จุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างบีอาร์ทีกับบีทีเอส ในวงเงินกว่า 190 ล้านบาท กำลังเดินหน้าเต็มที่ ขณะนี้คืบแล้วร้อยละ 70 คาดเสร็จเปิดใช้ได้กลางเดือน ธ.ค.53 และเปิดอย่างเป็นทางการในวันเด็กปีหน้า พร้อมมอบ สจส.ศึกษาทางเดินเชื่อมการเดินทางลอยฟ้าไปยังสวนลุมพินีระยะทาง 1 กม. นอกนั้นยังศึกษาเส้นทางบีอาร์ทีอีก 2 เส้นทางเชื่อมศูนย์กีฬาฟุตซอลโลกในปี 55
16 พ.ย. 53 ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างจุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส กับรถประจำทางด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) บริเวณแยกสาทร-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ในวงเงินงบประมาณ 190 ล้านบาท โดยพบว่าขณะนี้โครงการมีความก้าวหน้า 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางเดือน ธ.ค. นี้
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับจุดเชื่อมต่อมีพื้นที่ลานเอนกประสงค์ ขนาด 1 ไร่ สามารถใช้ทำกิจกรรมและเต้นแอโรบิกได้ โดยกทม. ตั้งเป้าที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2554 พร้อมกันนี้ได้มอบให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ศึกษาการก่อสร้างทางเดินลอยฟ้า (Sky walk) จากจุดเชื่อมต่อดังกล่าวไปถึงสวนลุมพินี ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร งบประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยให้ศึกษาแนวทางเบื้องต้นว่า กทม.จะลงทุนเองแล้วหารายได้จากการเอกชนขอเชื่อมทางเดินเข้าระบบ หรือหาเอกชนร่วมลงทุน
ดร.ธีระชน กล่าวอีกว่า จะมีการหารือกับ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด วิสาหกิจของกทม. ศึกษาแนวทางและความเป็นไปได้ในการก่อสร้างรถบีอาร์ที อีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม สุวินทวงศ์-หนองจอก-มีนบุรี และสายฉลองกรุง-แอร์พอร์ตลิงก์ เบื้องต้นจะให้มีโครงสร้างแบบทางยกระดับ ไม่ให้มีผลกระทบกินช่องจราจร ทั้งนี้เพื่อรองรับการที่กทม. จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก พ.ศ. 2555 (FIFA FUTSAL WORLD CUP 2012) นอกจากนี้ตนจะได้สั่งการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย (สพอ.) กทม. ศึกษาการสร้างเมืองขนาดใหญ่ในพื้นที่เขตหนองจอก โดยให้สำรวจหาพื้นที่ว่างเปล่า 200-300 ไร่ เพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ที่อยู่อาศัย มหาวิทยาลัยแห่งใหม่ของกทม. ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กทม. พิจารณาหาแนวทางการพัฒนาระบบขนส่งรอง เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว
นอกจากนั้นจะประชุมร่วมกับทาง บ.กรุงเทพธนาคมฯ เพื่อดูว่าสามารถมอบหมายภารกิจการก่อสร้างสนามฟุตซอล เพราะหากกทม. เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสนามเอง จะต้องนำเรื่องเสนอ ครม. เห็นชอบอีก ซึ่งจะต้องผ่านหลายขั้นตอนทำให้เสียเวลาและอาจทำให้การก่อสร้างสนามฟุตซอลไม่ทันการ ดังนั้นกทม. อาจจะมอบหมายให้ทางกรุงเทพธนาคมฯ เข้ามาดำเนินการเพื่อลดขั้นตอน และก่อให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น