(31 ม.ค. 54) ที่ห้องประชุม 4-6 สภากรุงเทพมหานคร : นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2554 พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานครจำนวน 10,000 ล้านบาท ก่อนให้ความเห็นชอบ ซึ่งครั้งนี้มี สำนักการโยธา และสำนักสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมประชุมชี้แจง
แนะหาวิธีกำจัดขยะให้มีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
ที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายพิเศษจากเงินสะสมจ่ายขาดของสำนักสิ่งแวดล้อม จำนวน 1,038 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการจ้างเอกชนขนมูลฝอยและนำไปฝั่งกลบอย่างถูกสุขลักษณะโดยอัดและห่อมูลฝอยด้วยแผ่นพลาสติก(WRAPPING) โครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยจากสถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง เขตบางเขน และนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะ (แบบใหม่)ระยะที่2 โครงการจ้างเหมาเอกชนปรับปรุงโรงงานพร้อมเดินเครื่องจักรโรงงานกำจัดมูลฝอยขนาด 1,000 ตัน/วัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ระยะที่ 2 และ โครงการจ้างเหมาเอกชนเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ระยะที่ 3 เป็นต้น
โดยได้ตั้งข้อสังเกตถึงขั้นตอนการเสนองบประมาณของสำนักสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับโครงการจ้างเหมาเอกชนขนมูลฝอยและนำไปทำลายโดยวิธีฝังกลบอย่างถูกสุขลักษณะด้วยแผ่นพลาสติก(WRAPPING) ซึ่งจะหมดสัญญาในวันที่ 23 ก.พ. 54 นี้ ซึ่งเป็นงบประมาณผูกพันใช้ระยะเวลา 10 ปี อีกทั้งมีค่าเก็บขนที่ถูกกว่า โครงการฯระยะที่ 2 และ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยคณะกรรมการฯ เสนอให้สำนักสิ่งแวดล้อม ดำเนินการบริหารสัญญา และเร่งประชุม ก่อนที่สัญญาจะหมดไป เนื่องจากโครงการในระยะที่ 2 และ 3 มีราคาค่าเก็บขนที่แพงกว่าเดิม ซึ่งจะทำให้กรุงเทพมหานคร สูญเสียงบประมาณการพัฒนากรุงเทพมหานคร ไปกว่า 2 พันล้าน จึงควรหาวิธีกำจัดมูลฝอยให้มีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย รวดเร็ว และลดปริมาณขยะที่จะนำไปฝังกลบ เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน
ควรแก้ไขปัญหาการจราจร ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง
ด้านงบประมาณรายจ่ายพิเศษจ่ายจากเงินสะสมจ่ายขาดของสำนักการโยธา จำนวน 4,948 ล้านบาท ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตถึงโครงการก่อสร้างปรับปรุงงานสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมงานระบบชั้น 23 ถึงชั้น 37 อาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง ระยะที่ 2 และโครงการจ้างให้บริการเพื่อออกแบบตกแต่งภายในศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง โดยเกรงว่า การที่จะย้ายศาลาว่าการกทม.1 ไปกทม.2 ดินแดง นั้นจะทำให้ปัญหาการจราจรบริเวณโดยรอบศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง ติดขัดมากขึ้น จึงควรแก้ไขทั้งระบบก่อนที่จะย้ายไป นอกจากนี้ในการปรับปรุงภายในศาลาว่าการกทม.2 ควรจัดให้มี ห้องออกกำลังกาย และห้องเลี้ยงเด็กเล็กไว้ด้วย เพื่อให้ข้าราชการได้มีกิจกรรมทำหลังเวลาเลิกงาน ทำให้ไม่ต้องกลับบ้านพร้อมกัน เป็นการบรรเทาปัญหาการจราจรได้อีกทางหนึ่ง
ด้านนายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้มีการวางแผนการจราจรไว้แล้ว ซึ่งในการเดินทางไปทำงานของข้าราชการและประชาชนจะมีระบบขนส่งมวลชนรองรับ และได้จ้างที่ปรึกษา เพื่อดูแลผลกระทบของการออกแบบ ทางเข้าออกของรถยนต์ที่ใช้ภายในกทม.2 การปรับปรุงทางแยกต่างๆ อาทิ แยกดินแดง ถ.ประชาสงเคราะห์ ทางขึ้น-ลงทางด่วน รวมทั้งปรับกระบวนการจัดการทั้งหมด อาทิรถไฟฟ้า รถโมโนเรล และรถรับส่ง 10 สาย เนื่องจากในอนาคตข้าราชการกทม. จะต้องใช้ระบบขนส่งมวลชนนี้เข้ามายังศูนย์ราชการกทม. 2 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น