ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

สภากทม.เตรียมผลักดันวัดธรรมมงคล เขตพระโขนง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

(27 ม.ค.54)นายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬา สภากทม. ชุดทึ่ 7 พร้อมด้วยคณะอนุกรมการฯ ประชุมพร้อมลงพื้นที่เพื่อหาแนวทางการจัดการพัฒนาให้วัดธรรมมงคลเถาบุญญนนท์วิหาร เขตพระโขนง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีผู้แทนจากกองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตพระโขนง ผู้แทนจากวัดธรรมมงคลเถาบุญญนนท์วิหาร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธรรมมงคล และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ โรงเรียนวัดธรรมมงคล ซอยปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
นายตรีสิทธิ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ว่า ขณะนี้บริเวณวัดธรรมมงคงมีประชาชนเดินทางมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญได้รับข้อมูลจากเว็บไซด์และบอกกันปากต่อปาก แต่ยังไม่มีแนวทางการส่งเสริมอย่างจริงจัง ซึ่งประชาชน เจ้าหน้าที่ของวัด รวมทั้งโรงเรียนวัดมงคลธรรม และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมที่จะร่วมมือกันพัฒนาให้วัดมงคลธรรมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสถานที่สำคัญมากมาย อีกทั้งตนเอง ยังมีแนวคิดที่ปรับบริเวณสวนริมคลองบางอ้อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย จึงอยากขอให้กรุงเทพมหานครเข้ามาเร่งพัฒนาและส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเทียวที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้คณะอนุกรรมการจะเร่งทำการสรุปผลการประชุม เพื่อเสนอแนวการพัฒนาให้วัดธรรมมงคลเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมต่อผู้บริหารกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับวัดธรรมมงคลนั้น มีชื่อเดิมว่าวัดป่าสะแก เพราะบริเวณวัดเมื่อก่อนมีต้นสะแกมาก ต่อมาภายหลังได้ตั้งชื่อ เป็นทางการในปี พ.ศ. 2506 ว่า “วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนทวิหาร” ตามนามผู้ถวายเจ้าของที่ดินแห่งนี้คือ นายเถา-นางบุญมา อยู่ประเทศ โดยเจตจำนงที่จะมอบที่ดินแปลงนี้ถวายพระสงฆ์ ซึ่งพระครูญาณวิริยะ หรือพระธรรมมงคลญาณ(หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร)ได้มาปักกลดอยู่ที่ป่าสะแกนี้ มีประชาชนใกล้ไกลให้ความศรัทธาเลื่อมใส ในจริยะวัตรของท่าน จึงพากันมาทำบุญและฟังธรรมรักษาศีล นั่งสมาธิ เพิ่มมากขึ้นทุกวันจนทำให้วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่ และเป็นวัดที่สวยงามมาก ซึ่งภายในวัดมีสิ่งศักดิ์สำคัญหลายอย่าง อาทิ พระบรมสารีริกธาตุ พระเกศาธาตุ และพระอุรังคธาตุ ที่ได้อันเชิญมากประเทศ บังคลาเทศ พระพุทธรูป ภ.ป.ร.(หลวงพ่อองค์คำ) ซึ่งพระบทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จมาเททองหล่อ ณ วิหาร ชั้น 2 วัดธรรมมงคล อีกทั้งพระอโศกพยา(หลวงพ่อพันปี)เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทราย มีอายุกว่าพันปี รวมทั้งพระอวโลกิเตศวรโพธิ์สัตว์ (พระแม่กวนอิม) แกะสลักจากพระหยก และพระพุทธมงคลธรรมศรีไทย(หลวงพ่อหยก) ซี่งเป็นหยกเขียวบริสุทธิ์ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 32 ตัน นอกจากนี้ยังมีในบริเวณวัดธรรมมงคลยังมีสถานที่สำคัญหลายที่ อาทิ พระวิริยมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์ เป็นพระมหาเจดีย์ที่สูงสุดในประเทศไทย ศาลาพระพุทธมงคลธรรมศรีไทย สถาบันพลังจิตานุภาพ ถ้ำวิปัสนา และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น