ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม. เปิดสอบแข่งขันฯ เป็นข้าราชการ ครั้งที่ 1/2555 ถึง 12 มี.ค. 55

นายสุรศักดิ์ สอนเคลือ หัวหน้าสำนักงาน ก.ก. สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า สำนักงานงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (สำนักงาน ก.ก.) จะดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ในตำแหน่งประเภททั่วไป จำนวน 4 ตำแหน่ง รวม 160 อัตรา ดังนี้ 1. เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ปฏิบัติงาน จำนวน 2 อัตรา 2. เจ้าพนักงานพัสดุปฏิบัติงาน จำนวน 3 อัตรา 3. เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงาน จำนวน 80 อัตรา และ 4. เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน จำนวน 75 อัตรา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครสอบทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 12 มี.ค. 55 ทางเว็บไซต์ http://ksb.bangkok.go.th หรือ http://www.bangkok.go.th/exam และจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าสอบแข่งขัน รวมถึงวัน เวลา สถานที่สอบ ในวันที่ 2 เม.ย. 55

เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา

กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมการศาสนา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย องค์กรชาวพุทธ และภาคประชาสังคม เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมเผยแพร่พระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
(29 ก.พ. 55) เวลา 10.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. : นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานครพระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา พระมหาปัญญา ปญญาวุฑโฒ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย พลเอกจรัล กุลละวณิชย์ ประธานสภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และพลตรีหญิง อุษณีย์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา รองประธานสภาองค์กรพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชาประจำปีพุทธศักราช 2555 ฉลองพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 55 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และประกาศให้มณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นเขตพุทธาวาสเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. – 7 มี.ค. 55
วันมาฆบูชาถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยในปี พ.ศ. 2555 นี้ เป็นปีอธิกมาส คือ เป็นปีที่มีเดือน 8 สองครั้งตามปฏิทินจันทรคติของไทย จึงทำให้วันมาฆบูชาซึ่งปกติตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 เลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ตรงกับวันที่ 7 มี.ค. 55 ทั้งนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาได้กำหนดจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 86 รูป ตั้งแต่เวลา 07.00 น. นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค. 55 ขอเชิญร่วมกิจกรรมต่างๆ อาทิ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระแก้วมรกตจำลอง การร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และบำเพ็ญกุศลเป็นพุทธบูชาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การบรรยายธรรม ปาฐกถาธรรม อภิปรายธรรม การสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัย นมัสการพระธาตุประจำปีเกิดจำลอง 12 นักษัตร ไหว้พระ 9 วัด นิทรรศการทางพระพุทธศาสนา พิธีเวียนเทียนและปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ฯลฯ ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดกิจกรรมรณรงค์ ลด ละ เลิก อบายมุข พร้อมตั้งโต๊ะหมู่บูชาบริเวณหน้าสำนักงานเขต บริษัท ห้าง ร้าน ตลอดจนบ้านเรือนประชาชน และจัดพิธีเวียนเทียน ณ วัดใดวัดหนึ่งในพื้นที่ ในวันมาฆบูชา วันที่ 7 มี.ค. 55 อีกด้วย

มีนบุรีออกหน่วยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

นายอรุณ พ่วงสมบัติ ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กทม. แจ้งว่า เขตฯ ร่วมกับสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขฯ และศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี กำหนดจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวมีนบุรีที่จะลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในวันที่ 2 มี.ค. 55 ออกหน่วยที่หมู่บ้านกฤษณา ระหว่างเวลา 10.00–12.00 น. จึงขอให้ประชาชนตามสถานที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง นำสัตว์เลี้ยงไปรับบริการโดยพร้อมเพรียงกัน

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

คณะเจ้าหน้าที่ฯ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ดูงานผังเมือง

