ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กทม. พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตร่วมกับช้าง

กทม. พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตร่วมกับช้าง

(29 ส.ค. 54) ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงผลดำเนินการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนที่มีผู้ฝ่าฝืนนำช้างเข้ามาหาราย ได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและตามบริเวณรอยต่อจังหวัดปริมณฑล พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือและแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่และควานช้างจาก สถาบันคชบาลแห่งชาติที่ได้มีส่วนร่วมในการจับช้างเรร่อนในพื้นที่กรุงเทพมหา นครและปริมณฑล โดยมี น.สพ.ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ รักษาการหัวหน้างานควบคุมและจัดการช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ เป็นผู้แทนจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ

รอง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวแสดงความขอบคุณสถาบันคชบาลแห่งชาติ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมการจับช้างเร่ร่อนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล พร้อมทั้งขอบคุณศูนย์อนุรักษ์จังหวัดกาญจนบุรีที่ให้พื้นที่สำหรับเป็นที่ พักพิงช้าง ซึ่งกรุงเทพมหานครพร้อมให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือเรื่องค่าเลี้ยงดูช้าง แก่ศูนย์พักพิงช้างที่ให้การสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการจับช้างเร่ร่อน ซึ่งช้างจะมีแต่ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 10,000–20,000 บาทต่อเชือก นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะมีโครงการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรมเรียนรู้การดูแลช้างและการจับช้างอย่างถูกวิธี เพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างถูกต้องและไม่ให้เป็นอันตรายต่อช้างอีกด้วย ขณะเดียวกันในการแก้ไขปัญหาระยะยาว กรุงเทพมหานครจะร่วมกับนายกเทศมนตรีจังหวัดสุรินทร์ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้วยวิธีการสร้างโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวใช้ชีวิตร่วมกับช้างและเรียนรู้วิถีช้าง เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ถูกต้องในการอยู่ร่วมกับช้าง รวมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้เจ้าของช้าง โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเข้าพบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว

ด้านรักษาการหัวหน้าควบคุมช้างและจัดการช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาการจับเจ้าของช้างเร่ร่อนเกิดขึ้นซ้ำซาก เนื่องจากผู้ที่กระทำผิดส่วนมากเป็นคนที่เคยโดนจับมาแล้ว เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีอาชีพอื่นรองรับ อีกทั้งค่าดูแลช้างในแต่ละเดือนค่อนข้างสูง จึงต้องเอาช้างออกมาเร่ร่อนเพื่อหาเงินอีก นอกจากนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากกฎหมายในการควบคุมหรือจัดการเรื่องช้างยังไม่เข้มงวดและจริงจังพอ จึงอยากให้หน่วยงานต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล อีกทั้งต้องการให้ออกกฎหมายเพื่อควบคุมในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดด้วย สำหรับศูนย์อนุรักษ์ช้างที่จังหวัดกาญจนบุรีเริ่มมีจำนวนช้างแออัดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางสถาบันคชบาลแห่งชาติกำลังดำเนินการปรับปรุงศูนย์อนุรักษ์ช้างที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อช่วยในการรองรับช้างเร่ร่อนอีกแห่งหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น