ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กทม. พร้อมจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ก. คันนายาว 7 ส.ค. นี้

กทม. พร้อมจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ก. คันนายาว 7 ส.ค. นี้
จัดประชุมซักซ้อม
ทำความเข้าใจแก่เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติงานในวันเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง
โปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และตรวจสอบได้
พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือหากเกิดฝนตก
เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ความสะดวก รวดเร็วในการใช้สิทธิลงคะแนน
(31 ก.ค. 54) ณ โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ เขตคันนายาว : นายเจริญรัตน์
ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร
เป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมมอบนโยบายแก่ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง
(ผอ.ปน.) คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.)
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (จนท.รปภ.)
ที่ปฏิบัติงานในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตคันนายาว
แทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. 54
ตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. ทั้งนี้ ปลัดกรุงเทพมหานคร
ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทั้งกายและวาจา
ไม่แต่งกายหรือใช้คำพูดที่เป็นคุณเป็นโทษแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ดำเนินการเลือกตั้งด้วยความเรียบร้อยตามระเบียบ ข้อกำหนด
กฎหายและหนังสือสั่งการ มีความยุติธรรมให้ความเสมอภาคกับทุกฝ่าย
และจัดการเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ ถูกต้อง ไม่คิดหรือทำการใดๆ
ที่ทำให้ผลการเลือกตั้งผิดไปจากความจริง
จากนั้น เวลา 09.30 น. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร
(ผอ.กต.ทถ.กทม.)
ได้ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร โดยมี
พลเรือโทณรงค์ ชโลธร
ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร
เป็นประธานการประชุม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
พร้อมทั้งหารือแนวทางการดำเนินการเลือกตั้งซ่อม ส.ก. เขตคันนายาว
ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดความเรียบร้อย โปร่งใส เป็นธรรม
และปราศจากข้อร้องเรียน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า
ขณะนี้เขตคันนายาวมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งเต็มที่
และยังไม่มีข้อร้องเรียนใดๆ
ได้กำชับให้เขตคันนายาวเร่งประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งเชิงรุกให้มากที่สุด
เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจและไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อม
ส.ก. เขตคันนายาว ในวันที่ 7 ส.ค. นี้
อีกทั้งเตรียมพร้อมรับมือและแก้ปัญหาหากเกิดฝนตกในวันดังกล่าว
เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็วในการใช้สิทธิลงคะแนนด้วย
สำหรับในวันเลือกตั้งกรุงเทพมหานครได้ย้ายศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งกรุงเทพมหานครมาประจำที่สำนักงานเขตคันนายาวเป็นการชั่วคราว
เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความคล่องตัว
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
รวมถึงลดปัญหาและป้องกันคำครหาหรือข้อร้องเรียนต่างๆ นอกจากนี้
ยังเป็นครั้งแรกที่มีการเปลี่ยนวิธีนับคะแนนใหม่โดยนำการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งมาใช้แทนการนับคะแนนที่เขตเลือกตั้ง
ซึ่งจะทำให้ทราบผลการเลือกตั้งได้เร็วขึ้น

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

****************

09.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว

โครงการจัดสร้างพระฯ และร่วมบริจาคเงินสร้างอาคารศูนย์เวชศาสตร์

ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เป็นประธานประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร

ณ ห้องสุทัศน์ กทม.

11.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ให้การต้อนรับคณะผู้ว่าราชการนครเทียนจินเข้าเยี่ยมคารวะ

ณ ห้องอมรพิมาน กทม.

13.00 น. ประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณ

ณ ห้องประชุมสภา 3-6

15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานให้โอวาทคณะ

นักกีฬาที่เดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายุวชนโลก ครั้งที่ 45

ณ ห้องเจ้าพระยา กทม.

18.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ

กรุงเทพฯ กรุงธรรม ของกลุ่มเขตกรุงเทพใต้

ณ โรงแรมตะวันา เขตบางรัก กทม.

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

****************

06.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานมหกรรมชุมชนคึกคัก เดิน-วิ่งการกุศล กล้วยน้ำไท อะเมซิ่ง วิ่งยกซอย 2

ณ ชุมชนคลองเตย ล็อค 4-5-6

09.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการอบรม พร้อมมอบนโยบายและให้คำแนะนำในการปฏิบัติงานแก่ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง (เลือกตั้ง สก.เขตคันนายาว) จากนั้น 10.00 น. ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่น กทม.

ณ ห้องประชุมโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ถ.รามอินทรา กทม.

11.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมเครือข่ายประธานนักเรียน กทม.และปริมณฑล (องค์กรสาธารณประโยชน์)

ณ ห้องประชุมชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกทม.

ปทุมวันเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนตรอกสลักหิน

ปทุมวันเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนตรอกสลักหิน

นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม. แจ้งว่า คณะกรรมการชุมชนตรอกสลักหินได้ว่างลงเนื่องจากหมดวาระ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 54 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ว่าด้วยกรรมการชุมชน พ.ศ. 2534 เขตฯ จึงได้กำหนดวันเลือกตั้งกรรมการชุมชนตรอกสลักหิน ในวันที่ 7 ส.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น. ณ ชุมชนตรอกลักหิน เขตปทุมวัน ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผู้นำชุมชนเข้ามาเป็นตัวแทนในการบริหารชุมชนให้มีความเข้มแข็งต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม โทร. 0 2214 1330 หรือ 0 2214 3004 ต่อ 6339-41

บางพลัดชวนทำดีบริจาคโลหิต

บางพลัดชวนทำดีบริจาคโลหิต

น.ส.สุรีย์ วัชนะประพันธ์ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด กทม. แจ้งว่า เขตฯ ร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 สถานีตำรวจนครบาลบางพลัด และโรงพยาบาลยันฮี จัดโครงการบริจาคโลหิต ครั้งที่ 14 ในวันที่ 45 ส.ค. 54 ตั้งแต่เวลา 09.00 14.30 น. โรงพยาบาลยันฮี เขตบางพลัด โดยเชิญชวนประชาชนร่วมทำความดีด้วยการบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

บางนารับสมัครบุคคลเข้ารับการฝึกอบรมอปพร.

บางนารับสมัครบุคคลเข้ารับการฝึกอบรมอปพร.

นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางนา กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน รุ่นที่ 13 ในวันที่ 20-21, 26-28 ส.ค. 54 รวม 5 วัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ เขตบางนา โดยมีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 50 คน จึงประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนที่มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ และมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เขตศูนย์ อปพร.เขตบางนา ขอรับและยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อย่างละ 1 ฉบับ และภาพถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 รูป ที่ฝ่ายปกครอง ชั้น 3 สำนักงานเขตบางนา ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 5 ส.ค. 54 สอบถามโทร. 0 2397 3593 หรือ 0 2397 3695-7 ต่อ 6054-6 ในวันและเวลาราชการ

สรุปข่าวบริการสำนักงานเขต

สรุปข่าวบริการสำนักงานเขต

สำนักงานเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานครพร้อมบริการทุ่มเทการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ดังนี้

เขตสายไหม ดร.นงพะงา บุญปักษ์ ผู้อำนวยการเขตสายไหม กทม. เปิดเผยว่า เขตฯ ได้จัดโครงการเขตเคลื่อนที่เพื่อบริการประชาชน ในวันที่ 7 ส.ค. 54 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ชุมชนหมู่บ้านอรุณนิเวศน์ โดยมีกิจกรรมการให้บริการดังนี้ การตรวจสุขภาพประชาชนทั่วไปจากศูนย์บริการสาธารณสุข 61 บริการตัดผม บริการให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาน้ำท่วมขัง ขยะปฏิกูล การขออนุญาตประกอบกิจการ การทะเบียนราษฎร์ การเสียภาษีค่าธรรมเนียมต่างๆ การศึกษา การเกษตร การรับเรื่องราวร้องทุกข์ บริการฉีดวัคซีนสุนัข แมว บริการให้คำปรึกษาขึ้นทะเบียนทหาร การไฟฟ้า ประปา การจำหน่ายสินค้า อุปโภคบริโภค ผัก ผลไม้ ราคาประหยัด

