(18 ส.ค. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เทศกิจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ท้องสนามหลวง หลังจากเปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค 54 พร้อมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจ อำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการที่สนามหลวงจำนวน 80
ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ดีใจที่ท้องสนามหลวงกลับมามีความสวยงามและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนอีกครั้ง เพราะสนามหลวงเป็นสาธารณสมบัติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยรักษาสาธารณสมบัติของชาติไว้ สำหรับเรื่องรักษาความสะอาด กรุงเทพมหานครขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้พื้นที่สนามหลวงเพื่อพักผ่อนหย่อนใจช่วยกันรักษาความสะอาด ทิ้งขยะในถังขยะที่กรุงเทพมหานครจัดไว้โดยรอบสนามหลวงประมาณ 150 จุด เพื่อความสะอาดสวยงาม โดยหลังจากนี้ กรุงเทพมหานครจะร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลในการดูแลท้องสนามหลวง ให้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจที่มีความปลอดภัยอีกด้วย นอกจากนี้ผู้ว่าฯ กทม. ได้เล่นว่าวที่ถูกทำขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งว่าวดังกล่าวเป็นว่าวงูหางยาวสีเขียว เขียนข้อความ "ทิ้ง จับ ปรับ 100 บาท หรือบำเพ็ญประโยชน์" เพื่อเป็นการรณรงค์ห้ามทิ้งขยะ ในพื้นที่และเป็นกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจที่สร้างความสุขในท้องสนามหลวง โดยมีนายปริญญา สุขชิต หรือ "ซูเปอร์เป็ด" อุปนายกสมาคมกีฬาไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานสภาวัฒนธรรมเขตดุสิต แนะนำวิธีเล่นอย่างใกล้ชิด
กทม. ใช้มาตรการ ทิ้ง-จับ-ปรับ บริเวณสนามหลวงอย่างจริงจัง
สำหรับนโยบาย “ทิ้ง-จับ-ปรับ” เพื่อให้สนามหลวงอยู่ในสภาพที่สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม กรุงเทพมหานครมีมาตรการใหม่ หากผู้กระทำผิดทิ้งขยะในบริเวณท้องสนามหลวง ต้องโทษปรับ ไม่เกิน 2,000 บาท(ขั้นต่ำ 1,000 บาท) หากไม่มีเงินชำระค่าปรับสามารถทำงานบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะชนแทนค่าปรับได้ โดยจะเริ่มต้นมาตรการใหม่นี้ที่สนามหลวง เขตพระนคร และขยายไปทุกเขตของกทม. ต่อไป
เปิดเส้นทางสัญจรผ่านถนนกลางสนามหลวง 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขอใช้พื้นที่ ท้องสนามหลวงเพื่อจัดกิจกรรม พ.ศ. 2543 ซึ่งเบื้องต้นเห็นชอบให้ประชาชนทั่วไปเข้าใช้พื้นที่ท้องสนามหลวง เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจหรือนันทนาการได้ตามปกติ แต่ห้ามนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย จอดรถหรืออาศัยเป็นที่นอน โดยจะเปิดให้ใช้พื้นที่ในระหว่างเวลา 05.00–22.00 น. นอกจากนี้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านถนนเส้นกลาง ซึ่งเชื่อมจากฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปยังศาลฏีกา ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น