ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

สถานการณ์น้ำยังน่าห่วง กทม. ระดมกำลังทุกภาคส่วนร่วมป้องกัน

(19 ก.ย. 54) ณ ศาลาว่าการกทม. : นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 30/2554 ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังและสถานการณ์น้ำที่ยังคงวิกฤติในขณะนี้ว่า มีพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ อาทิ มีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วม ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กำชับให้ทุกสำนักงานเขตในพื้นที่จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันน้ำ เช่น เครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย แนวคันกั้นน้ำ ไว้สำหรับป้องกันพื้นที่เสี่ยงอย่างพอเพียง พร้อมทั้งจัดสรรงบฉุกเฉิน จำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมถึงจ้างหน่วยงานทหารพัฒนาดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ ถนน และคูคลองในจุดที่มีน้ำท่วมขังอยู่เสมอ

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้อำนวยความสะดวกแก่นักเรียนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปลายภาคของนักเรียน ในส่วนของสำนักการโยธาได้จัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับให้การช่วยเหลือประชาชน เช่น เครื่องยก และเครื่องกลหนัก สำหรับหน่วยงานสังกัด กรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำก็ได้ประสานการทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมขังเป็นไปอย่างมีระบบและเป็นรูปธรรม

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากในช่วงวันที่ 20–24 ก.ย. 54 นี้ มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และกรุงเทพฯ อาจส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ปริมาณฝนสูงถึง 1,787 มิลลิเมตร สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 46.4สำหรับปริมาณน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยา-พระราม 6 อยู่ที่ 4,129ลูกบาศก์เมตร/วินาที และปริมาณน้ำเฉลี่ยที่บางไทร อยู่ที่ 3,124ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในส่วนของระดับน้ำในเขื่อนปีนี้สูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยระดับน้ำในเขื่อนภูมิพลฯ จากเดิม 43% เพิ่มขึ้นเป็น 88%เขื่อนสิริกิติฯจากเดิม 74% เพิ่มขึ้นเป็น 96% และเขื่อนป่าสักฯ จากเดิม 71% เพิ่มขึ้นเป็น 111.82%

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำได้ที่ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กองสารสนเทศระบายน้ำ โทรศัพท์ 0 2248 5115 โทรสาร 0 2248 8012 หรือทางสายด่วน กทม. โทร . 1555 และทางเว็บไซต์ http://dds.bangkok.go.th,www.twitter.com/BKK_BEST และwww.facebook.com/BKK.BEST

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น