ม.ร.ว.เปรมศิริ เกษมสันต์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กทม. แจ้งว่า ในวันที่ 6 มี.ค. 55 เวลา 09.00-12.00 น. สำนักผังเมืองจะต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ฯ จากแผนกการวางแผนเศรษฐกิจและประสานงานโครงการของศาลากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย จำนวน 12 คน โดยมี Dato’Sri Ar.Hj.Esa b.Hj.Mohamed คณะกรรมการที่ปรึกษาของศาลากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และ Mr.Jumina Samad ผู้อำนวยการออกแบบชุมชนเมืองและอาคารของศาลากลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ นำคณะศึกษาดูงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 4 สำนักผังเมือง กทม.
ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ฯ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ จะเข้ารับฟังการบรรยายในหัวข้อ “การวางผังเมือง แผนพัฒนาเมือง” และ “แม่น้ำเจ้าพระยากับการพัฒนาภูมิทัศน์ริมฝั่ง” จากสำนักผังเมือง “การควบคุมอาคารและการบังคับใช้บาทวิถี” จากสำนักการโยธา “การจัดการหาบเร่ แผงลอย” จากสำนักเทศกิจ และ “ระบบถนนและการคมนาคมขนส่งสาธารณะ” จากสำนักการจราจรและขนส่ง นอกจากนี้สำนักผังเมืองจะนำคณะเจ้าหน้าที่ฯ จากกรุงกัวลาลัมเปอร์เข้าชมหุ่นจำลองเมืองขนาดใหญ่ (City Model) มาตราส่วน 1:750 ซึ่งนำเสนอด้วยระบบแสงไฟแสดงแยกประเภทกิจกรรมของเมืองที่สำคัญ เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษา ให้ความรู้และเป็นข้อมูลประกอบในการวางแผนกำหนดทิศทางการขยายตัวของเมือง ช่วยให้มองเห็นลักษณะทางกายภาพของเมืองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สวนหลวงและพญาไทบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

เขตสวนหลวง นายประเวศ เพียรธรรม ผู้อำนวยการเขตสวนหลวง กทม. แจ้งว่า เขตฯ จัดให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัข-แมว ตั้งแต่เวลา 09.30-11.30 น. ดังนี้ วันที่ 28 ก.พ. 55 ชุมชนร่วมใจ ซ.อ่อนนุช 43 วันที่ 29 ก.พ. 55 หมู่บ้านฮอลลีวู้ด ซ.อ่อนนุช 17 แยก 9 วันที่ 1 มี.ค. 55 ชุมชนสะและหมัด ซ.พัฒนาการ20 แยก 10 วันที่ 2 มี.ค. 55 ชุมชนวิเศษสุข ซ.พระรามเก้า 49 โดยจัดบริการฉีดวัคซีนสุนัข- แมว ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าฟรี ประชาชนที่สนใจสามารถนำสุนัข-แมวไปขอรับบริการได้ตามวัน เวลาและสถานที่ดังกล่าว
เขตพญาไท นายวรเศรษฐ์ ปภัสร์สุตานนท์ ผู้อำนวยการเขตพญาไท กทม. เปิดเผยว่า เขตฯ ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์ ออกหน่วยเคลื่อนที่รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขและสัตว์เลี้ยงในพื้นที่เขตฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น กำหนดการออกหน่วยเคลื่อนที่ในวันที่ 28 ก.พ. 55 ซ.อินทามระ 1,3 วันที่ 29. ก.พ. 55 ชุมชนแฟลตลือชา วันที่ 1 มี.ค. 55 ชุมชนถวัลย์ศักดิ์ และวันที่ 2 มี.ค. 55 ชุมชนอินทามาระ 29 แยก 4 ชุมชนอินทามาระ 31 ระหว่างเวลา 10.00–12.00 น. จึงขอเชิญประชาชนในพื้นที่นำสัตว์เลี้ยงมารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ โทร.0 2279 4141 ต่อ 6470

จอมทองเปิดอบรมวิชาชีพการประกอบอาหารเดือน มี.ค.55

นายนิวัฒน์ ไชยมิ่ง ผู้อำนวยการเขตจอมทอง กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดอบรมวิชาชีพการประกอบอาหาร เพื่อให้ประชาชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความรู้ ความสามารถ และนำวิชาชีพไปประกอบอาชีพได้ สำหรับในเดือน มี.ค. 55 โดยเปิดรับหลักสูตร ดังนี้ 1.ข้าวมันไก่ เต้าฮวยนมสด สอนวันที่ 3 มี.ค. 2.สุกี้ ข้าวเหนียวมูนหน้าสังขยา สอนวันที่ 4 มี.ค. 3.ก๋วยจั๊บน้ำข้น น้ำใส ขนมใส่ไส้ สอนวันที่ 10 มี.ค. 4.กระเพาะปลา กล้วยทอด ข้าวเม่าทอด สอนวันที่ 11 มี.ค. ผู้ที่สนใจเข้าร่วมฝึกอาชีพทุกท่านต้องมาสมัครด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ชั้น 3 สำนักงานเขตจอมทอง สอบถามเพิ่มเติมโทร.0 2427 6672 ในวันเวลาราชการ

คลองสานแจ้งแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนของโรงเรียนในสังกัด

นายขจิต ชัชวานิชย์ ผู้อำนวยการเขตคลองสาน กทม. แจ้งว่า ตามที่สำนักการศึกษาได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการ รับนักเรียนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2555 เพื่อให้นักเรียนทุกคนมีความเสมอภาคในด้านสิทธิและโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้น เขตฯ จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งหลักเกณฑ์และกำหนดเวลาในการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2555 ของโรงเรียนในสังกัดทั้ง 7 โรงเรียน ดังนี้ ชั้นปฐมวัย รับเด็กที่มีอายุ 4 – 5 ปี (เกิดในปี พ.ศ. 2550) เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 2 – 6 มี.ค. 55 ชั้นประถมศึกษา รับเด็กที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 7 (เกิดในปี พ.ศ. 2548) หรือมีหลักฐานจบการศึกษาชั้นปฐมวัย เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 9 – 13 มี.ค. 55 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 4 พ.ค. 55 ทั้งนี้ จะต้องเป็นเด็กที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เขตบริการของโรงเรียน และการรับเด็กเข้าเรียนจะดำเนินการโดยไม่มีการสอบวัดความสามารถทางวิชาการ หากยังไม่เต็มตามจำนวนที่โรงเรียนรับได้จะรับเด็กนอกพื้นที่เขตบริการของโรงเรียน พื้นที่เขตปกครอง หรือเขตพื้นที่ที่เป็นรอยต่อใกล้เคียงตามลำดับด้วยวิธีการจับฉลาก

บางขุนเทียนเชิญชวนรับเสด็จ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จตัดหวายลูกนิมิต วัดบางกระดี่

นายพงษ์ศักดิ์ พันธุ์สวาสดิ์ ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กทม. เปิดเผยว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จไปทรงตัดหวายลูกนิมิต อุโบสถ ณ วัดบางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน และประธานนามพระประธานอุโบสถว่า พระพุทธรัตนมิ่งมงคล ในวันที่ 28 ก.พ. 55 เวลา 16.00 น. โดยมี ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน ข้าราชการและลูกจ้างส่วนราชการ สก. สข. โรงเรียนในสังกัด ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ กลุ่มพลังมวลชนและประชาชน เฝ้ารับเสด็จ จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่เขตฯ และพื้นที่ใกล้เคียงเฝ้ารับเสด็จ ตามวันเวลา และสถานที่ดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกัน

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม. เร่งรัดเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญให้ข้าราชการกทม. 2,400 คน

นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีที่ข้าราชการบำนาญได้ร้องเรียนต่อปลัดกรุงเทพมหานครว่า ได้รับการเดือดร้อนในการจ่ายเงินบำนาญล่าช้า นั้น ได้สั่งการให้สำนักการคลังเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุดทุกราย และสำนักการคลังได้รายงานว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การเบิกจ่ายล่าช้ากว่าปีที่ผ่านมาเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 มีข้าราชการและลูกจ้างของกรุงเทพมหานครที่พ้นจากราชการ รวมทั้งสิ้น 2,421 ราย เทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 มีเพียง 1,133 ราย โดยมีทั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ข้าราชการครู เกษียณอายุราชการ ลาออกตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด และข้าราชการที่ลาออกเพื่อเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยกรุงเทพมหานคร ตลอดจนลูกจ้างประจำที่เกษียณอายุราชการอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีสาเหตุจากที่กทม. ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่ได้รับล่าช้ากว่าเดิม เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 และกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้โอนเงินอุดหนุนจากรัฐบาลให้กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555
สำหรับความคืบหน้าในการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ประจำปี 2555 ในส่วนของข้าราชการครูเกษียณอายุราชการซึ่งเบิกจ่ายจากเงินอุดหนุนรัฐบาล จำนวน 301 ราย เบิกจ่ายแล้ว 187 ราย เตรียมจะเบิกจ่าย จำนวน 111 ราย และอยู่ระหว่างตรวจหลักฐาน จำนวน 3 ราย ส่วนข้าราชครูที่เกษียณอายุราชการก่อนกำหนด จำนวน 376 ราย เบิกจ่ายแล้ว 31 ราย เตรียมจะเบิกจ่ายอีกจำนวน 212 ราย และอยู่ระหว่างตรวจหลักฐานและขอเอกสารเพิ่มเติม จำนวน 133 ราย
ในส่วนของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 337 ราย เบิกจ่ายแล้ว 332 ราย เตรียมจะเบิกจ่าย 2 ราย คงเหลือเพียง 3 ราย ส่วนที่เกษียณอายุราชการก่อนกำหนด 446 ราย เบิกจ่ายไปแล้ว 354 ราย เตรียมจะเบิกจ่าย จำนวน 17 ราย ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน 69 ราย และหน่วยงานยังไม่ได้ส่งเรื่องให้สำนักการคลังตรวจสอบอีก 6 ราย
สำหรับข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ สังกัดสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกษียณอายุราชการหรือเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ที่โอนย้ายมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญจากเงินอุดหนุนรัฐบาล สำนักการคลังได้จ่ายเงินให้ครบทุกท่านเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ทันทีเมื่อได้รับเงินจากกรมบัญชีกลาง
ทั้งนี้ได้รับการยืนยันว่าผู้ที่ส่งหลักฐานถูกต้อง ครบถ้วนแล้วจะได้รับเงินบำเหน็จบำนาญในรอบของเดือน มี.ค. 55 นี้ทุกราย