เขตคลองเตย นางอัจฉราวดี ชัยสุวิรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคลองเตย กทม. แจ้งว่า คณะผู้บริหารเขต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำหนดออกตรวจพื้นที่ทุกวันจันทร์และวันพุธของสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. สำหรับวันที่ 3 ส.ค. 54

ออกตรวจพื้นที่บริเวณ ถ.พระราม 3 ถ.สุนทรโกษา ถ.ท่าเรือ ถ.เกษมราษฎร์ จรดแม่น้ำเจ้าพระยา ตลาดปีนัง ตลาดคลองเตย 1, 2 ทั้งนี้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เขตฯ

เขตบางกอกน้อย นางมนี เดชเกตุ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย กทม. แจ้งว่า เขตฯ กำหนดตรวจพื้นที่ ถ.อิสรภาพ และ ถ.พรานนก ตั้งแต่ ปาก ซ.อิสรภาพ 47 ซ.วัดอมรทายิการาม ซ.สุดสาคร และสิ้นสุดปาก ซ.พรพิพัฒน์ ในวันที่ 2 ส.ค. 54 ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. โดยตรวจความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของถนน บาทวิถี ขยะตกค้าง การตัดแต่งกิ่งไม้ ป้ายผิดกฎหมายและสิ่งสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่เขต

ตั้ง ส.ก.กิตพล เป็นประธานพิจารณางบประมาณรายจ่าย กทม. 55,000 ล้านบาท

ตั้ง ส..กิตพล เป็นประธานพิจารณางบประมาณรายจ่าย กทม. 55,000 ล้านบาท

มติเห็นชอบแต่งตั้งนายกิตพล เชิดชูกิจกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตประเวศ เป็นประธาน คกก.วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 55 พร้อมเสนอแนะหน่วยงานกทม. เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อชี้แจงการของบประมาณ ย้ำหัวหน้าทุกหน่วยงานต้อเข้าชี้แจงด้วยตนเอง เตรียมเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาให้กับคณะกรรมการฯ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนต่อไป

ในการประชุมสภากรุงเทพมหานครสามัญสมัยที่ 3 (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2554 ที่ผ่านมา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร มีมติเป็นเอกฉันท์รับหลักการร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณการจ่าย จำนวน 55 ,000 ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ก่อนให้ความเห็นชอบ โดยได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ..2555 ทั้งหมดจำนวน 47 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร 14 คน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 33 คน ซึ่งภายหลังจากปิดการประชุมสภาสมัยสามัญ คณะผู้บริหารและคณะกรรมการฯ ได้ร่วมประชุมต่อที่ ห้องประชุม 4-6 สภากทม. เพื่อแต่งตั้งประธานและคณะทำงานเพื่อพิจารณาฯ โดยในที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้ นายกิตพล เชิดชูกิจกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตประเวศ เป็นประธาน นายประเดิมชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตห้วยขวาง เป็นรองประธานคนที่หนึ่ง นายอมรเทพ เศตะพราหมณ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตยานนาวา เป็นรองประธานคนที่สอง นายประเสริฐ ทองนุ่น สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ เป็นรองประธานคนที่สาม และ นายพิพัตร ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก เป็นเลขานุการฯ โดยเริ่มพิจารณาหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. 54 เป็นต้นไป กำหนดระยะเวลาในการประชุมภายใน 45 วัน ณ ห้องประชุม 4-6 สภากทม.

ประธาน คณะกรรมการฯ กล่าวว่า กรอบการพิจารณางบประมาณของหน่วยงานคราวนี้ เน้นให้หน่วยงานต่างๆ เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและเตรียมตัวเพื่อชี้แจงในรายละเอียดในข้อซักถามของ ทางคณะกรรมการฯ ซึ่งในการชี้แจงหัวหน้าหน่วยงานต้องให้ความสำคัญในการเข้าชี้แจง นอกจากนี้ในการพิจารณาแต่ละขั้นตอนมีการพิจารณาอย่างรอบคอบและคำนึงถึงการ ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญถึงเหตุผลความจำเป็นในการใช้สอย และโครงการเร่งด่วนที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

5 สิงหาคม นี้ กทม.จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ เฉลิมพระเกียรติ 79 พรรษา พระบรมราชินีนาถ

5 สิงหาคม นี้ กทม.จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ เฉลิมพระเกียรติ 79 พรรษา พระบรมราชินีนาถ

พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัย ร่วมกับ มูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนฯ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ และมูลนิธิตระกูลเล้าแห่งประเทศไทย จัดหน่วยบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 79 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยให้บริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจคัดกรองความเสี่ยงสุขภาพ ตรวจรักษาโรคช่องปากและฟันด้วยการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ตรวจมวลกระดูก เอกซเรย์ปอด ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการและสาธิตอาหาร ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพกาย สุขภาพจิต ยาเสพติด และโรคเอดส์ บริการรถคลายเครียดเคลื่อนที่ รถสร้างสรรค์กิจกรรมสร้างสุข มอบแว่นตาแก่ผู้สูงอายุ บริการตัดผมซอยผม และเลี้ยงอาหารกลางวันตามโครงการ “น้ำพระทัยพระราชทาน”แก่ประชาชน นอกจากนี้ยังมีบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าสุนัขและแมว บริการทำหมันโดยสัตว์เลี้ยงที่จะนำมาทำหมันต้องดอาหาร และน้ำ 8-12 ชั่วโมง และบริการจดทะเบียนและฝังไมโครชิปสัตว์เลี้ยง โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องนำสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วย

ทั้งนี้ประชาชนสามารถไปใช้บริการดังกล่าวได้ ในวันที่ 5 ส.ค. 54 เวลา 08.0012.00 น. ณ ลานกีฬา รามคำแหง 39 ชุมชนทรัพย์สินเก่า เขตวังทองหลาง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

กทอ. เห็นชอบซื้อที่จัดสร้าง สนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง

กทอ. เห็นชอบซื้อที่จัดสร้าง สนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง

ที่ประชุม กทอ. เห็นชอบหลักการจัดซื้อที่ดิน บ.ไม้อัดไทย สร้างอาคารสนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง เตรียมเสนอคณะผู้บริหารพิจารณางบประมาณ พร้อมเดินหน้าเจรจาการทางพิเศษฯ เพื่อขอใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้ทางด่วนจอดรถขยะของสนง.เขตบางรัก และสัมพันธวงศ์

(29 ก.ค. 54) ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาแนวทาง การพัฒนาที่ดินและอาคารของกรุงเทพมหานคร (กทอ.) เห็นชอบในหลักการให้จัดซื้อที่ดินของบริษัท ไม้อัดไทย จำกัด บริเวณสี่แยกบางนา ถ.สรรพาวุธ ติดกับถนนทางรถไฟสายเก่า ขนาด 50 ไร่ 2 งาน เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตบางนา โรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง โดยมีเงื่อนไขให้สำนักงานเขตบางนาดำเนินการตรวจสอบรายละเอียด ของที่ดิน ราคาประเมินสภาพ ลำราง ถนนสาธารณะประโยชน์ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครพิจารณางบประมาณในลำดับต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาความเหมาะสมในการเช่าพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำหรับจอดรถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และสำนักงานเขตบางรัก ซึ่งสถานที่จอดรถของทั้งสองสำนักงานเขตไม่เพียงพอต่อการจอดรถยนต์ส่วนกลาง เพื่อใช้ในการจอดรถเก็บขนมูลฝอย รวมถึงเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของสำนักงานเขต โดยกรุงเทพมหานครจะหารือร่วมกับผู้บริหารของการทางพิเศษฯ เพื่อขอเข้าไปพัฒนาพื้นที่ให้มีความเหมาะสมโดยใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกับการพัฒนาสวนสาธารณะใต้ทางด่วนและของดเว้นค่าเช่าต่อไป

