์เสาร์ 5 เดือน 5 ซึ่งตรงกับ วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) พิธีเททอง พุทธาภิเษก มวลสารพระเนื้อผง และจารแผ่นพระยันต์ กำหนดพิธีไว้ช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม 2554 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ พิธีมหาพุทธาภิเษก กำหนดพิธีไว้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2554 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะแจ้งกำหนดเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาประสงค์จะบริจาคเงินสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลได้จองสิทธิ์ในการรับพระให้ทราบในโอกาสต่อไป

เชิญร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์พุทธาภิเษกมวลสารใน “วันเสาร์ห้า” 23 เม.ย. นี้
สำหรับมวลสารที่นำมาจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. นั้น กรุงเทพมหานครได้รับความเมตตายิ่งจากพระเกจิอาจารย์ และคณะสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ทั่วประเทศ จังหวัดละ 9 รูป รวม 685 รูป มอบมาร่วมจัดสร้างเพื่อให้บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์และมีมหิทธานุภาพ นอกจากนี้ยังได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต มาร่วมในการจัดสร้างด้วย
ทังนี้ การประกอบพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ (พิธีพราหมณ์) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 เวลา 14.09 น. และพิธีพุทธาภิเษก มวลสาร ทองชนวนโลหะ พระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. เวลา 15.09 น. นั้น ในวันดังกล่าวตรงกับ “วันเสาร์ห้า เดือนห้า” ซึ่งถือเป็นวันแข็ง วันแรง ดีเลิศในด้านการทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่เป็นสิริมงคลเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัยมงคลให้ พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณะศักดิ์ ประกอบด้วย สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดเทพศิรินทราวาส พระพรหมเวที วัดไตรมิตรวิทยาราม พระพรหมเมธาจารย์ วัดบุรณศิริมาตยาราม พระสาสนโสภณ วัดโสมนัสวิหาร พระธรรมกวี วัดราชาธิวาส พระธรรมสิทธินายก วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระธรรมคุณภรณ์ วัดปทุมคงคา พระเทพคุณภรณ์ วัดเทวราชกุญชร และพระราชวิจิตรปฏิภาณ วัดสุทัศนเทพวราราม ร่วมสวดพระพุทธมนต์ และมีพระราชาคณะจากวัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ ประกอบด้วย พระสิริชัยโสภณ พระครูสรวุฒิพิศิษฎ์ พระครูปลัดเนียม และพระครูธรรมธรจรัล ร่วมสวดพุทธาภิเษก นอกจากนี้ในพิธีจะเปิดให้ประชาชนเช่าแผ่นทองบูชาจารึกชื่อเพื่อเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในราคาแผ่นละ 99 บาท ซึ่งจะนำไปจัดสร้างพระพุทธรูปประจำโรงพยาบาลบางขุนเทียน ขนาดฐานกว้าง 61 นิ้ว หน้าตักกว้าง 39 นิ้ว สูง 2.5 เมตร
กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้เข้าร่วมพิธีได้ในวันดังกล่าว เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะนำไปประกอบพิธีเททอง และพิธีมหาพุทธาภิเษกในโอกาสต่อไป สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2221 2141-69 ต่อ 1490-2

กทม. ผนึกกำลังสร้างแนวทางแก้ปัญหาเอดส์ในพื้นที่

กทม. ผนึกกำลังสร้างแนวทางแก้ปัญหาเอดส์ในพื้นที่
(19 เม. ย. 54) นพ.พีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมระดมสมองภาคีเครือข่ายเพื่อจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์กรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2555–2559) ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อวางกรอบแนวทางการดำเนินงานด้านเอดส์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงเป็นนโยบายปฏิบัติให้สอดคล้องกับแผนบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552–2555 และแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2555–2559 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์แบบบูรณาการและยั่งยืน ลดจำนวนผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กรุงเทพมหานครได้ดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมา โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรชุมชน ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ แต่ปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อเอดส์ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเด็กและเยาวชนถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากที่สุดจากพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรและไม่ป้องกัน อีกทั้ง กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย เป็นกลุ่มที่มีความชุกในการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดเชื้อเอดส์ตามกระบวนการที่เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพและวิถีชีวิต การป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สังคมให้การยอมรับ ให้โอกาส ไม่รังเกียจผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ สำหรับรายละเอียดและข้อมูลที่ได้จากการระดมความคิดของตัวแทนสหสาขาวิชาชีพในวันนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการกรุงเทพมหานครว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ จากนั้นจัดพิมพ์เผยแพร่ให้หน่วยงานในพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้เป็นแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ต่อไป