กทม. เปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนย่านคันนายาว

(24 ก.พ. 55) เวลา 11.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนหมู่ 5 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตคันนายาว อาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก และประชาชนในชุมชน ร่วมงาน ณ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนหมู่ 5 เขตคันนายาว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการดำเนินงานที่มุ่งดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ภายใต้แนวคิด “ทั้งชีวิต...เราดูแล” ซึ่งการดำเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เป็นหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เด็กทุกคนได้รับการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ตามหลักจิตวิทยาพัฒนาการเด็กเล็ก เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับเด็กที่จะเข้าสู่การศึกษาในระบบโรงเรียน ตลอดจนเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กขณะออกไปประกอบอาชีพ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนชุมชนหมู่ 5 นอกจากเป็นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ของชุมชน เช่น ใช้เป็นสถานที่ในการฝึกอาชีพ เป็นที่ทำการของชมรมผู้สูงอายุ เป็นต้น จึงถือได้ว่าเป็นศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ตามมาตรฐานของกรมอนามัย

กทม.ส่งทัพนักกีฬาร่วมชิงชัยในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ณ จ.ขอนแก่น

กทม.ส่งทัพนักกีฬา 1,022 คน ร่วมแข่งขันชิงชัยในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ขอนแก่นเกมส์” ระหว่างวันที่ 3 – 13 มี.ค.นี้ ที่ จ.ขอนแก่น พร้อมตั้งเป้าคว้า 74 เหรียญทองใน 39 ชนิดกีฬา
(24 ก.พ.55) ณ บริเวณลานหน้าองค์พระ ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้โอวาทแก่คณะนักกีฬาโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ในโอกาสเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ระดับชาติ “ขอนแก่นเกมส์” ในระหว่างวันที่ 3 – 13 มี.ค.55 ณ จังหวัดขอนแก่น โดยกรุงเทพมหานครได้คัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 1,022 คน ประกอบด้วย นักกีฬาชาย 448 คน นักกีฬาหญิง 392 คน และผู้ฝึกสอน 182 คน กีฬาที่ส่งเข้าแข่งมี 39 ชนิดกีฬา อาทิ กรีฑา เซปักตะกร้อ แบดมินตัน ฟุตบอล ยกน้ำหนัก ยิมนาสติก ว่ายน้ำ โดยในปีนี้กรุงเทพมหานครตั้งเป้าคว้า 74 เหรียญทอง จากจำนวนเหรียญทองที่ชิงชัยทั้งสิ้น 534 เหรียญทอง ส่วนผลงานในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 39 ที่จังหวัดชลบุรี กรุงเทพมหานครสามารถคว้าเหรียญทองได้ทั้งสิ้น 107 เหรียญทอง
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้จัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักกีฬากรุงเทพมหานครได้สร้างชื่อเสียงและรักษาตำแหน่งเจ้าเหรียญทองมาโดยตลอด ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอนและที่สำคัญคือ ตัวของนักกีฬาเองที่ได้ฝึกฝน อดทน เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในการแข่งขัน ซึ่งขอให้นักกีฬาทุกคนตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญในฐานะตัวแทนของกรุงเทพมหานคร ต้องเป็นผู้มีวินัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา เอื้ออาทรและมีไมตรีจิตที่ดี เข้าแข่งขันด้วยจิตวิญญาณของนักกีฬาที่แท้จริงมีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เพื่อนำชื่อเสียงมาสู่กรุงเทพมหานครและตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