กทม. เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับที่ 3

กทม. เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับที่ 3

เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมฯ ปรับปรุงครั้งที่ 3 พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจแนวทาง การพัฒนาพื้นที่ และแจ้งให้ผู้ได้รับผลกระทบร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะปิดประกาศ 8 ส.ค. นี้ ณ 50 สำนักงานเขต และสำนักผังเมือง ก่อนจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยภาพรวม 25 ส.ค.54 ณ ศูนย์เยาวชนกทม. (ไทย-ญี่ปุ่น)

(29 ก.ค. 54) เวลา 10.00 น. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาประชาสัมพันธ์ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ณ จังหวัดนครนายก โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย สื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์สำนัก 50 สำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร กองประชาสัมพันธ์ กทม. และผู้เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ ประมาณ 200 คน ร่วมการสัมมนา เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างภาคราชการ และประชาชนในการเผยแพร่และทำความเข้าใจ ถึงเป้าประสงค์ วิสัยทัศน์ และแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานครไปสู่มหานครแห่งอนาคต พร้อมทั้งเป็นเวทีให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ได้ร่วมแสดงความ คิดเห็นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาปรับปรุงร่างผังเมืองรวมให้เกิด ประโยชน์สูงสุด และขอความร่วมมือสื่อมวลชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ ในการประชาสัมพันธ์การประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างผัง เมืองรวม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.54 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกด้วย

สำหรับการสัมมนาในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการวางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ซึ่ง สำนักผังเมือง กทม. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่การประเมินผลผังเมืองรวมฉบับปัจจุบัน ต่อเนื่องมาถึงการวางผังเมืองฉบับใหม่ เช่น การประชุมประชาชนตามกลุ่มเขต หน่วยราชการ ภาคเอกชน รวมไปถึงการออกไปหารือกับจังหวัดปริมณฑล รวมกว่า 35 ครั้ง และขณะนี้ ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ได้รับความเห็นชอบจากคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร และอยู่ในขั้นตอนการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเมื่อผ่านการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว จะนำ ร่างผังเมืองรวมฯ ปรับปรุงครั้งที่ 3 เสนอต่อกรมโยธาธิการและผังเมือง และคณะกรรมการผังเมืองเพื่อพิจารณาตามลำดับ จากนั้นจะปิดประกาศเป็นเวลา 90 วัน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบและให้ข้อคิดเห็น กรณีที่มีคำร้องจากประชาชน คณะกรรมการผังเมืองจะพิจารณาและสั่งให้ดำเนินการต่อคำร้องดังกล่าว ก่อนที่จะเสนอผังเมืองรวมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการออกกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือรวมต่อไป

รองผู้ว่าฯ พรเทพ กล่าวว่า กทม. ได้จัดทำร่างผังเมืองรวมฯ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 โดยจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองในฝันและน่าอยู่สำหรับทุกคน รวมถึงแก้ไขผังเมืองให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยใช้

หลัก การอ้างอิงจากสถิติประชากรศาสตร์ และข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับการพัฒนาสูงสุด โดยในวันที่ 8 ส.ค. 54 กทม. จะปิดประกาศร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ณ 50 สำนักงานเขต และสำนักผังเมือง กทม. จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดทำร่างผังเมืองรวมฯ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์สำนักผังเมือง www.bangkokplan.org และ http://cpd.bangkok.go.th และจัดทำประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนทั่วไป ในวันที่ 25 ส.ค. 54 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง

สร้างสถานประกอบการอาหารดีมีคุณภาพในกรุงเทพฯ

สร้างสถานประกอบการอาหารดีมีคุณภาพในกรุงเทพฯ

กทม. มอบเกียรติบัตรและป้ายสัญลักษณ์แก่สถานประกอบการ โรงงาน โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ที่ผ่านการประเมินยกระดับมาตรฐานสถานประกอบกิจการด้านอาหารประเภทการผลิตลูกชิ้น ขนมปังสด ขนมปังแห้ง ขนมจันอับ และขนมเปี๊ยะ เดินหน้าส่งเสริมและคุ้มครองประชาชนให้ได้บริโภคอาหารสะอาด ปลอดภัยต่อเนื่อง

(29 ก.ค. 54) เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมปริ๊นพาเลซ มหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย : พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและป้ายสัญลักษณ์สถานประกอบกิจการประเภทขนมปังสด ขนมปังแห้ง จันอับ ขนมเปี๊ยะ และสถานประกอบกิจการประเภทการผลิตลูกชิ้นด้วยเครื่องจักร ที่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินตามโครงการการพัฒนายกระดับมาตรฐานสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม น้ำดื่ม ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการต่อเนื่อง เพื่อให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองอาหารปลอดภัย

พญ.มาลินี กล่าวว่า การตรวจประเมินคุณภาพสถานประกอบกิจการอาหาร เครื่องดื่ม และน้ำดื่มเพื่อควบคุม ป้องกัน และคุ้มครองประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคอาหารประเภทต่างๆ ซึ่งกรุงเทพมหานครส่งเสริมให้สถานประกอบการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ โดยในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยว ในกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก การสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวได้บริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน จะช่วยสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ถือเป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ จากการตรวจประเมินสุขลักษณะสถานประกอบกิจการประเภทการผลิตลูกชิ้นด้วยเครื่องจักร ด้วยแบบตรวจสุขลักษณะตามหลักเกณฑ์ GMP กับการตรวจด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พบว่า ในปี 2554 มีสถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการตรวจ 42 แห่ง จากทั้งหมด 76 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 59.72 ซึ่งสถานประกอบการที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการตรวจส่วนใหญ่เกิดจากไม่เก็บ สิ่งของที่ไม่ใช้แล้วในบริเวณผลิต ไม่มีการบันทึกปริมาณการผลิต รวมถึงการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์และสุขลักษณะผู้ปฏิบัติงานไม่ถูกต้อง เช่น ไม่สวมถุงมือหรือหมวกคลุมผม และปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาในการบริหารจัดการที่ไม่มีผลต่อคุณภาพของ ลูกชิ้นโดยตรง ซึ่งกรุงเทพมหานครได้กำชับผู้ประกอบการให้ควบคุมจุดวิกฤตของกระบวนการผลิตใน ขั้นตอนการบดผสมเนื้อไม่ให้มีสิ่งแปลกปลอมลงไปในเครื่องบดผสม และการต้มลูกชิ้นรักษาอุณหภูมิน้ำต้มให้พอเหมาะ เพื่อให้สามารถฆ่าเชื้อที่อาจปนเปื้อนมาได้ รวมถึงควรเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อรักษาสภาพผลิตภัณฑ์ให้มีความ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ส่วนการตรวจประเมินด้านสุขลักษณะสถานประกอบกิจการประเภทการทำขนมปังสด ขนมปังแห้ง จันอับ ขนมเปี๊ยะ เน้นตรวจประเมินสถานประกอบกิจการกลุ่มโรงงาน ห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นสถานที่หลักของการผลิตสินค้าก่อนกระจายให้กับร้านค้าต่างๆ อาทิ ตัวแทนจำหน่าย ศูนย์รวมผู้บริโภค และกลุ่มโรงแรมที่มีการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจากผลการตรวจประเมินตามหลักเกณฑ์วิธีที่ดีในการผลิต (Good Manufacturing Practice) ในสถานประกอบกิจการ 254 ราย ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน 218 ราย คิดเป็นร้อยละ 85.83 และไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน 36 ราย คิดเป็นร้อยละ 14.17 เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ สถานที่ผลิตส่วนใหญ่ไม่มีมาตรการป้องกันสัตว์และแมลงเข้าไปในบริเวณการผลิต ไม่มีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของผลิตภัณฑ์ อีกทั้ง มีข้อบกพร่องในเรื่องสุขวิทยาส่วนบุคคลของผู้ปฏิบัติงาน เช่น ไม่สวมหมวกหรือผ้าคลุมผม สวมใส่เครื่องประดับขณะปฏิบัติงาน ไม่มีการกำหนดวิธีการหรือข้อปฏิบัติสำหรับผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่มีความจำเป็นต้องเข้าในบริเวณผลิต

