ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แนะผู้บริหารทำประชาพิจารณ์ก่อนสร้างเตาเผาขยะ พร้อมจี้สร้างห้องสมุดกทม. ให้พอกับความต้องการ

คกก.วิสามัญ พิจารณางบประมาณปี 55 ติงผู้บริหารทำงานล่าช้า จี้เร่งสร้างห้องสมุดกทม. ให้พอกับความต้องการประชาชน พร้อมแนะควรทำประชาพิจารณ์สำรวจผลกระทบก่อนสร้างเตาเผาขยะ หวั่นโครงการพังสูญเสียงบประมาณภายหลัง รวมทั้งควรว่าจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาดำเนินงานด้านโยธา

(2 สค. 54) นายกิตพล เชิดชูกิจกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตประเวศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 โดยมีหน่วยงานที่เข้ารับการพิจารณาดังนี้ สำนักเทศกิจ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว สำนักการโยธา โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานคร

แนะทำประชาพิจารณ์สำรวจผลกระทบก่อนสร้างเตาเผาขยะ

ที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตสำนักสิ่งแวดล้อม ในการเสนอของบประมาณควรให้ความสำคัญก่อนหลังในการแก้ไขปัญหา โดยปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมากอยู่ในพื้นที่ต่างๆ จำเป็นจะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ตัดแต่งต้นไม้ เพื่อให้เกิดความสวยงามและเป็นการป้องกันอุบัติเหตุจากการหักโค่นจากกิ่งไม้ตามธรรมชาติ ซึ่งสร้างปัญหากับรถยนต์และประชาชนที่สัญจรไปมา ควรแก้ไขด้วยการใช้รถกระเช้าเข้าช่วยในการแก้ไขตัดแต่งกิ่งไม้ ทั้งนี้ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมได้ชี้แจงว่าขณะนี้ได้จัดซื้อรถกระเช้าครบทุกสำนักงานเขตแล้ว นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังได้แนะนำให้สำนักสิ่งแวดล้อม เร่งดำเนินการสำรวจเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว บึงรับน้ำของกรุงเทพมหานครที่มีอยู่แล้วมาดำเนินการ อาทิ พื้นที่ในเขตฝั่งตะวันออกของกทม. บึงกระเทียม ถ.เสรีไทย บริเวณวัดบำเพ็ญเหนือ บึงสะแกงาม 3 เดือน เพื่อให้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มมากขึ้นตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกต ถึงเรื่องโครงการเตาเผาขยะของสำนักสิ่งแวดล้อมควรทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับทราบความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ก่อนดำเนินการของบประมาณ เพื่อนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติจะได้ไม่ถูกประท้วงภายหลัง ซึ่งหากดำเนินการไปจะทำให้สูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

จี้สร้างห้องสมุดให้พอกับความต้องการ ทั้งควรว่าจ้างบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาดำเนินงานด้านโยธา

นอกจากนี้ในส่วนของสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว คณะกรรมการฯได้ตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินการสร้างห้องสมุดในพื้นที่ต่างๆ ควรให้ความสำคัญเพราะเป็นแหล่งความรู้ของเยาวชน รวมทั้งในพื้นที่เขตบึงกุ่มมีห้องสมุดเพียง 1 แห่ง ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งในพื้นที่เขตสายไหมมีผู้บริจาคที่ดินเอกชนเพื่อให้กรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณดำเนินการแต่พบว่าก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ผู้บริหารควรเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้ ในส่วน อาคารกีฬาเวสน์ 1 ของศูนย์เยาวชน ไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเสียงก้องและสะท้อน ควรเร่งดำเนินการหาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเสียงและปรับปรุงเพื่อให้รองรับกับปริมาณการใช้งานในปัจจุบัน

พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการดำเนินของสำนักการโยธา ควรมีมาตรการลงโทษบริษัทผู้รับเหมาที่เคยตกลงว่าจ้างทำงาน แต่ภายหลังประสบปัญหาวัสดุ และผลงานไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สูญเสียงบประมาณในการปรับปรุงเพิ่ม ควรจัดทำบัญชี Black List เพื่อลงโทษบริษัทที่ทำให้กทม. เสียหาย ไม่ให้เข้าร่วมในการประมูลงานของกรุงเทพมหานครในคราวต่อไป อีกทั้งควรว่าจ้างบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถและเป็นมืออาชีพเพื่อช่วยควบคุมการก่อสร้างให้ดำเนินงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และได้มาตรฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นการรองรับกับปริมาณที่เพิ่มขึ้นในการขยายตัวของกรุงเทพมหานครในอนาคต ทั้งนี้ผู้บริหารควรให้ความสำคัญในการดำเนินโครงการที่จะสามารถแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในอนาคต อีกทั้งสำนักการโยธาถือเป็นหน่วยงานที่เป็นองค์กรหลักในการพัฒนาโครงสร้าง และการจัดการเมืองให้น่าอยู่และเป็นระเบียบสวยงาม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการบริการประชาชนให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการใช้ชีวิตอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น