ปลัดกทม. รับมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

ปลัดกทม. รับมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
(19 เม.ย. 54) เวลา 13.30 น. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานรับมอบสิ่งของบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ จากสำนักงานเขตวัฒนาและบริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด รวมมูลค่า 109,814.86 บาท ประกอบด้วย สยามน้ำดื่มบรรจุขวด 599 มล. จำนวน 6,950 ขวด มูลค่า 26,747 บาท นมถั่วเหลืองแลคตาซอย จำนวน 770 กล่อง มูลค่า 20,539.83 บาท ข้าวขาว 100% จำนวน 210 ถุง มูลค่า 21,000 บาท มาม่ารสซุปไก่ 55 กรัม จำนวน 360 ห่อ มูลค่า 15,228.03 บาท ปลากระป๋อง super C chef จำนวน 2,000 กระป๋อง มูลค่า 26,300 บาท รวมทั้งเสื้อผ้า ของเด็กเล่น และของใช้ โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายบัณฑิต วินิจฉัยกุล ผู้อำนวยการเขตวัฒนา นางสาวโสพิศ ภูสนาคม ผู้บริหารบริษัท วิลล่า มาร์เก็ท เจพี จำกัด ร่วมงาน ณ ศูนย์อำนวยการรับบริจาคฯ หน้าลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจะทำการรวบรวมและส่งมอบสิ่งของบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ต่อไป

กทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่งมอบให้ผู้ร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่

กทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่งมอบให้ผู้ร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
เชิญชวนประชาชนร่วมสมทบทุนบริจาคสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ย่านบางขุนเทียน โดยกทม. จัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง มอบให้แก่ผู้บริจาค ฤกษ์ดีวันเสาร์ 5 เดือน 5 วันที่ 23 เม.ย. นี้ ร่วมสลักชื่อลงแผ่นทองในพิธีศักดิ์สิทธิ์ พร้อมบวงสรวงบูชาฤกษ์ และพุทธาภิเษกมวลสาร โดยมีพระเกจิอาจารย์และพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ร่วมพิธี
(19 เม.ย. 54 ) ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยในการแถลงข่าว “การจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม.” ว่า สืบเนื่องจากผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคที่ดินจำนวน 34 ไร่ ให้กรุงเทพมหานครเพื่อจัดสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ในเขตบางขุนเทียน โดยกรุงเทพมหานครมีนโยบายสร้างเป็นโรงพยาบาลศูนย์รักษาโรคทั่วไปขนาด 200 เตียง และศูนย์เวชศาสตร์ด้านผู้สูงอายุครบวงจร อีก 100 เตียง มีเป้าหมายที่เปิดให้บริการ ปี 2555 ซึ่งคาดว่าต้องใช้วงเงินในการก่อสร้างประมาณ 2,200 ล้านบาท ดังนั้นกรุงเทพมหานครร่วมกับมูลนิธิกรุงเทพมหานคร 2552 จึงเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมโครงการจัดสร้างพระพุทธพรรณีศรีธรรมไภสัช และพระกริ่ง กทม. โดยมอบพระ ที่จัดสร้างขึ้นให้แก่ผู้บริจาคเพื่อความเป็นสิริมงคล

ประธานสภากทม.เปิดโครงการฝึกอบรมคัดเลือกเยาวชนแลกเปลี่ยน

ประธานสภากทม.เปิดโครงการฝึกอบรมคัดเลือกเยาวชนแลกเปลี่ยน



( 19 เม.ย.54) เวลา 09.30 น. ที่ โรงแรมเอส ดี อเวนิว เขตบางพลัด : นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมโครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง โดยมี นายอรรถพร สุวัธนเดชา ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา หัวหน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ ศึกษานิเทศก์ ผู้ปกครอง ครู นักเรียน และผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีเปิด

ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง เป็นโครงการที่สนับสนุนกิจกรรมของโครงการสภาบ้านพี่เมืองน้อง ที่สภากรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประชาชนและเยาวชนของประเทศต่างๆ ที่ร่วมโครงการการแลกเปลี่ยนด้านศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวเมือง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเยาวชนกรุงเทพมหานครและเยาวชนของทั้งสองเมืองที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน อันจะเป็นประสบการณ์สำคัญที่จะได้รับและนำไปใช้ประโยชน์ ช่วยส่งเสริมให้เยาวชน ได้ตะหนักถึงความสำคัญในการปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนเกิดความรัก หวงแหน ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้มั่นคง มีการสืบสานและเผยแพร่ได้เป็นอย่างดี

สำหรับ โครงการแลกเปลี่ยนเยาวชนกรุงเทพมหานครและนครคุนหมิง สำนักการศึกษาได้ดำเนินกิจกรรมมา 3 ระยะ โดย ระยะที่ 1 ได้ทำการคัดเลือกนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 คน จากผู้สมัครทั้งสิ้น 470 คน โดยการเขียนเรียงความและสัมภาษณ์ จากนั้นระยะที่ 2 ฝึกอบรมและคัดเลือกด้านทักษะภาษาจีนพร้อมการแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมไทย โดยทำการคัดเลือกไว้ จำนวน 40 คน และ ระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 19 – 22 เมษายน 54 ณ โรงแรมเอสดี อเวนิว เขตบางพลัด เป็นการฝึกอบรมแบบพักค้าง และคัดเลือกด้านการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะในการเตรียมการแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรมไทย และการศึกษาด้านภาษาจีนเบื้องต้น ตลอดจนพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมกัน โดยทำการคัดเลือกไว้ จำนวน 20 คน เพื่อเป็นผู้แทนเยาวชนเดินทางไปแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9 – 18 กรกฎาคม 54 นี้

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

สปภ. จัดโครงการฝึกอบรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน รุ่นที่ 9

สปภ. จัดโครงการฝึกอบรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน รุ่นที่ 9
นาย ยุทธศักดิ์ ร่มฉัตรทอง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เปิดเผยว่า สำนักป้องกันฯ ได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน รุ่นที่ 9 ให้กับข้าราชการที่บรรจุใหม่ และลูกจ้างในสังกัด จำนวน 97 คน เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและสามารถเผชิญเหตุการกู้ภัยในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทั้งผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย โดยโครงการจะเริ่มอบรมตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. – 13 ก.ค. 54 เป็นการฝึกอบรมแบบพักค้างตลอดหลักสูตร รวม 12 สัปดาห์ ณ กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ค่ายนเรศวร) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ฝึกอบรมสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร (หนองจอก) ศูนย์ฝึกอบรมอาฟเฟอร์ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร

The power and duties of Bangkok Metropolitan Council members.

The power and duties of Bangkok Metropolitan Council members.

The power and duties of Bangkok Metropolitan Council members are, in brief, as follow:
1. Power to propose or endorse directives to be enforced as laws of Bangkok.
2. Power to consider the endorsing draft of annual budget expenses and additional expense budgets.
3. Power in approving or endorsing affairs that are required by law to be endorsed by or reported to the council. These include paid service provision to the private sector, state agencies, state enterprises or local state bodies, conducts outside the Bangkok area, joint conducts with other individuals by means of company establishment or holding of shares in a company, and reporting the reception of the fiscal year that has been inspected by the Office of the Auditor General.
4. Power in approving directives of the Bangkok Metropolitan Administration.
5. Power to decide for dismissal of a council member due to commitment of actions against the integrity of the position.
6. Collaborate with the administrative branch in resolving problems of the public.
7. Power to regulate the workings of the administrative branch. The council may implement this power with four measures, including:
7.1 Pose questions to the governor of Bangkok on issues related to work under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration.
7.2 Propose motion to have the Bangkok Metropolitan Administration conduct an action under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration.
7.3 A general debate may be opened by having no less than 2 in 5 of all council members voicing their intention to propose a motion for a general debate, to have the Bangkok governor explain facts on matters or express his views on problems related to the administration of Bangkok.
7.4 Power to be a member of a Bangkok Metropolitan Council committee. The task of following up and regulating the works of the administrative branch is considered and important role of council members. Bangkok Metropolitan Council committees have the power to engage in affairs concerning, investigations (on) or study matters concerning issues under the jurisdiction of the Bangkok Metropolitan Administration, and then reporting to the Bangkok Metropolitan Council.
The council’s committees are classified into two types; Standing committees and Ad Hoc committees.
The Standing committees are comprised of committee members selected from all members of the council. Each committee possesses at least 5 members but no more than 9 members.

อำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร

อำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร โดยสรุปมีดังนี้
1. อำนาจในการเสนอและการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ในการตราข้อบัญญัติเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายของกรุงเทพมหานคร
2. อำนาจในการพิจารณาให้ความเห็นชอบในร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี และงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
3. อำนาจในการอนุมัติและการพิจารณาให้ความเห็นชอบในกิจการที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องขอความเห็นชอบจากสภา หรือต้องรายงานให้สภาทราบ อันได้แก่ การให้บริการแก่เอกชน หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น โดยเรียกเก็บค่าบริการ การดำเนินกิจการนอกเขตกรุงเทพมหานคร การกระทำการร่วมกับบุคคลอื่นโดยก่อตั้งบริษัท หรือการถือหุ้นในบริษัท และรายงานการรับจ่ายเงินประจำปีงบประมาณที่สิ้นสุดลง เมื่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว
4. อำนาจในการอนุมัติ ในข้อกำหนดกรุงเทพมหานคร
5. อำนาจในการวินิจฉัยให้สมาชิกสภาฯ ออก เพราะเห็นว่าได้กระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตำแหน่ง
6. ร่วมกับฝ่ายบริหารในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
7. อำนาจในการควบคุมการบริหารงานของฝ่ายบริหาร ซึ่งมีวิธีควบคุมได้ 4 ประการด้วยกันคือ
7.1 การตั้งกระทู้ถามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในเรื่องใดๆ
อันเกี่ยวกับงานในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร
7.2 การเสนอญัตติเพื่อให้กรุงเทพมหานครดำเนินการอย่างใด
อย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร
7.3 การเปิดอภิปรายทั่วไป ซึ่งจะกระทำได้โดยสมาชิกสภาจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกสภาทั้งหมด เข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติขอให้เปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานครแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็นในปัญหาอันเกี่ยวกับการบริหารราชการกรุงเทพมหานครได้
7.4 การเป็นกรรมการสภา ซึ่งถือได้ว่าเป็นบทบาทอันสำคัญของสมาชิกสภาที่จะควบคุมติดตามผลการบริหารงานของฝ่ายบริหารได้เพราะคณะกรรมการของสภามีอำนาจกระทำกิจการ หรือพิจารณาสอบสวน หรือศึกษาเรื่องใดๆ อันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร แล้วรายงานต่อสภากรุงเทพมหานคร

The role of the Bangkok Metropolitan Council

The role of the Bangkok Metropolitan Council became more apparent with the release of the B.E. 2528 Act on regulations for administration of Bangkok, which requires that both the governor of Bangkok and members of the Bangkok Metropolitan Council are to be directly elected by the public. Both are given 4-year terms and their relationship is meant to foster the balance of power between on another. The Governor of Bangkok is elected by the citizens who have rights in Bangkok. The members of the Bangkok Metropolitan Council are chosen from the citizens who have the rights to the election in each elective ward. One councilor is allocated for approximately 100,000 citizens per one elective ward. Another elective ward will be added, if a number of no less than 50,000 citizens remains. Nowadays there are 61 councilors in the Bangkok Metropolitan Council.From 50 districts of the election, there are members of the Democrats 45 persons, Thai Party 15 persons and 1 independent person.

บทบาทของสภากรุงเทพมหานคร

บทบาทของสภากรุงเทพมหานครเริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นนับแต่มีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พุทธศักราช 2528 ซึ่งกำหนดให้ทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง มีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละ 4 ปี และมีความสัมพันธ์กันในลักษณะการถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะมาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครทั้งหมด ส่วนสมาชิกสภากรุงเทพมหานครมาจากการเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละเขตเลือกตั้ง โดยถือเกณฑ์ราษฎร 100,000 คนเป็นประมาณ ต่อเขตเลือกตั้งหนึ่งให้มีสมาชิกสภาได้หนึ่งคน เศษของ 100,000 ถ้าเกิน 50,000 ให้เพิ่มเขตเลือกตั้งนั้น ได้อีกหนึ่งเขตเลือกตั้ง ปัจจุบันมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครทั้งสิ้นรวม 61 คน จาก 50 เขตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 45 คน พรรคเพื่อไทย 15 และ อิสระ 1 คน