สำหรับ สถานประกอบกิจการที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินดังกล่าว ทั้ง 2 ประเภท สำนักอนามัยจะประสานสำนักงานเขตเพื่อให้คำแนะนำและตรวจติดตามผลการปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องด้านสุขลักษณะของสถานประกอบกิจการเพื่อพัฒนายกระดับสถาน ประกอบกิจการให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดต่อไป ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาสถานประกอบกิจการทั้ง 2 ประเภท ให้ผ่านเกณฑ์การตรวจประเมินทั้งหมดภายในปี 2556

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กทอ.เห็นชอบซื้อที่จัดสร้าง สนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง

กทอ.เห็นชอบซื้อที่จัดสร้าง สนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง

ที่ประชุม กทอ. เห็นชอบหลักการจัดซื้อที่ดิน บ. ไม้อัดไทย สร้างอาคารสนง.เขตบางนา โรงพยาบาล ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง เตรียมเสนอคณะผู้บริหารพิจารณางบประมาณ พร้อมเดินหน้าเจรจาการทางพิเศษฯ เพื่อขอใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้ทางด่วนจอดรถขยะของสนง.เขตบางรัก และสัมพันธวงศ์

(29 ก.ค.54) ดร.ธีระชน มโนมัย พิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการพัฒนาที่ดินและอาคารของกรุงเทพมหานคร (กทอ.) เห็นชอบในหลักการให้จัดซื้อที่ดินของบริษัท ไม้อัดไทย จำกัด บริเวณสี่แยกบางนา ถนนสรรพาวุธ ติดกับถนนทางรถไฟสายเก่า ขนาด 50 ไร่ 2 งาน เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตบางนา โรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร ศูนย์กีฬากรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และสถานีดับเพลิง โดยมีเงื่อนไขให้สำนักงานเขตบางนาดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของที่ดิน ราคาประเมินสภาพ ลำราง ถนนสาธารณะประโยชน์ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครพิจารณางบประมาณในลำดับ ต่อไป

พร้อม กันนี้ ที่ประชุมฯ ได้พิจารณาความเหมาะสมในการเช่าพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย สำหรับจอดรถเก็บขนมูลฝอยของสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ และสำนักงานเขตบางรัก ซึ่งสถานที่จอดรถของทั้งสองสำนักงานเขตไม่เพียงพอต่อการจอดรถยนต์ส่วนกลาง เพื่อใช้ในการจอดรถเก็บขนมูลฝอย รวมถึงเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ของสำนักงานเขต โดยกรุงเทพมหานครจะหารือร่วมกับผู้บริหารของการทางพิเศษฯ เพื่อขอเข้าไปพัฒนาพื้นที่ให้มีความเหมาะสมโดยใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกับการพัฒนาสวนสาธารณะใต้ทางด่วนและของดเว้นค่าเช่าต่อไป

สำนักผังเมือง กทม. เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับที่ 3

สำนักผังเมือง กทม. เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมกรุงเทพฯ ฉบับที่ 3

เชิญสื่อมวลชนรับฟังร่างผังเมืองรวมฯ ปรับปรุงครั้งที่ 3 พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจแนวทางการพัฒนาพื้นที่ และแจ้งให้ผู้ได้รับผลกระทบร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะปิดประกาศ 8 ส.ค.นี้ ณ 50 สำนักงานเขต และสำนักผังเมือง ก่อนจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยภาพรวม 25 ส.ค.54 ณ ศูนย์เยาวชนกทม.(ไทย-ญี่ปุ่น)

(29 ก.ค.54) เวลา 10.00 น. : นาย พรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาประชาสัมพันธ์ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ณ จังหวัดนครนายก โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย สื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ 50 สำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร กองประชาสัมพันธ์ กทม. และผู้เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ ประมาณ 200 คน ร่วมการสัมมนา เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างภาคราชการและประชาชนในการเผยแพร่และทำความเข้าใจ ถึงเป้าประสงค์ วิสัยทัศน์ และแนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานครไปสู่มหานครแห่งอนาคต พร้อมทั้งเป็นเวทีให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาปรับปรุงร่างผังเมืองรวมให้เกิดประโยชน์สูงสุด และขอ ความร่วมมือสื่อมวลชน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ ในการประชาสัมพันธ์การประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างผัง เมืองรวม ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.54 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกด้วย

ภายหลังจาก กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2549 หรือ ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2) สิ้นสุดการบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 พ.ค.54 กทม.ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ผังเมืองรวมฉบับดังกล่าว ครั้งที่ 1 ต่อไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุดการใช้บังคับในวันที่ 15 พ.ค.55 เพื่อดำเนินการร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 3) ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากตระหนักว่า สภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญหลายประการ เช่น วิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาด้านการเมืองของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงโครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนทางรางและเพิ่มจำนวนสายทาง และการก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่บริเวณโดยรอบสถานีและในแนวสายทาง โครงการขนาดใหญ่ อาทิ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (เกียกกาย) สถานีมักกะสัน และปัญหาผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนเป็นต้น

สำหรับ การสัมมนาในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ วางและจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 ซึ่ง สำนักผังเมือง กทม. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่การประเมินผลผังเมืองรวมฉบับปัจจุบัน ต่อ เนื่องมาถึงการวางผังเมืองฉบับใหม่ เช่น การประชุมประชาชนตามกลุ่มเขต หน่วยราชการ ภาคเอกชน รวมไปถึงการออกไปหารือกับจังหวัดปริมณฑล รวมกว่า 35 ครั้ง และขณะนี้ ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ได้รับความเห็นชอบจากคณะที่ปรึกษาผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร และอยู่ในขั้นตอนการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเมื่อผ่านการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว จะนำร่างผังเมืองรวมฯ ปรับปรุงครั้งที่ 3 เสนอต่อกรมโยธาธิการและผังเมือง และคณะกรรมการผังเมืองเพื่อพิจารณาตามลำดับ จากนั้นจะปิดประกาศเป็นเวลา 90 วัน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบและให้ข้อคิดเห็น กรณีที่มีคำร้องจากประชาชน คณะกรรมการผังเมือจะพิจารณาและสั่งให้ดำเนินการต่อคำร้องดังกล่าว ก่อนที่จะเสนอผังเมืองรวมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการออก กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมือรวมต่อไป

รองผู้ว่าฯ พรเทพ กล่าวว่า กทม.ได้จัดทำร่างผังเมืองรวมฯ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 โดย จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองในฝันและน่าอยู่สำหรับทุกคน รวมถึงแก้ไขผังเมืองให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยใช้

หลัก การอ้างอิงจากสถิติประชากรศาสตร์ และข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น เพื่อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับการพัฒนาสูงสุด โดยในวันที่ 8 ส.ค.54 กทม.จะปิดประกาศร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ณ 50 สำนักงานเขต และสำนักผังเมือง กทม. จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดทำร่างผังเมือง รวมฯ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์สำนักผังเมือง www.bangkokplan.org และ http://cpd.bangkok.go.th และจัดทำประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนทั่วไป ในวันที่ 25 ส.ค.54 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง

กทม.เดินหน้าจัดระเบียบผู้ค้าย่านสยามสแควร์

กทม.เดินหน้าจัดระเบียบผู้ค้าย่านสยามสแควร์

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงดำเนินการแก้ไขปัญหาผู้ค้าหาบเร่แผงลอยบนทางเท้าบริเวณโดยรอบสยามสแควร์ ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตปทุมวัน ได้ดำเนินการร่วมกันระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน จัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและคืนทางเท้าให้กับประชาชน บริเวณทางขึ้นลงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นระยะทางประมาณ 50 เมตร โดยเบื้องต้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดหาพื้นที่ค้าขายให้กับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ทางเท้าบริเวณโดยรอบสยามสแควร์

วันนี้ (28 ก.ค.54) ได้มีการประชุมร่วมกันอีกครั้งระหว่าง กรุงเทพมหานคร โดยสำนักผังเมือง สำนักการโยธา สำนักงานกฎหมาย สำนักงานเขตปทุมวัน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยกรุงเทพมหานครและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีแนวคิดในการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณทางเท้าบริเวณโดยรอบสยามสแควร์ ด้วยการพัฒนาทางกายภาพ การรักษากฎหมาย การมีวินัยของประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้สอยพื้นที่สาธารณะร่วมกันของผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและประชาชน

นอกจากนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย สำนักการโยธา สำนักผังเมือง สำนักงานเขต กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาออกแบบการพัฒนาและปรับปรุงทางเท้าบริเวณโดยรอบสยามสแควร์ เมื่อทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันแล้ว จะได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสยามสแควร์ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอความต้องการใช้พื้นที่ การรับฟังความคิดเห็น การสำรวจความพึงพอใจอีกด้วย

กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง

กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง

กทม.จับมือ ขสมก. เปิดตัวโครงการ Read on the Move จุดอ่านหนังสือบนรถเมล์ นำร่องใน 9 สาย 108 คัน เพื่อผลักดันโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน และใช้เวลาว่างระหว่างเดินทางอย่างเป็นประโยชน์

(28 ก.ค.54) นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. หรือจุดอ่านหนังสือบนรถประจำทาง พร้อมปล่อยขบวนรถโดยสารประจำทางนำร่อง 9 สาย โดยมีนายวิรัตน์ โชคคติวัฒน์ รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) ถนนพหลโยธิน

โครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 (Bangkok World Book Capital 2013) ซึ่งกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นให้ชาวกรุงเทพฯ เข้าถึงการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในขณะเดินทางซึ่งทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียเวลาอันมีค่าอยู่บนท้องถนน เพื่อเดินทางไปในที่ต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงจัดหนังสือและนิตยสารไว้ประจำรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าและประตูหลังของรถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ ซึ่งในเบื้องต้น ขสมก.ได้นำร่องโครงการฯ ในรถประจำทางปรับอากาศ จำนวน 9 สายๆ ละ 12 คัน รวม 108 คัน ได้แก่ สาย4 (ท่าเรือคลองเตย – ท่าน้ำภาษีเจริญ), สาย16 (ประชาชื่น – สุรวงศ์), สาย21 (วัดคู่สร้าง – จุฬาฯ), สาย543 (อู่บางเขน – ลำลูกกา), สาย510 (ม.ธ.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ),สาย60 (มีนบุรี – ปากคลองตลาด), สาย77 (เซ็นทรัลพระราม3 – หมอชิต), สาย129 (อู่บางเขน – สำโรง) และสาย 511 (ปากน้ำ – สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) โดยรถประจำทางที่ร่วมโครงการจะติดสติ๊กเกอร์โครงการและข้อความรณรงค์รักการอ่านและเมืองหนังสือโลก 2013

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรม Read on the Move ในวันนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องภายหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าโครงการรักการอ่านบนรถแท็กซี่ จำนวน 500 คัน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่านและการเป็นเมืองหนังสือโลก พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้สำนักการศึกษา เปิดห้องสมุดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 50 แห่ง เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปในช่วงหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ และเพิ่มจุดอ่านบริเวณที่พักรอของผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง รวมถึงตั้งจุดบริการการอ่านบริเวณสำนักงานเขตและหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะร่วมกับภาคีเครือข่ายขยายพื้นที่การอ่าน อาทิ ห้องสมุดเรือนจำ สถานพินิจ โรงพยาบาล มูลนิธิ และจัดทำห้องสมุดเพื่อผู้พิการ เพื่อขยายโอกาสไปยังผู้ด้อยโอกาสในแต่ละกลุ่มอีกด้วย

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะเปิดรับบริจาคหนังสือในโครงการฯ เพิ่มเติม โดยตั้งกล่องรับบริจาค ณ สำนักงานเขต และหน่วยงานในสังกัด ห้างเทสโก้ โลตัส และร้านสะดวกซื้อ (7-eleven) เพื่อเพิ่มจำนวนหนังสือในโครงการฯ และขยายโครงการรักการอ่านอย่างต่อเนื่องต่อไป

ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาลดปัญหาสร้างเสริมสุขภาพ

ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาลดปัญหาสร้างเสริมสุขภาพ

กทม. เดินหน้ารณรงค์งดเหล้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษาถวายในหลวง 84 พรรษา บริเวณตลาดสดระดับเพชร 17 แห่ง พร้อมแสดงเจตนารมย์ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา นำร่องตลาดประชานิเวศน์ ตั้งเป้าปีหน้ารณรงค์ครอบคลุมตลาดสดระดับทอง ประชาชนสนใจรับการบำบัดได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ทั้ง 68 แห่ง ขอคำปรึกษาจากศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร. 1413

(28 ก.ค. 54) ที่ตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้โครงการตลาดสดชวนงดเหล้า รวมพลังทำความดีถวายในหลวง 84 พรรษา ณ บริเวณตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร และร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่รณรงค์เชิญชวนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนงดเหล้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยจัดแสดงละครเร่สะท้อนปัญหาและผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ให้คำปรึกษาการเลิกเหล้า คัดกรองผู้เข้าข่ายติดเหล้า แจกเอกสารรณรงค์ประชาสัมพันธ์ อาทิ สติ๊กเกอร์ แผ่นพับ ใบปลิว

รองผู้ว่าฯ มาลินี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้ประชาชนลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นเหตุให้เกิดปัญหาอื่นได้ เช่น ทำลายสุขภาพตนเอง ทำลายสุขภาพจิตคนรอบข้าง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมได้ ซึ่งโครงการตลาดสดชวนงดเหล้าฯ เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมให้ประชาชนงดบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์อย่างจริงจัง โดยเริ่มจากช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและต่อเนื่องให้นานที่สุด ทั้งนี้ ได้กำหนดรณรงค์ในตลาดสดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับเพชรจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 17 แห่ง และในปีหน้าจะรณรงค์ครอบคลุมในตลาดสดระดับทองต่อไป

