ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เปิดประตูระบายน้ำทุกบานในกรุงเทพรับน้ำจากปทุมธานีและนนทบุรีลงเจ้าพระยา

กทม. ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมปทุมธานีและนนทบุรี เปิดประตูระบบระบายน้ำทุกบานในพื้นที่กรุงเทพฯ เร่งระบายน้ำลงคลองและลงแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งจากฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก อีกทั้งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลากอีกครั้งในวันที่ 5-8 พ.ย. 53 ด้วย ซึ่งจะเป็นวันที่มีระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดอีกรอบ

1 พ.ย. 53 ศาลาว่าการกทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครสามารถดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ จากสถานการณ์น้ำที่ผ่านมาได้อย่างดี ประชาชนได้รับผลกระทบไม่มากนัก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ กรุงเทพฯ ที่ต้องรับน้ำจากน้ำหลากจากทางด้านเหนือ ซึ่งเวลานับจากนี้สถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ น่าจะคลี่คลายลง จึงเปิดประตูระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมด เพื่อรับน้ำเข้าสู่ระบบระบายน้ำของกทม. เพื่อลดระดับน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนนทบุรี

ทั้งนี้การเปิดประตูระบายน้ำของกทม. จะเป็นการเพิ่มแนวคันกั้นน้ำช่วยเร่งระบายน้ำในจังหวัดปริมณฑลผ่านพื้นที่กรุงเทพฯ ทางด้านตะวันออกที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบมีนบุรี และประตูระบายน้ำลาดกระบังผ่านคลองแสนแสบ และคลองประเวศบุรีรมย์ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาทางสถานีสูบน้ำอุโมงค์คลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบ และที่สถานีสูบน้ำพระโขนง ทางด้านตะวันตกที่ประตูระบายน้ำทวีวัฒนาผ่านคลองทวีวัฒนาและคลองภาษีเจริญลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีสูบน้ำคลองชักพระ สถานีสูบน้ำคลองมอญ สถานีสูบน้ำคลองบางกอกใหญ่ และสถานีสูบน้ำคลองดาวคะนอง และจะเปิดประตูระบายน้ำของกทม. ทุกบานช่วยเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มเปิดตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นอกจากนั้นยังต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลากอีกครั้งในวันที่ 5-8 พ.ย. 53 ด้วย ซึ่งจะเป็นวันที่มีระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดอีกรอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น