เร่งพิจารณา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. ให้ทันก่อนยุบสภา (แก้ไข)

เร่งพิจารณา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. ให้ทันก่อนยุบสภา
(18 เม.ย. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระและได้ผ่านการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา โดยวุฒิสภาได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... แต่ให้มีการแก้ไขในมาตรา 10 (3) ซึ่งป็นการแก้ไขในเรื่องของภาษาเพื่อให้สอดคล้องกับ มาตรา 36 (4) และให้แก้ไขมาตรา62 วรรค 2 จากร่างเดิมกรณีที่ผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.กรุงเทพมหานครให้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันนับแต่วันที่ทราบหรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยวุฒิสภาแก้ไขให้นำคดีไปฟ้องยังศาลปกครองชั้นต้นก่อนเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามลำดับชั้นของศาล ซึ่งจากการพิจารณาของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครเห็นว่าการแก้ไขในทั้งสองมาตรานั้นเป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยไม่ได้ทำให้สาระสำคัญของร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงไปกรุงเทพมหานครจึงได้เห็นชอบแก้ไขตามมติของวุฒิสภา พร้อมนี้ได้ร้องขอไปยัง ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ช่วยเร่งพิจารณาด้วย
ด้าน นายชนินทร์ รุ่งแสง ในฐานะตัวแทนวิปพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.กทม กล่าวว่า ผู้ว่าฯกทม. ได้มีการประสาน เร่งรัดการพิจารณากรณีดังกล่าวมาโดยตลอด เพื่อให้ข้าราชการกทม. ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมหน่วยงานราชการอื่น เช่น การได้เงินเดือนย้อนหลัง 2 ปี ระหว่างปี 2552-2553 และสิทธิต่างๆ

สภากทม.เปิดประชุมสมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 1 พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาในโรงเรียนกทม.

สภากทม.เปิดประชุมสมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 1 พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการศึกษาในโรงเรียนกทม.

(18 เม.ย. 54) นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร แจ้งว่า สภากรุงเทพมหานครจะเปิดประชุมสมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 1) ประจำปี พ.ศ. 2554 ในวันที่ 20 เม.ย. 54 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร โดยมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติของนายพิรกร วีรกุลสุนทร เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านบุคลากร สำนักงบประมาณกรุงเทพมหานคร อีกทั้งญัตติของนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ และคณะ เรื่อง ขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญติดตามเร่งรัดการออกระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการสนับสนุนกิจการอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน พ.ศ..... รวมทั้งญัตติของนายสุไหง แสวงสุข เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอใช้พื้นที่จัดสวนสาธารณะ และญัตติของนางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบันและทิศทางการพัฒนาเมือง

อย่างไรก็ตามอาจมีญัตติด่วนด้วยวาจาที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดตามความจำเป็นต่อไป

กทม. เตรียมจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาครั้งยิ่งใหญ่

กทม. เตรียมจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาครั้งยิ่งใหญ่

(18 เม.ย. 54) ณ ศาลาว่าการกทม. เวลา 11.00 น. นายวสันต์ มีวงศ์ รองโฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานครเตรียมแต่งตั้งคณะกรรมการงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ 2554 และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยจะเชิญพระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ (ฝ่ายสงฆ์) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน และได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายต่างๆ ประกอบด้วย ฝ่ายสถานที่ ฝ่ายงบประมาณและการเงิน ฝ่ายพิธีการ กิจกรรม และการแสดง ฝ่ายการแพทย์และพยาบาล ฝ่ายพิธีการทางศาสนา ฝ่ายจัดริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ ประชาสัมพันธ์และถ่ายทอดสด ฝ่ายต้อนรับและบริการ ฝ่ายจัดสาธิตและจำหน่ายสินค้าชุมชน ฝ่ายรักษาความปลอดภัยการจราจร ฝ่ายตกแต่งเมือง และฝ่ายนิทรรศการและจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก

สำหรับกรอบกิจกรรมในการจัดงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา จะเน้นการส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมพัฒนาด้านกายภาพ ตกแต่งเมือง และรักษาสิ่งแวดล้อม กิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ดนตรี กีฬา และนิทรรศการต่างๆ และกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ พระราชกรณียกิจ และการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ โดยกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 9-13 ส.ค. 54 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชและสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พิธีรักษาศีลปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ (สวดมนต์ข้ามคืน) พิธีอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล การมอบรางวัลแม่ดีเด่น พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 799 รูป พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนชัยถวายพระพร สำหรับพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 กรุงเทพมหานครกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค. 54 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

สงกรานต์ปีนี้ อุบัติเหตุจราจรลดลง

สงกรานต์ปีนี้ อุบัติเหตุจราจรลดลง

(18 เม.ย. 54) เวลา 13.00 น. : ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผย สถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ระหว่าง 2553-2554 ว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรทั่วประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 54 เกิดอุบัติเหตุ รวม 3,215 ครั้ง ลดลงจากปี 2553 (3,516 ครั้ง) 301 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 3,476 คน ลดลงจากปี 2553 (3,802 คน) 326 คน ผู้เสียชีวิตรวม 271 คน ลดลงจากปี 2553 (361 คน) 90 คน นับว่าการรณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2554 ของภาครัฐและเอกชนสามารถลดความสูญเสียลงได้เมื่อเทียบกับกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายลดการเกิดอุบัติเหตุรวม ไม่เกิน 3,000 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่เกิน 3,000 คน และผู้เสียชีวิต ไม่เกิน 200 คน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 สำหรับสถิติ การเกิดอุบัติเหตุจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. 54 เกิดอุบัติเหตุรวม 23 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 17 คน ผู้เสียชีวิตรวม 12 คน โดยภาพรวมถือว่าสถิติลดลงทุกปี ตั้งแต่ปี 2548-2554 ยกเว้นปี 2553 เนื่องจากมีเหตุการณ์ทางการเมืองจึงทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเขตกรุงเทพมหานครต่ำกว่าปี 2554

อนึ่ง การจัดเทศกาลสงกรานต์ในปี 2555 กรุงเทพมหานครจะจัดเทศกาลสงกรานต์บนถนนสีลมอย่างเป็นทางการโดยร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในพื้นที่ในการงดจำหน่ายสุราและของมึนเมาในช่วงเทศกาล

เร่งพิจารณา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. ให้ทันก่อนยุบสภา

เร่งพิจารณา พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. ให้ทันก่อนยุบสภา

(18 เม.ย. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร 3 วาระและได้ผ่านการประชุมวุฒิสภาเมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา โดยวุฒิสภาได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... แต่ให้มีการแก้ไขในมาตรา 10 (3) ซึ่งป็นการแก้ไขในเรื่องของภาษาเพื่อให้สอดคล้องกับ มาตรา 36 (4) และให้แก้ไขมาตรา 62 วรรค 2 จากร่างเดิมกรณีที่ผู้อุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.กรุงเทพมหานครให้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันนับแต่วันที่ทราบ หรือถือว่าทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยวุฒิสภาแก้ไขให้นำคดีไปฟ้องยังศาลปกครองชั้นต้นก่อนเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามลำดับชั้นของศาล ซึ่งจากการพิจารณาของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครเห็นว่าการแก้ไขในทั้งสองมาตรานั้น เป็นเพียงการแก้ไขเล็กน้อยไม่ได้ทำให้สาระสำคัญของร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงไปกรุงเทพมหานครจึงได้เห็นชอบแก้ไขตามมติของวุฒิสภา พร้อมนี้ได้ร้องขอไปยังวิปรัฐบาลขอเลื่อนการพิจารณาวาระดังกล่าวจากเดิมอยู่ในลำดับที่ 52 ขึ้นมาพิจารณาในช่วงเดือนต้นเดือนพฤษภาคมก่อนที่รัฐบาลจะประกาศยุบสภา ซึ่งทางวิปรัฐบาลได้มีการพิจารณาเลื่อนขึ้นมาและจะมีการเลือนวาระขึ้นมาพิจารณาในวันพุธนี้

