ผู้ว่าฯกทม. เปิดตัวโครงข่าย “ซูเปอร์สกายวอล์ค” ทางเดินลอยฟ้าระยะทาง 50 กม. ให้คนกรุงเทพฯ เดินทางได้สะดวกขึ้น และลดการใช้รถส่วนตัว พร้อมก่อสร้าง มี.ค. 54 ลั่น 16 กม.แรก ย่านถนนสุขุมวิท พญาไท รามคำแหง และวงเวียนใหญ่ เสร็จภายใน 18 เดือน นับเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ จะมีโครงข่ายทางเดินลอยฟ้าสำหรับประชาชนอย่างบูรณาการ เป็นประโยชน์ในวงกว้างอย่างยั่งยืน
(23 ก.พ. 54) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าว “โครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์ค” (SuperSkywalk System) หรือ “ทางเดินลอยฟ้า” โดยมีดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และสื่อมวลชน ร่วมงาน ณ ห้อง Ballroom 2 โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล
16 กม.แรก ย่านถนนสุขุมวิท พญาไท รามคำแหง และวงเวียนใหญ่ เสร็จภายใน 18 เดือน
โครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์ค ถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจ “กรุงเทพฯ ก้าวหน้า” มุ่งแก้ปัญหาใหญ่ของกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน จะแบ่งการก่อสร้างเป็น 2 เฟส ซึ่งเฟสแรกมีระยะทางรวม 16 กม. โดยจุดที่ 1 ระยะทางประมาณ 12 กม. ตลอดแนวถนนสุขุมวิทจากซอยนานาไปสิ้นสุดที่ซอยแบริ่ง จุดที่ 2 ระยะทางประมาณ 3 กม. ตามแนวถนนพญาไท จุดที่ 3 ระยะทางประมาณ 1.3 กม. ตามแนวถนนรามคำแหง และจุดที่ 4 ระยะทางประมาณ 0.5 กม. บริเวณวงเวียนใหญ่ ฝั่งธนบุรี โดยเริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค. 54 และจะแล้วเสร็จภายใน 18 เดือน ส่วนเฟสที่2 ระยะทางประมาณ 32 กม. มีแผนจะก่อสร้างในปี 2555-2557 ครอบคลุมพื้นที่ย่านถนนราชดำริ สีลม สาทร เพชรบุรี รามคำแหง ทองหล่อ เอกมัย พหลโยธิน กรุงธนบุรี และบางหว้า โดยหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการจะทำให้คนกรุงเทพฯมีทางเดินลอยฟ้าเป็นระยะทางรวม 50 กม. จากโครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์คเดิม ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันความยาวประมาณ 1.5 กม. ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
คืนทางเท้าให้คนกรุงเทพฯ เชื่อมต่อจุดหมาย เดินทางได้สะดวก ลดการใช้รถส่วนตัว
โครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์คจะช่วยให้คนกรุงเทพฯ มีทางเดินลอยฟ้าที่ปราศจากสิ่งกีดขวาง มีพื้นที่ในการเดินเท้ามากขึ้น ทำให้สามารถเดินไปยังจุดหมายปลายทางใกล้ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการเชื่อมต่อจุดต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างบูรณาการ และเป็นประโยชน์ในวงกว้างอย่างยั่งยืน นอกจากนี้โครงสร้างของโครงข่ายยังได้ออกแบบให้รองรับกับระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ รวมถึงระบบขนส่งรถไฟฟ้า โดยเมื่อออกจากรถไฟฟ้าแล้ว สามารถเดินเท้าต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวแดดและฝน เพื่อให้การเดินเท้าเป็นทางเลือกแทนการขับรถ สำหรับการเดินทางระยะสั้นๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้าในเวลากลางคืน ด้วยไฟฟ้าส่องสว่างและกล้องวงจรปิดตรวจจับความเคลื่อนไหวตลอดแนวเส้นทางโครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์ค
โครงสร้างซูเปอร์สกายวอล์ค ใช้เก็บท่อร้อยสายไฟ
สำหรับงบประมาณการก่อสร้างโครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์คในเฟสแรกประมาณ 5,200 ล้านบาท ส่วนเฟสที่สองของโครงข่ายซูเปอร์สกายวอล์ค จะก่อสร้างในปี 2555-2557 และคาดว่าจะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 10,000 ล้านบาท นอกจากนี้ตัวโครงสร้างของซูเปอร์สกายวอล์ค ได้ถูกออกแบบเพื่อให้สามารถใช้เป็นที่เก็บท่อร้อยสายไฟได้ด้วย โดยในอนาคตสามารถจะย้ายสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์มาเก็บซ่อนไว้ที่โครงของซูเปอร์สกายวอล์คได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้ไม่มีสายไฟเกะกะสายตาตามถนนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ทัศนียภาพของกรุงเทพฯ สวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้นได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น