ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง

กทม.ต่อยอด Read on the Move บนรถเมล์ทั่วกรุง

กทม.จับมือ ขสมก. เปิดตัวโครงการ Read on the Move จุดอ่านหนังสือบนรถเมล์ นำร่องใน 9 สาย 108 คัน เพื่อผลักดันโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน และใช้เวลาว่างระหว่างเดินทางอย่างเป็นประโยชน์

(28 ก.ค.54) นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดโครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. หรือจุดอ่านหนังสือบนรถประจำทาง พร้อมปล่อยขบวนรถโดยสารประจำทางนำร่อง 9 สาย โดยมีนายวิรัตน์ โชคคติวัฒน์ รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ เขตการเดินรถที่ 1 (อู่บางเขน) ถนนพหลโยธิน

โครงการ “Read on the Move” กลุ่มภาคี ขสมก. เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก 2556 (Bangkok World Book Capital 2013) ซึ่งกรุงเทพมหานครมุ่งเน้นให้ชาวกรุงเทพฯ เข้าถึงการอ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในขณะเดินทางซึ่งทุกวันนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเสียเวลาอันมีค่าอยู่บนท้องถนน เพื่อเดินทางไปในที่ต่างๆ กรุงเทพมหานครจึงจัดหนังสือและนิตยสารไว้ประจำรถโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าและประตูหลังของรถ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้เวลาว่างอย่างมีประโยชน์ ซึ่งในเบื้องต้น ขสมก.ได้นำร่องโครงการฯ ในรถประจำทางปรับอากาศ จำนวน 9 สายๆ ละ 12 คัน รวม 108 คัน ได้แก่ สาย4 (ท่าเรือคลองเตย – ท่าน้ำภาษีเจริญ), สาย16 (ประชาชื่น – สุรวงศ์), สาย21 (วัดคู่สร้าง – จุฬาฯ), สาย543 (อู่บางเขน – ลำลูกกา), สาย510 (ม.ธ.ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ),สาย60 (มีนบุรี – ปากคลองตลาด), สาย77 (เซ็นทรัลพระราม3 – หมอชิต), สาย129 (อู่บางเขน – สำโรง) และสาย 511 (ปากน้ำ – สถานีขนส่งสายใต้ใหม่) โดยรถประจำทางที่ร่วมโครงการจะติดสติ๊กเกอร์โครงการและข้อความรณรงค์รักการอ่านและเมืองหนังสือโลก 2013

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรม Read on the Move ในวันนี้เป็นภารกิจต่อเนื่องภายหลังจากที่กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าโครงการรักการอ่านบนรถแท็กซี่ จำนวน 500 คัน เพื่อส่งเสริมกิจกรรมรักการอ่านและการเป็นเมืองหนังสือโลก พร้อมกันนี้ กรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายให้สำนักการศึกษา เปิดห้องสมุดโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 50 แห่ง เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปในช่วงหลังเลิกเรียน หรือวันเสาร์-อาทิตย์ และเพิ่มจุดอ่านบริเวณที่พักรอของผู้มาใช้บริการภายในโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง รวมถึงตั้งจุดบริการการอ่านบริเวณสำนักงานเขตและหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจะร่วมกับภาคีเครือข่ายขยายพื้นที่การอ่าน อาทิ ห้องสมุดเรือนจำ สถานพินิจ โรงพยาบาล มูลนิธิ และจัดทำห้องสมุดเพื่อผู้พิการ เพื่อขยายโอกาสไปยังผู้ด้อยโอกาสในแต่ละกลุ่มอีกด้วย

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะเปิดรับบริจาคหนังสือในโครงการฯ เพิ่มเติม โดยตั้งกล่องรับบริจาค ณ สำนักงานเขต และหน่วยงานในสังกัด ห้างเทสโก้ โลตัส และร้านสะดวกซื้อ (7-eleven) เพื่อเพิ่มจำนวนหนังสือในโครงการฯ และขยายโครงการรักการอ่านอย่างต่อเนื่องต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น