ด้าน นายชนินทร์ รุ่งแสง ในฐานะตัวแทนวิปพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ส.กทม กล่าวว่า ผู้ว่าฯกทม. ได้มีการประสาน เร่งรัดการพิจารณากรณีดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งตนยังมีความกังวลในส่วนของการลงมติรับร่างฯ เนื่องจากเกรงว่า ส.ส. จะไม่ลงมติ เพื่อรับหลักการ โดยเฉพาะ ส.ส. ฝ่ายค้าน จึงตนขอให้ ส.ส. ทุกคน โดยเฉพาะ ส.ส.กทม. ร่วมทำหน้าที่ดังกล่าว เนื่องจากการลงมติจะทำให้ ส.ส.กทม. ได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมหน่วยงานราชการอื่น เช่น การได้เงินเดือนย้อนหลัง 2 ปี ระหว่างปี 2552-2553 และสิทธิต่างๆ อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการหวังผลทางการเมืองในช่วงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ แต่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับชาวกทม. ทุกคน

กทม. เชิดชูเกียรติแท็กซี่พลเมืองดี

กทม. เชิดชูเกียรติแท็กซี่พลเมืองดี

(18 เม.ย. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. จะจัดให้มีการมอบประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ นายอำนาจ พวงสูงเนิน แท็กซี่พลดีเมืองดีของสังคม อายุ 34 ปี มีภูมิลำเนา ตำบลศรีชมพู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นบุคคลตัวอย่างของคนทำความดีเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจนตนเองเสียชีวิต จากเหตุการณ์คนร้าย คือ นายธาดา อินทมาศ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงรถยนต์ของประชาชนจากอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และขับรถยนต์คันดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 เม.ย.54 อีกทั้งใช้มีดและปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ประจำป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกขัตติยานี ถ.สุโขทัย เสียชีวิต โดยนายอำนาจ พวงสูงเนิน อาชีพขับรถแท็กซี่ซึ่งคาดว่ารับทราบเหตุด่วนเหตุร้ายจากรายการวิทยุ ได้ขับรถขวางคนร้ายเพื่อไม่ให้หลบหนีจากการจับกุม แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ขณะเดียวกันภายหลังคนร้ายได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม

ทั้งนี้กทม. จะมอบใบประกาศเกียรติคุณไว้ให้แก่ครอบครัวของนายอำนาจ พวงสูงเนิน เพื่อประกาศคุณความดีให้สาธารณชนรับทราบ และเป็นเกียรติแก่นายอำนาจและวงศ์ตระกูลสืบไป พร้อมเงินช่วยเหลือครอบครัวเป็นจำนวน 50,000 บาท รวมถึงแสดงความขอบคุณในความมีจิตสาธารณะและเสียสละของนายอำนาจ พวงสูงเนิน โดยไม่คิดถึงผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับตนเอง ควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูเกียรติและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมต่อไป

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

สภากรุงเทพมหานครประสานความร่วมมือกองบัญชาการตำรวจนครบาลในการวางมาตรการร่วมกัน

สภากรุงเทพมหานครประสานความร่วมมือกองบัญชาการตำรวจนครบาลในการวางมาตรการร่วมกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนชาวกรุงเทพมหานครอย่างมีประสิทธิภาพ

ที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้(12 เม.ย.54) เวลา 10.00 น. นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานครพร้อมคณะเข้าพบพลตำรวจโทจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะเน้นการติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือ CCTV. ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครที่มีกว่า 5 พันจุด

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสำรวจ และแนะนำจุดสำคัญๆ ที่มีความจำเป็นต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดให้กับ กทม.แล้ว เพียงแต่รอการติดตั้งให้ครบทุกจุดเท่านั้น ทั้งนี้กล้องวงจรปิดยังถือเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัย และมีความสำคัญต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหลวงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร รวมถึงคอยตรวจสอบความเรียบร้อยของระบบการจราจร และความมั่นคงของประเทศ สามารถแบ่งเบาภาระให้กับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองได้อย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจมีความเป็นไปได้ หากสภากรุงเทพมหานครจะออกข้อบัญญัติให้ประชาชนทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในบ้านเหมือนกับต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการ อาทิ ร้านสะดวกซื้อต่างๆ จากนั้นก็ทยอยติดตั้งภายในบ้านของประชาชนทั่วไป ซึ่งประธานสภากรุงเทพมหานครจะได้นำเรื่องนี้ไปหารือร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครอีกครั้ง