(12 ก.ย. 54) เวลา 13.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณชุมชนท่าเตียน เขตพระนคร ถนนฉิมพลี เขตตลิ่งชัน และเคหะชุมชนฉลองกรุง เขตหนองจอก เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมทั้งแจกยาเวชภัณฑ์ให้กับประชาชนในบริเวณดังกล่าว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในเขตตลิ่งชันซึ่งวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงสุดถึง 149 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ประกอบกับปริมาณน้ำเหนือ และช่วงฤดูมรสุมที่ยังมีต่อเนื่องอีกประมาณ 2 เดือน ทำให้กรุงเทพมหานครต้องเตรียมรับมืออย่างเต็มที่และระมัดระวังเป็นพิเศษ ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยาที่เดิมมีความยาวรวม 77 กิโลเมตร ได้สั่งให้ก่อสร้างเพิ่มเติมอีก 7 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณท่าเตียนคือหนึ่งในพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มขึ้นใหม่ แต่ขณะนี้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เพราะยังมีประชาชนรุกล้ำในพื้นที่สาธารณ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปีนี้ก่อนถึงฤดูฝนในปีหน้า ดังนั้นพื้นที่ท่าเตียนและท่าพระจันทร์จะปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม เพราะว่าแนวป้องกันน้ำท่วมที่จะสร้างสามารถรองรับน้ำได้ระดับความสูง 2.5 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้สำนักงานเขตทุกเขตเร่งสำรวจพื้นที่ที่ประสบปัญหาพร้อมวางแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งกรุงเทพมหานครเตรียมของบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ปัญหาในส่วนต่างๆ นอกจากนี้ยังเร่งการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ส่งน้ำทั้ง 4 แห่ง คาดว่าส่วนของอุโมงค์คลองบางซื่อจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงปลายปีนี้
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า เราต้องยึดเป็นสมมุติฐานว่าจากนี้สภาพอากาศจะเป็นเช่นนี้ทุกปี ฝนที่ตกหนักในปีนี้ จะหวังว่าในปีหน้าจะตกน้อยกว่านี้ไม่ได้ เพราะอาจจะตกมากกว่านี้ด้วยซ้ำ เราควรจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เมื่อฝนตกหนักทำให้เราทราบว่าพื้นที่ในเขตใดที่ได้รับผลกระทบ เราจะได้เร่งแก้ปัญหาให้ถูกจุด พร้อมทั้งให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในพื้นที่ที่อยู่นอกแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วม รวมถึงพื้นที่กรุงเทพตะวันตกและยังเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพตะวันออกมากที่สุด เพราะยังเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น