(24 ส.ค. 54) เวลา 09.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมแผยแพร่ภูมิปัญญาผู้สูงอายุกรุงเทพมหานคร พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณภูมิปัญญาผู้สูงอายุแก่ผู้สูงอายุจาก 50 เขต โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้สูงอายุ ประชาชน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตรวม 520 คน ร่วมกิจกรรม ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือภูมิปัญญาไทยของผู้สูงอายุ รวมถึงเป็นการส่งเสริมคุณค่าของผู้สูงอายุ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุที่เป็นเจ้าของภูมิปัญญาได้เผยแพร่ความรู้ที่ได้คิดค้นและสิ่งอันเป็นประโยชน์สู่สาธารณชน อีกทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสร้างทางเลือกในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เพื่อนำพาสังคมไทยสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเด็ก เยาวชน สังคม และประเทศชาติ กิจกรรมในงาน ประกอบด้วย การมอบโล่ประกาศเกียรติคุณภูมิปัญญาผู้สูงอายุด้านต่างๆ อาทิ อาหาร หัตถกรรม สาธารณสุข ภาษาและวรรณกรรม เกษตรกรรม พิธีกรรม การประดิษฐ์ การจัดแสดงและให้ความรู้ภูมิปัญญาของผู้สูงอายุจากสำนักงานเขต 50 เขต เช่น ผลิตภัณฑ์สร้อยข้อมือทำจากลูกปัด กระเป๋าสาน ต้นไม้ ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายในการเสริมสร้างให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งความสุข และเข้มแข็ง ดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ซึ่งผู้สูงอายุถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า เป็นคลังแห่งภูมิปัญญาที่สั่งสมประสบการณ์ และถ่ายทอดความรู้ในเชิงศาสตร์ ศิลป์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และศิลปวัฒนธรรมอันดีงามสู่ชนรุ่นหลัง กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องเสมอมาด้วยการมุ่งเน้นและสนับสนุนการจัดกิจกรรมพร้อมบริการด้านต่างๆ ให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงบริการได้ทั่วถึงครอบคลุม โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขมุ่งเน้นการบริการที่มีคุณภาพด้วยการจัดช่องทางพิเศษสำหรับผู้สูงอายุในการรับบริการการตรวจรักษาโรคในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุขสังกัดกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร มีนโยบายจัดสร้างศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เพื่อให้บริการด้านการแพทย์แก่ผู้สูงอายุอย่างครบวงจร และให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของศูนย์ผู้สูงอายุ และชมรมผู้สูงอายุเพื่อให้สามารถดูแล ช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น