ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เดินหน้าโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ให้โรงเรียนในสังกัดกทม.

(27 มิ.ย. 54) เวลา 09.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีส่งมอบห้องเรียนคอมพิวเตอร์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ตามโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ ให้กับโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 436 โรงเรียน โดยมีดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ โรงเรียนนาหลวง เขตทุ่งครุ

กรุงเทพมหานครดำเนินการโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา ระยะที่ 1 และ 2 ปรากฏว่าการดำเนินการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนประสบปัญหาเนื่องจากจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องคอมพิวเตอร์ไม่เพียงพอกับการใช้ของนักเรียน คือ นักเรียน 2 คน ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในการจัดการเรียนการสอนของครู จากปัญหาดังกล่าวกรุงเทพมหานครได้พยายามแก้ปัญหามาโดยตลอด โดยได้จัดโครงการเช่าระบบและพัฒนาห้องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ อนุมัติงบประมาณ 939 ล้านบาท ให้สำนักการศึกษาดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์และเนื้องานที่สำคัญ คือ กำหนดให้นักเรียนสามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอน 1 คน ต่อ1 เครื่อง จัดให้มีการฝึกอบรมความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ตลอด 4 ปี จัดให้มีการพัฒนาระบบ e-Learning ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จัดให้มีศูนย์ฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ สำหรับพัฒนาความรู้ด้าน IT ของครูและบุคลากรในสังกัดกรุงเทพมหานคร และจัดให้มีศูนย์ควบคุมระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย 1 แห่ง

ปัจจุบันโครงการดังกล่าว ได้มีการดำเนินการประมูลและลงนามในสัญญาเรียบร้อยแล้ว และผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการจัดทำห้องคอมพิวเตอร์ให้แล้วเสร็จ ภายใน 150 วันนับจากนี้ ปัจจุบันผู้ชนะการประมูลได้จัดทำห้องคอมพิวเตอร์ต้นแบบจำแนกตามกลุ่มเขต ให้กรุงเทพมหานครพิจารณาเรียบร้อยแล้ว โดยห้องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน สามารถรองรับเทคโนโลยีด้านการเรียนการสอนได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับนักเรียนและครู จำนวน 41 เครื่อง ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายด้วยระบบ LANภายในห้องมีโต๊ะ เก้าอี้ ครบตามจำนวนผู้ใช้ 1 คน ต่อ 1 เครื่อง มีระบบเครื่องเสียง เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ เครื่องพิมพ์แบบหมึกพ่น (Inkjet Printer) เครื่องกราดภาพ (Scanner) และเครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) เป็นต้น นอกจากนั้นโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน และครู ยังเป็นโปรแกรมรุ่นล่าสุดของไมโครซอฟต์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั่วไป ได้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ Window 7 และโปรแกรมประยุกต์Microsoft Office 2010 Professional Plus เป็นต้น

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ห้องเรียนคอมพิวเตอร์เป็นความหวังและความต้องการของโรงเรียน ครู และนักเรียน เพื่อใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และเชี่ยวชาญในการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับวิทยาการสมัยใหม่โดยขอยืนยันว่าจากนี้ไปอีกไม่เกิน 150 วัน ทุกโรงเรียนของกทม. จะมีห้องเรียนคอมพิวเตอร์พร้อมโปรแกรมที่ทันสมัยสมบูรณ์แบบครบทุกโรงเรียน และขอให้ครูและนักเรียนใช้ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด พัฒนาด้านการเรียนรู้และมีความเป็นเลิศในการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ต่อไปในอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น