สนอ. สำรวจสุขลักษณะที่เลี้ยงสัตว์ปีกเฝ้าระวังไข้หวัดนกต่อเนื่อง
พญ.มนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เปิดเผยว่า สำนักอนามัยได้ดำเนินการสำรวจสุขลักษณะสถานที่เลี้ยงสัตว์ปีกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต พบว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีสถานที่เลี้ยงสัตว์ปีกที่เป็นการค้าและเลี้ยงเพื่องานอดิเรก จำนวน 623 แห่ง โดยพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกมากที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ พื้นที่เขตหนองจอก มีนบุรี และเขตบางบอน ส่วนประเภทสัตว์ปีกที่เลี้ยงจำนวนมากที่สุด ได้แก่ ไก่ ร้อยละ 91.78 รองลงมา คือ เป็ด นก และสัตว์ปีกอื่นๆ ตามลำดับ สำหรับผลการสำรวจสุขลักษณะสถานที่เลี้ยงสัตว์ปีกในประเด็นต่างๆ ได้แก่ สถานที่ตั้งและโรงเรือน น้ำดื่มสำหรับสัตว์ การจัดการของเสีย ห้องส้วม การป้องกันเชื้อโรค และการอาชีวอนามัยพนักงาน พบว่า ประเด็นสุขลักษณะด้านสถานที่ตั้งและโรงเรือน และด้านน้ำดื่มสำหรับสัตว์ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี มากกว่าร้อยละ 70 ปัญหาสำคัญที่ผู้ประกอบการและผู้เลี้ยงสัตว์ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกเป็นจำนวนมากต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข คือ การจัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสีย เช่น บ่อเกรอะ บ่อซึมที่ถูกสุขลักษณะ เป็นต้น การจัดให้มีระบบการฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าสู่พื้นที่เลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันโรคจากภายนอกเข้าสู่โรงเรือนสัตว์ การจัดให้มีหรือซ่อมบำรุงอุปกรณ์ เครื่องพ่นฆ่าเชื้อโรคให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพนักงานต้องสวมชุดปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับลักษณะงาน ได้แก่ การสวมหน้ากาก ถุงมือ รองเท้าบูท ขณะปฏิบัติงาน
ทั้งนี้แม้สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในคนของกรุงเทพมหานคร ปี 2549 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าพบผู้ป่วยจาก โรคไข้หวัดนก แต่กทม. ยังคงเฝ้าระวัง รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการและประชาชนผู้เลี้ยงสัตว์ปีกเข้มงวดและเพิ่มมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงสถานที่เลี้ยงสัตว์ให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไข้หวัดนกที่อาจเกิดขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น