ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

เปิดโอกาสผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรตามมาตรฐานเครื่องหมาย Q

เปิดโอกาสผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรตามมาตรฐานเครื่องหมาย Q

(2 ก.ย. 54) เวลา 13.00 น. นางเพียงใจ วิศรุตรัตน รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต้อนรับนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพิธีเปิดงาน เส้นทางสุขภาพกับเครื่องหมาย Q” ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดขึ้น ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. ระหว่างวันที่ 2–4 ก.ย. 54 ตั้งแต่เวลา 09.00–20.00 น. เพื่อเป็นการเปิดตลาดให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยตามมาตรฐานเครื่องหมาย Q โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย นิทรรศการ Food Safeety และการให้การรับรองคุณภาพและเครื่องหมาย Q การออกร้านจำหน่ายสินค้า Q และสินค้าเกษตร รวมถึงการบรรยายพิเศษเรื่องของสุขภาพ และความปลอดภัยจากการบริโภคสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนการสาธิตการประกอบการด้วยวัตถุดิบทางการเกษตรที่ปลอดภัยโดยศิลปินนักแสดง อาทิ สุนิสา เจทท์ และรวิทญ์ เทิดวงศ์

สำหรับสินค้าเกษตรที่ได้รับเครื่องหมาย Q ต้องผ่านการดำเนินการ ดังนี้ กระบวนการแรก คือ การผลิตตั้งแต่การปลูก หรือการเลี้ยง ดังนั้นในกระบวนการผลิตผู้ผลิตต้องมีระบบการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี หรือเรียกว่า Good Agriculture Practices (GAP) หรือมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ (Organic) กรณีผลิตอาหารก็ต้องมีหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร หรือเรียกว่า Good Manufacturing Practice (GMP) และมีระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม กระบวนการที่สอง คือ กระบวนการรับรองสินค้าเกษตร เป็นการตรวจสอบวิเคราะห์และทรดสอบว่าสินค้าเกษตรนั้นเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดหรือไม่

โดยเครื่องหมายรับรองฯ มี 2 แบบ ได้แก่ แบบที่ 1 ป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานบังคับใช้แสดงกับสินค้าเกษตรที่ได้ ใบรับรองมาตรฐานบังคับ โดยผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ จะต้องแสดงเครื่องหมายรับรองตามมาตรฐานบังคับก่อนนำออกจากสถานที่ผลิต หรือก่อนนำเข้ามาเพื่อจำหน่าย แบบที่ 2 เครื่องหมายรับรองทั่วไป ใช้แสดงกับสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานทั่วไปเพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรและจำหน่ายสินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภคและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น