ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คกก.พิจารณางบประมาณกทม. ปี 55 กระตุ้นสำนักระบายน้ำรับมือพายุนกเตน เร่งเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมจุดเสี่ยง

คกก.วิสามัญ พิจารณางบประมาณปี 55 กระตุ้นสำนักระบายน้ำ เสริมแนวป้องกันน้ำท่วมจุดเสี่ยง รับมือพายุโซนร้อนนกเตน พร้อมแนะสำนักเทศกิจ จัดระเบียบหาบเร่แผงลอยและดำเนินการเอาผิดผู้ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจัง พร้อมควรประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบในแนวทางปฏิบัติงาน

(2 สค. 54) นายกิตพล เชิดชูกิจกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตประเวศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยมีหน่วยงานที่เข้ารับการพิจารณาดังนี้ สำนักการระบายน้ำ สำนักเทศกิจ โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานคร

กระตุ้นสำนักระบายน้ำเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมจุดเสี่ยง รับมือพายุโซนร้อนนกเตน

ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตสำนักการระบายน้ำถึงสถานการณ์น้ำท่วมจุดเสี่ยงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นผลกระทบจากพายุโซนร้อนนกเตน ทำให้มีฝนตกเกือบตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นและบางจุดมีประชาชนรื้อถุงทรายที่เป็นแนวป้องกันน้ำท่วมส่งผลให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งควรเตรียมแผนป้องกันน้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน โดยการเสริมแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีประชาชนพักอาศัยอยู่จำนวนมาก และเกิดผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมทุกปี ทั้งควรจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที พร้อมทั้งเสริมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ และเตรียมความพร้อมสำหรับอุปกรณ์ในการป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการบำรุงรักษาประตูระบายให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนะสำนักเทศกิจจัดระเบียบและดำเนินการเอาผิดผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย

ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ ตั้งข้อสังเกตถึงสำนักเทศกิจ เรื่องผู้ค้าริมถนนที่ผิดกฎระเบียบ โดยขอให้ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจกำชับไปยังเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 เขต ดำเนินการเอาผิดผู้ฝ่าฝืน เนื่องจากพบว่าบางส่วนยังมีผู้ค้ากระทำผิดตั้งร้านนอกจุดผ่อนผัน ตามกฎหมาย รวมทั้งปรับหรือรื้อถอนตู้โทรศัพท์สาธารณะดัดแปลงและแฝงโฆษณาเข้าข่ายผิดกฎหมายในพื้นที่ต่างๆ โดยที่ผ่านมาการจับปรับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อาทิ ค้าขายบนริมทางเท้าสาธารณะ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรักษาความสะอาด พ.ศ. 2535 เนื่องจากเจ้าหน้าที่เทศกิจต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนและทำสำนวนก่อน จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติงาน ควรแก้ไขระเบียบเพื่อเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถสอบสวนได้เองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อีกทั้งผู้บริหารควรพิจารณาจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันตัว อาทิ เสื้อเกราะอ่อน เพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในขณะเผชิญเหตุ ทั้งนี้สภากรุงเทพมหานครมีนโยบายในการตรวจเยี่ยมและพูดคุยแบบไม่เป็นทางการร่วมกับหน่วยงานกรุงเทพมหานครเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการดำเนินงาน ซึ่งจะนำไปประชุมร่วมกับผู้บริหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป นอกจากการแก้ไขปัญหาแต่ละครั้งควรประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบถึงแนวทางปฏิบัติงาน และออกประกาศเตือนอย่างเป็นระบบขั้นตอน หากยังมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ควรดำเนินการใช้กฎหมายให้เด็ดขาดอีกด้วย พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานนำเอกสารมาเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาในรายละเอียดต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น