สำหรับประชาชนที่สนใจจะลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถปฏิบัติด้วยตนเองได้ง่ายๆ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภายนอกและภายในที่ทำให้ต้องดื่มเหล้า เช่น เพื่อนชวน อารมณ์โกรธ เครียด หรือกังวล รับประทานอาหารให้อิ่มตามเวลามื้ออาหาร ตั้งสติ และท่องความตั้งใจในการเลิก หรือเขียนบัตรคำสั้นๆ ไว้ในกระเป๋าเสื้อ หากิจกรรมทำทดแทนในช่วงเวลาที่เคยดื่ม เช่น เล่นกีฬาที่ชอบ พาครอบครัวไปดูภาพยนตร์ เข้าวัด คบเพื่อนที่เลิกสุราได้แล้ว หรือเข้ากลุ่มผู้เลิกสุรานิรนาม และพบเจ้าหน้าที่ผู้ให้การบำบัด ซึ่งผู้ประสงค์เข้ารับการบำบัดติดสามารถติดต่อหรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ทั้ง 68 แห่ง และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บำบัดใกล้บ้านโทร. 1555 ขอรับคำปรึกษาจากศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร. 1413 หรือดูรายละเอียดทาง www.1413.in.th

ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาลดปัญหาสร้างเสริมสุขภาพ

ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาลดปัญหาสร้างเสริมสุขภาพ

กทม. เดินหน้ารณรงค์งดเหล้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษาถวายในหลวง 84 พรรษา บริเวณตลาดสดระดับเพชร 17 แห่ง พร้อมแสดงเจตนารมย์ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา นำร่องตลาดประชานิเวศน์ ตั้งเป้าปีหน้ารณรงค์ครอบคลุมตลาดสดระดับทอง ประชาชนสนใจรับการบำบัดได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ทั้ง 68 แห่ง ขอคำปรึกษาจากศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร. 1413

(28 ก.ค. 54) ที่ตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้โครงการตลาดสดชวนงดเหล้า รวมพลังทำความดีถวายในหลวง 84 พรรษา ณ บริเวณตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร และร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา

สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่รณรงค์เชิญชวนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนงดเหล้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยจัดแสดงละครเร่สะท้อนปัญหาและผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ให้คำปรึกษาการเลิกเหล้า คัดกรองผู้เข้าข่ายติดเหล้า แจกเอกสารรณรงค์ประชาสัมพันธ์ อาทิ สติ๊กเกอร์ แผ่นพับ ใบปลิว

รองผู้ว่าฯ มาลินี กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้ประชาชนลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นเหตุให้เกิดปัญหาอื่นได้ เช่น ทำลายสุขภาพตนเอง ทำลายสุขภาพจิตคนรอบข้าง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมได้ ซึ่งโครงการตลาดสดชวนงดเหล้าฯ เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมให้ประชาชนงดบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์อย่างจริงจัง โดยเริ่มจากช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและต่อเนื่องให้นานที่สุด ทั้งนี้ ได้กำหนดรณรงค์ในตลาดสดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับเพชรจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 17 แห่ง และในปีหน้าจะรณรงค์ครอบคลุมในตลาดสดระดับทองต่อไป

สำหรับประชาชนที่สนใจจะลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถปฏิบัติด้วยตนเองได้ง่ายๆ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภายนอกและภายในที่ทำให้ต้องดื่มเหล้า เช่น เพื่อนชวน อารมณ์โกรธ เครียด หรือกังวล รับประทานอาหารให้อิ่มตามเวลามื้ออาหาร ตั้งสติ และท่องความตั้งใจในการเลิก หรือเขียนบัตรคำสั้นๆ ไว้ในกระเป๋าเสื้อ หากิจกรรมทำทดแทนในช่วงเวลาที่เคยดื่ม เช่น เล่นกีฬาที่ชอบ พาครอบครัวไปดูภาพยนตร์ เข้าวัด คบเพื่อนที่เลิกสุราได้แล้ว หรือเข้ากลุ่มผู้เลิกสุรานิรนาม และพบเจ้าหน้าที่ผู้ให้การบำบัด ซึ่งผู้ประสงค์เข้ารับการบำบัดติดสามารถติดต่อหรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ทั้ง 68 แห่ง และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บำบัดใกล้บ้านโทร. 1555 ขอรับคำปรึกษาจากศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร. 1413 หรือดูรายละเอียดทาง www.1413.in.th

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

****************

10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีเปิดกิจกรรม Read on the Move

กลุ่มภาคีส่งเสริมการอ่าน (ขสมก.)

ณ เขตการเดินรถที่ 1 บางเขน

10.30 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รณรงค์ ตลาดสด งดเหล้า เข้าพรรษา

รวมพลังทำความดีถวายในหลวง 84 พรรษา

ตลาดสดประชานิเวศน์ ประชาชื่น

11.15 น รผว.ธีระชน แถลงข่าวผลประชุมการจัดระเบียบป้ายในที่สาธารณะ

ณ ห้องสุทัศน์ กทม.

14.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากมูลนิธิสหพันธ์
สันติภาพสากล (ประเทศไทย) เข้าพบ เพื่อหารือเรื่องการจัดกิจกรรมรณรงค์ยืนสงบนิ่งร่วมจิตอธิษฐาน
และอ่านสารสันติภาพของเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสันติภาพสากล
2554 ในสถานศึกษาทั่วประเทศ

ณ ห้องอัมรินทร์ กทม.

16.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีมอบประกาศนียบัตรและ

ปิดการฝึกอบรมหลักสูตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขั้นพื้นฐาน รุ่นที่ 9

ณ บริเวณลานหน้าองค์พระ ภายในศาลาว่าการกทม.

สภากทม. เห็นชอบให้กทม. ยืมเงินสะสม 2,644 ล้านบาท

สภากทม. เห็นชอบให้กทม. ยืมเงินสะสม 2,644 ล้านบาท

(27 ก.ค. 54) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 3 ประจำปีพุทธศักราช 2554 ซึ่งมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม

ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบญัตติให้กรุงเทพมหานครยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานครจำนวน 2,644,692,694 บาท (สองพันหกร้อยสี่สิบสี่ล้านหกแสนเก้าหมื่นสองพันหกร้อยเก้าสิบสี่บาทถ้วน) โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุม ซึ่งมีนายนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา เป็นประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติฯก่อนให้ความเห็นชอบ ได้พิจารณาในรายละเอียด สำหรับหน่วยงานที่ยืมเงินสะสมกทม. มีดังนี้ สำนักการโยธา 430,951,000 บาท, สำนักการระบายน้ำ 210,709,127 บาท, สำนักการจราจรและขนส่ง 850,107,152 บาท, สำนักสิ่งแวดล้อม 1,077,725,415 บาท, สำนักการศึกษา 31,600,000 บาท และไม่เห็นชอบให้กรุงเทพมหานคร ยืมเงินสะสมกรุงเทพมหานคร 43,600,000 บาท (สี่สิบสามล้านหกแสนบาทถ้วน) ได้แก่หน่วยงาน สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล 43,600,000 บาท เนื่องจากหน่วยงานยังไม่ได้ก่อหนี้ผูกพัน

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครจะได้ให้สำนักเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร ยืนยันในญัตติฯ ก่อนส่งเรื่องให้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดำเนินการต่อไป

สภากทม. กระทุ้งผู้บริหารปรับปรุงทางเดิน ค.ส.ล. ทั่วกทม. หวั่นเกิดอันตรายกับประชาชน

สภากทม. กระทุ้งผู้บริหารปรับปรุงทางเดิน ค.ส.ล. ทั่วกทม. หวั่นเกิดอันตรายกับประชาชน

(27 ก.ค. 54) เวลา 10.00 น. นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 3 ประจำปีพุทธศักราช 2554 ซึ่งมีคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร

ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครได้มีการพิจารณาญัตติที่เสนอโดยนายประเสริฐ ทองนุ่น สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงทางเดิน ค.ส.ล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก)ริมคลองทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากทางเดิน ค.ส.ล. (คอนกรีตเสริมเหล็ก) ริมคลองที่มีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรมเป็นอุปสรรคในการสัญจร เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประกอบกับไฟฟ้าส่องสว่างชำรุดเสียหาย ทำให้ประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิตละทรัพย์สิน ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นมหานครแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี จึงขอให้กรุงเทพมหานครปรับปรุงทางเดิน ค.ส.ล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก) ริมคลองทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้สามารถรองรับการสัญจรไปมาของประชาชน

