ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กทม. ตรวจสภาพการจราจรเปิดเทอมวันแรก

ผู้ว่าฯกทม. นำสื่อมวลชนร่วมตรวจการจราจรรับเปิดเทอมวันแรก ส่วนใหญ่มีสภาพคล่องแม้ฝนตก ติดขัดหนักบริเวณคอขวดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และหน้าโรงเรียนดัง ด้านกทม. เสริมเทศกิจช่วยตำรวจอำนวยการจราจร ลดปัญหาคับคั่งหน้าโรงเรียน ขณะที่ตำรวจจราจรทุกจุดเร่งระบายรถลดความคับคั่งชั่วโมงเร่งด่วน ส่วนระยะยาวจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนยั่งยืน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบุตรหลานเดินทางไปเรียนด้วยตนเอง

(18 พ.ค.54) เวลา 07.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผู้บังคับการตำรวจจราจร นำสื่อมวลชนขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากสนามบินดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิต เพื่อสำรวจสภาพการจราจรโดยรอบกรุงเทพฯ ในวันเปิดภาคการศึกษา 2554 วันแรก ตลอดเส้นทางดอนเมือง-โทลเวย์ ถ.วิภาวดีรังสิต ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังตรวจสภาพการจราจรพบว่า ถนนหลายสายทั้งขาเข้าและขาออกคล่องตัว เฉพาะบริเวณสะพานสาทร รวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งจากฝั่งธนบุรีและพระนครติดขัดมากเนื่องจากมีลักษณะคอขวด และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง เช่น กรุงเทพคริสเตียน เซนต์หลุยส์ และอัสสัมชัญ ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรหนาแน่นบริเวณหน้าโรงเรียน อย่างไรก็ตามกทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในการเตรียมพร้อมมาตรการด้านการจราจรรับวันเปิดภาคการศึกษาวันแรก ซึ่งในส่วนของกทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่จากสำนักเทศกิจ และฝ่ายเทศกิจ 50 เขต ตั้งจุดปฏิบัติการจราจร 422 จุด รวมจำนวนเทศกิจ 671 นาย ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาในพื้นที่รับผิดชอบ ตามโครงการเทศกิจอาสาพาน้องข้ามถนน ในชั่วโมงเร่งด่วน 06.30–07.45 น. เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครอง อีกทั้งได้มอบหมายให้ฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ประสานสถานีตำรวจนครบาลท้องที่ออกตรวจสอบและแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางบนทางเท้าและผิวจราจรโดยเฉพาะจุดกวดขันพิเศษ ตลอดจนจัดหน่วย BEST เตรียมรถยกและอุปกรณ์ในการซ่อมแซมยานพาหนะขัดข้องและเคลื่อนย้ายพาหนะในจุดเกิดอุบัติเหตุ เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและให้เกิดสภาพคล่องโดยเร็วที่สุด ส่วนในระยะยาวจำเป็นต้องพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในทุกทิศทางเพื่อแก้ปัญหาการจราจรอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค. 54) เป็นวันแรกของการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรบริเวณโดยรอบศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ถ.วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัคร แต่ได้ประสานความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และเทศกิจ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยของพื้นที่และผู้สมัครแล้ว

ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า แม้ว่าในวันเปิดเทอมวันแรกจะมีฝนตก แต่การจราจรยังมีสภาพคล่อง พบปัญหาการจราจรหนาแน่นบริเวณ ถ.สาทร เนื่องจากมีอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนชื่อดังซึ่งผู้ปกครองมักจะนำรถยนต์ส่วนตัวเพื่อรับ-ส่งบุตรหลาน และระบบขนส่งมวลชนยังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นในช่วงเปิดเทอมนั้นขอให้ผู้ปกครองเตรียมพร้อมสัมภาระและอุปกรณ์การเรียนให้พร้อมก่อนถึงโรงเรียน อีกทั้งให้โรงเรียนจัดให้มีรุ่นพี่ช่วยรับส่งรุ่นน้องบริเวณหน้าโรงเรียนเพื่อที่ผู้ปกครองจะไม่ต้องจอดรถนาน ลดความหนาแน่นของการจราจรในบริเวณดังกล่าว ตลอดจนให้มี การเหลื่อมเวลาเข้าเรียนเพื่อลดความคับคั่งในช่วงเวลาเร่งด่วนด้วย ส่วนในระยะยาวนั้นผู้ปกครอง และบุตรหลานจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง โดยการหันมาใช้บริการระบบขนส่งมวลชนให้มากขึ้น ขณะที่ตัวบุตรหลานเองควรเดินทางไปโรงเรียนด้วยตนเองซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง และลดปัญหาการจราจรบนท้องถนนอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น