ด้าน นายประเสริฐ ทองนุ่น ได้อภิปรายถึงสภาพเส้นทางเดิน ค.ส.ล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก) ในกรุงเทพมหานคร ที่มีอยู่ 2,000 กว่าแห่ง โดยยกตัวอย่างสภาพที่มีความทรุดโทรมของเส้นทางเดิน ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม, ปัจจุบันสภาพถนน สภาพคลองชำรุดทรุดโทรมลงมาก เนื่องจากการปรับปรุงยังไม่ทั่วถึง และยังไม่มีการเปิดไฟส่องสว่าง บางแห่งยังใช้สะพานไม้ซึ่งมีสภาพไม่แข็งแรง ไม่มีทางเดินเท้า จึงเสนอให้สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ต้องมีนโยบายที่แน่นนอนในการปรับปรุง

ทั้งนี้ได้มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมอภิปรายปัญหาทางเดิน ค.ส.ล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก) ในเขตกรุงเทพมหานคร นับเป็นปัญหาที่เรื้อรัง เนื่องจากนโยบายการปรับปรุงไม่มีความแน่ชัดเจน ไม่มีการพัฒนาปรับปรุง ไม่มีการตรวจสอบดูแล การตรวจสอบรับงานไม่มีมาตรฐาน ขอให้กทม.ช่วยปรับปรุงดูแลซ่องแซมให้มากกว่านี้

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือถึงสำนักการระบายน้ำ ให้ซ่อมแซมและสำรวจทางเดิน ค.ส.ล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก) ที่จะต้องมีการปรับปรุงในภาพรวมแล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการของบประมาณจ่ายขาดจากสภากรุงเทพมหานคร ในการซ่อมแซมตามความเหมาะสมต่อไป

ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบในญัตติดังกล่าว โดยมอบเลขานุการสภากรุงเทพมหสนคร ส่งเรื่องให้ฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครดำเนินการต่อไป

สภากทม.ตั้ง คกก.วิสามัญ 46 คน พิจารณางบประมาณรายจ่าย 55,000 ล้านบาท

สภากทม.ตั้ง คกก.วิสามัญ 46 คน พิจารณางบประมาณรายจ่าย 55,000 ล้านบาท

สภากทม. เห็นชอบตั้งคณะกรรมการวิสามัญ 46 คน พิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม.เรื่อง งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2555 เน้นให้หน่วยงานใช้จ่ายงบให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด

(27 .. 54) ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม

ในที่ประชุม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2555 ต่อที่ประชุม โดยตั้งงบประมาณแบบงบสมดุลมีรายได้และรายจ่ายเท่ากัน จำแนกเป็น วงเงินงบประมาณรายรับ 55,780.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปี 54 จำนวน 9,100 ล้านบาท ประกอบด้วย ประมาณการรายรับของกรุงเทพมหานคร 55,000 ล้านบาท ประมาณการรายรับของการพาณิชย์กรุงเทพมหานคร 780.84 ล้านบาท จำแนกเป็นรายได้ประจำ 473.81 ล้านบาท รายได้พิเศษ 201.21 ล้านบาท และคาดการณ์จะได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ สำหรับปีงบประมาณ 2555 จำนวน 14,027.59 ล้านบาท และวงเงินงบประมาณการรายจ่าย 55,507.97 ล้านบาท ประกอบด้วย ประมาณการรายจ่ายของกทม. 55,000 ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 4,600 ล้านบาท โดยจ่ายจากรายได้ประจำของกทม. 4,100 ล้านบาท ประมาณรายจ่ายของการพาณิชย์กทม. 458.39 ล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำ 239.19 ล้านบาท โดยจ่ายจากรายได้ประจำของการพาณิชย์ของกทม. 487.71 ล้านบาท รายจ่ายพิเศษ 268.78 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมของการพานิชย์ของกทม. 293.12 ล้านบาท

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2555 จะไม่รวมงบประมาณรายจ่ายของการพาณิชย์ โดยได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนนโยบายในด้านต่างๆ ตามนโยบายของผู้บริหารและทิศทางของแผนพัฒนาเพื่อประโยชน์ของกรุงเทพมหานคร จำแนกเป็น ด้านการแก้ปัญหาจราจร 1,807 ล้านบาท ด้านเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม 2,815 ล้านบาท ด้านส่งเสริมสุขภาพคนเมือง 2,080 ล้านบาท ด้านการดูแลความปลอดภัยและจัดการเมือง 557 ล้านบาท ด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการส่งเสริมการท่องเที่ยว 592 ล้านบาท ด้านการศึกษา 1,895 ล้านบาท ทั้งนี้กรุงเทพมหานครจึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินงานตามนโยบายหลัก 6 ด้าน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและตรงตามนโยบายในการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองหลวงที่น่าอยู่ ยั่งยืน และเป็นเมืองสวรรค์ ภายในปี 2555 สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ด้าน สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมกันอภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานซึ่งจะต้องเป็นประโยชน์สูงสุด และต้องคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตหน่วยงานควรดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมและพัฒนาเมืองหลวงให้น่าอยู่อย่างยั่งยืนอีกด้วย

ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างข้อ บัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ทั้งหมด จำนวน 46 คน โดยกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาภายใน 45 วัน

ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง พร้อมให้บริการฝังเข็ม

ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง พร้อมให้บริการฝังเข็ม

พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัยได้เปิดคลินิกฝังเข็มเพิ่มเติม เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับประชาชน ในการดูแลสุขภาพ รักษาและบรรเทาอาการของโรค โดยเฉพาะในโรค หรือกลุ่มอาการที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ เช่น ปวดข้อ กล้ามเนื้ออักเสบ ไหล่ติด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด แพ้อากาศ หลอดลมอักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน โรคทางระบบประสาททั่วไป เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต เวียนศีรษะ กลุ่มอาการปวดศีรษะเรื้อรัง เช่น ไมเกรน tension headache ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการตรวจรักษาโรคด้วยการฝังเข็มและรมยา ตามหลักการแพทย์แผนจีนขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัย ประหยัดและได้มาตรฐาน ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง โดยเปิดให้บริการแล้ว ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. สามารถนัดหมายล่วงหน้าหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0 2910 7314-5

นอกจากนี้สำนักอนามัยยังมีศูนย์บริการสาธารณสุขที่ให้บริการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม อีก 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 15 ลาดพร้าว ศูนย์บริการสาธารณสุข 22 วัดปากบ่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วงนุชเนตร และศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค

ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง พร้อมให้บริการฝังเข็ม

ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง พร้อมให้บริการฝังเข็ม พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า สำนักอนามัยได้เปิดคลินิกฝังเข็มเพิ่มเติม เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับประชาชน ในการดูแลสุขภาพ รักษาและบรรเทาอาการของโรค โดยเฉพาะในโรค หรือกลุ่มอาการที่พบบ่อย ได้แก่ โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ เช่น ปวดข้อ กล้ามเนื้ออักเสบ ไหล่ติด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด แพ้อากาศ หลอดลมอักเสบ โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน โรคทางระบบประสาททั่วไป เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต เวียนศีรษะ กลุ่มอาการปวดศีรษะเรื้อรัง เช่น ไมเกรน tension headache ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการตรวจรักษาโรคด้วยการฝังเข็มและรมยา ตามหลักการแพทย์แผนจีนขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัย ประหยัดและได้มาตรฐาน ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข 19 วงศ์สว่าง โดยเปิดให้บริการแล้ว ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. สามารถนัดหมายล่วงหน้าหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0 2910 7314-5 นอกจากนี้สำนักอนามัยยังมีศูนย์บริการสาธารณสุขที่ให้บริการรักษาด้วยวิธีการฝังเข็ม อีก 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข 15 ลาดพร้าว ศูนย์บริการสาธารณสุข 22 วัดปากบ่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วงนุชเนตร และศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค

ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในการจัดการมูลฝอย

ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในการจัดการมูลฝอย นายมานิต เตชอภิโชค ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล กทม. เปิดเผยว่า สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลได้กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในการจัดการมูลฝอยเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทของข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานที่มีต่อการลดปริมาณมูลฝอยของกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29 ก.ค. 54 เวลา 08.30-12.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ โดยวิทยากรบรรยายประกอบด้วย พระธรรมนิเทศ (พระพยอม กลฺยาโณ) มูลนิธิวัดสวนแก้ว นายสินชัย เทียนศิริ ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัทเต็ดตราแพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด และคณะวิทยากรจากสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลพิจารณาเห็นว่า กิจกรรมดังกล่าวมีประโยชน์แก่บุคลากรและหน่วยงานต่างๆ ที่จะช่วยกันลดปริมาณมูลฝอยและลดภาวะโลกร้อนอย่างถูกวิธี จึงขอเชิญชวนทุกท่านรับฟังการบรรยายความรู้การจัดการมูลฝอย พร้อมทั้งร่วมทำบุญกับมูลนิธิวัดสวนแก้วตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว

โรงพยาบาลตากสินยืนหยัดให้บริการเปี่ยมมาตรฐานสู่ปีที่ 40

โรงพยาบาลตากสินยืนหยัดให้บริการเปี่ยมมาตรฐานสู่ปีที่ 40 (27 ก.ค. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงพยาบาลตากสินครบรอบ 39 ปี โดยมี พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ และผู้บริหารโรงพยาบาลตากสิน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด ณ ห้องประชุมลิมอักษร ชั้น 6 อาคารอำนวยการโรงพยาบาลตากสิน โดยจัดกิจกรรม ประกอบด้วย พิธีสงฆ์ บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้น และบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลฟรี 500 คน มอบของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณต่อโรงพยาบาลและบุคลากรที่เกษียณอายุราชการ มอบประกาศนียบัตร “คนดีศรีตากสิน” แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานดีเด่น และการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของบุคลากรโรงพยาบาลตากสิน ทั้งนี้ โรงพยาบาลตากสิน ผ่านการรับรองกระบวนการคุณภาพในปี 2550 และผ่านการประเมินรับรองกระบวนการคุณภาพซ้ำในปี 2553 ตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริหารสุขภาพฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน) อีกทั้งได้รับรางวัลจากการประกวด Thailand Energy Awards ของกระทรวงพลังงาน รวม 3 ประเภท ได้แก่ ผู้บริหารอาคารควบคุมดีเด่น ทีมงานด้านพลังงานอาคารควบคุมดีเด่น และอาคารควบคุมดีเด่น

กทม. ทำความเข้าใจกับข้าราชการเข้าสู่ระบบแท่ง

กทม. ทำความเข้าใจกับข้าราชการเข้าสู่ระบบแท่ง (27 ก.ค. 54) เวลา 08.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครจัดขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคลของกรุงเทพมหานครตามกฎหมายฉบับใหม่ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แก่ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับ 1-10 จากหน่วยงานและส่วนราชการในสังกัดกทม. โดยแบ่งการอบรมเป็น 3 รุ่น รุ่นที่ 1 วันที่ 27 ก.ค. รุ่นที่ 2 วันที่ 4 ส.ค. รุ่นที่ 3 วันที่ 11 ส.ค. รวมทั้งสิ้น 1,500 คน ณ โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ที่บังคับใช้มาเป็นเวลานาน เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านการบริหารงานทรัพยากรบุคคลของกรุงเทพมหานครที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 54 เนื้อหาของพระราชบัญญัติฉบับนี้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริหารทรัพยากรบุคคลของกรุงเทพมหานครหลายประการ เช่น การปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) การจัดตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร (ก.พ.ค.กรุงเทพมหานคร) การยกเลิกระบบจำแนกตำแหน่งแบบใช้ระดับร่วม 11 ระดับ (ระบบซี) และบัญชีอัตราเงินเดือนแบบขั้น โดยใช้ระบบจำแนกตำแหน่งใหม่ (ระบบแท่ง) การปรับปรุงและกระจายอำนาจของผู้บังคับบัญชาในการบรรจุและแต่งตั้ง รวมทั้งการปรับปรุงกระบวนการดำเนินการทางวินัย เป็นต้น ทั้งนี้กทม. ได้กำหนดเร่งรัดเข้าระบบจำแนกตำแหน่งใหม่หรือระบบแท่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ส.ค. 54

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กำหนดการกรุงเทพมหานคร
วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
*****************
เวลา 08.30 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระ ราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2554 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ณ ห้องราชเทวีแกรนด์บอลรูม โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี

เวลา 10.00 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงพยาบาลตากสิน ครบรอบ 39 ปี
ณ ห้องประชุม ชั้น 6 รพ.ตากสิน

เวลา 10.000 น. ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 3) ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร
เวลา 14.30 น. นางเพียงใจ วิศรุตรัตน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับและเข้ารับโล่ที่ระลึกจากองคมนตรี ในพิธีมอบรางวัลชุมชนหรือหมู่บ้านประชาธิปไตยตัวอย่าง ประจำปี 2554
ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย – ญี่ปุ่น) เขตดินแดง
เวลา 17.30 น. แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดงานจำหน่ายสินค้า “ของดี 15 เขต ฝั่งธนบุรี”
ณ ลานลิฟท์แก้ว ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 2

“ตากสินรักษ์พลังงาน ร่วมสานภาคี สดุดี 84 พรรษา พระบิดาพลังงานไทย”

ตากสินรักษ์พลังงาน ร่วมสานภาคี สดุดี 84 พรรษา พระบิดาพลังงานไทย

พญ.กิตติยา ศรีเลิศฟ้า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากสิน สำนักการแพทย์ กทม. แจ้งว่า โรงพยาบาลตากสิน ร่วมกับกลุ่มดำเนินงานจัดการทรัพยากร กำหนดจัดงานมหกรรมพลังงาน ตากสินรักษ์พลังงาน ร่วมสานภาคี สดุดี 84 พรรษา พระบิดาพลังงานไทย ระหว่างวันที่ 811 ส.ค. 54 เวลา 08.0016.00 น. ณ บริเวณหน้าอาคารอำนวยการ โรงพยาบาลตากสิน เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ประชาชนในการนำกลับไปปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำ วันแล้วยังเป็นการสร้างจิตสำนึก ในการดูแลสิ่งแวดล้อม ร่วมกันอนุรักษ์พลังงาน

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย นิทรรศการสุดยอดรางวัล ด้านพลังงานไทยระดับสากลจากการประกวด Thailand Energy Awards 2011 นิทรรศการความรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานรูปแบบต่างๆ อาทิเช่น การประหยัดไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง คำแนะนำวิธีการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า เลือกซื้อสินค้าประหยัดพลังงานจากบริษัทต่างๆ ที่นำมาจำหน่ายในราคาถูก สินค้า OTOP จากชุมชนต่างๆ ในเขตพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี การประกวด Miss and Mr.Energy หรือ Miss and Mr.รีไซเคิล แจกกล้าพันธุ์ไม้ไปปลูกเพื่อลดโลกร้อน แจกน้ำหมักชีวภาพ แจกเตาประหยัดพลังงาน และของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย แก่ผู้ป่วยที่มาใช้บริการและร่วมชมนิทรรศการ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ในวันเวลา ดังกล่าว