09.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ The Asian Crisis Management Conference ครั้งที่ 10
ณ ห้องสุทัศน์ กทม.
09.00 น. ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ณ วัดอรุณราชวรารามฯ
10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจพื้นที่บริเวณคลองบางเขนใหม่ดูการขุดคลองใหม่และตรวจสถานีสูบน้ำ
จุดนัดพบข้าง บริษัทยาคูลท์ ถ.วิภาวดี
11.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนหมู่ 5
ณ ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ชุมชนหมู่ 5 ถ.รามอินทรา
15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือข้อราชการกับ H.E.Mrs.Kristie A. Kenny เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
ณ ห้องอมรพิมาน กทม.
16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานให้โอวาทแก่นักกีฬาในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 ณ จังหวัดขอนแก่น
ณ หน้าองค์พระฯ กทม.

สร้างเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์เมือง สอดส่องดูแลความปลอดภัยทั่วกรุง

(23 ก.พ.55) นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอาสาสมัครพิทักษ์เมือง โดยมีนายกระมล โอฬาระวัต ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 เขต ร่วมงาน ณ ห้องประชุมกรุงธน 2 สำนักเทศกิจ
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของประชาชนในกรุงเทพมหานคร ต้องเผชิญกับภัยในรูปแบบต่างๆ เช่น ภัยที่เกิดจากความมั่นคงของบ้านเมือง ภัยที่เกิดจากอาชญากรรม รวมถึงภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ลำพังการแก้ไขปัญหาและมาตรการป้องกันต่างๆจากภาครัฐ และหน่วยงานของกรุงเทพมหานครคงไม่เพียงพอ เนื่องจากปริมาณเจ้าหน้าที่และงบประมาณที่มีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมสร้างเครือข่ายจิตอาสาในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประสานความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี ปลูกจิตสำนึกในการร่วมกันดูแลสาธารณสมบัติ ซึ่งสำนักเทศกิจและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจทั้ง 50 เขต เป็นกำลังสำคัญที่จะประสานการทำงานร่วมกับสมาชิกอาสาสมัครพิทักษ์เมือง ร่วมกันป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว มีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยของบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนในกรุงเทพมหานคร ดำเนินชีวิตในสังคมเมืองด้วยความสุขและอบอุ่นใจ

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

15-18 มี.ค.ขอเชิญร่วมเดินเทิดพระเกียรติ 84 พรรษาและหาทุนก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียน

(23 ก.พ.55) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 10.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรผู้ว่ารการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงข่าวโครงการจัดหาทุนในกิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติ 84 พรรษา เพื่อสร้างศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลบางขุนเทียน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2555 โดยจะเริ่มต้นเดินจากสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาล เขตบางขุนเทียน และสิ้นสุด ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า รวมระยะทางทั้งสิ้น 84 กิโลเมตร โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะร่วมเดินเทิดพระเกียรติฯ ตลอดระยะทาง 84 กิโลเมตรด้วย
โอกาสนี้ กทม.ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมมหากุศลในครั้งนี้ ด้วยการร่วมเดินถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา และร่วมบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนสร้างศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลในเขตบางขุนเทียน โดยร่วมสมทบทุนได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเซ็นทรัลพลาซา รัตนธิเบศร์ ชื่อบัญชี มูลนิธิกรุงเทพมหานคร 2552 เลขที่บัญชี 924-0-071119 ประเภทออมทรัพย์ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.bma2552foundation.com
สำหรับศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุและโรงพยาบาลบางขุนเทียน จะมุ่งเน้นให้บริการด้านผู้สูงอายุครบวงจร ขนาด 100 เตียง และศูนย์รักษาโรคทั่วไป ขนาด 200 เตียง คลอบคลุมการให้บริการรักษาพยาบาลในพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตทุ่งครุ เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะและจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร รวมประมาณ 800,000–900,000 คน . โดยกทม.ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงินกว่า 2,200 ล้านบาท

วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หมดเขตยื่นคำร้องรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติมทุกกรณี 29 ก.พ. นี้

นายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกกรุงเทพมหมดเขตยื่นคำร้องรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติมทุกกรณี 29 ก.พ. นี้ หานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ตามที่เกิดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 42 เขตนั้น ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยฯ กรุงเทพมหานคร ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในส่วนของการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 5,000 บาท ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 54 – 17 ก.พ. 55 ขณะนี้มีผู้ยื่นคำร้อง จำนวน 585,495 ครัวเรือน ออกหนังสือรับรองแล้ว 532,580 ครัวเรือน คงเหลือ 52,915 ครัวเรือน ซึ่งได้จัดส่งข้อมูลให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย อย่างเป็นทางการ 505,121 ครัวเรือน จากนั้นกรมป้องกันฯ จะตรวจสอบข้อมูลรายชื่อที่ได้รับจากกรุงเทพมหานครแล้วส่งให้ธนาคารออมสินเพื่อทำหน้าที่จ่ายเงินให้ผู้ประสบอุทกภัยโดยตรงไม่ผ่านกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้รับอนุมัติจำนวนครัวเรือนตามกรอบมติคณะรัฐมนตรี 1,089,242 ครัวเรือน และสำนักงานเขตได้ขอปรับลดจำนวนครัวเรือนลงเหลือ 729,821 ครัวเรือน ผู้ที่ยื่นคำร้องแล้วสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่ เว็บไซต์ของธนาคารออมสิน หรือ www.gsb.or.th/flood
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและตามหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 ข้อ 5.1 จำนวน 5 กรณี ประกอบด้วย บ้านเรือนเสียหายบางส่วนไม่เกิน 20,000 บาท บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 30,000 บาท ค่าทำศพ 25,000 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,500 บาทไม่เกิน 2 เดือน และอุปกรณ์ประกอบอาชีพได้รับความเสียหายไม่เกิน 10,000 บาท ในพื้นที่ 31 เขต ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. – 17 ก.พ. 55 มีผู้ประสบภัยยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือแล้วรวม 1,937 ราย จำนวน 94,831 ครอบครัว ได้แก่ ค่าวัสดุซ่อม/สร้างบ้าน เสียหายบางส่วน จำนวน 98,510 หลัง เสียหายทั้งหลัง จำนวน 10 หลัง ค่าเช่าบ้าน จำนวน 165 ครอบครัว ทุน/เครื่องมือประกอบอาชีพ จำนวน 6,240 ครอบครัว และค่าจัดการศพ จำนวน 71 ราย ได้รับการอนุมัติแล้ว 12 ราย
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง กรุงเทพมหานครได้ขยายระยะเวลารับคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม ซึ่งผู้ประสบภัยสามารถยื่นคำร้องพร้อมสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ได้ที่สำนักงานเขตที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 ก.พ. 55 ตั้งแต่เวลา 08.00–20.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ในส่วนของกรณีเงินช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน 1,500 บาท ต้องแนบเอกสารการเช่าบ้านหรือใบเสร็จรับเงินค่าเช่าบ้าน กรณีเงินช่วยเหลือเกี่ยวกับเครื่องมือประกอบอาชีพที่ชำรุดสูญหาย ผู้ประสบภัยต้องแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจท้องที่ และนำใบแจ้งความประกอบการยื่นคำร้องด้วย

กทม. เตรียมจัดงานเดินการกุศล เพื่อโรงพยาบาลบางขุนเทียน

(20 ก.พ. 55) เวลา 15.00 น. ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินการจัดงานเดินการกุศล เพื่อโรงพยาบาลบางขุนเทียน ว่า กทม. ได้เตรียมจัดงานเดินการกุศล เพื่อโรงพยาบาลบางขุนเทียน เพื่อเชิญชวนประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบริษัทห้างร้าน ร่วมเดิน การกุศล พร้อมร่วมบริจาคเพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียน และศูนย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา โดยกำหนดเดินระหว่างวันที่ 15-18 มี.ค. 55 ระยะทางวันละ 25 กม. โดยประมาณ วันสุดท้าย 14 กม. รวมระยะทางทั้งสิ้น 84 กม. พร้อมกิจกรรมไหว้พระ 9 วัด ถวายสักการะพระบรมนุสาวรีย์กษัตริย์ 9 รัชกาล และอเมซิ่ง bangkok โดยมี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครร่วมเดินตลอดระยะทาง ทั้งนี้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคเงินได้ตลอดเส้นทางการเดิน หากบริจาคเกิน 20,000 บาท ผู้ว่าฯกทม. จะเป็นผู้รับบริจาค และหากบริจาคเกิน 50,000 บาท จะได้รับประกาศนียบัตร
สำหรับเส้นทางการเดินจะเริ่มต้นจากสถานที่ก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียน ผ่านพระบรมราชานุสาวรีย์ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 เส้นทาง อาทิ เส้นทางโรงพยาบาลบางขุนเทียน - เซนทรัลพระราม 2 (11.5 กม.) เส้นทางเซนทรัลพระราม 2 - โรงพยาบาลตากสิน (13.5 ก.ม.) เส้นทางโรงพยาบาลตากสิน - วงเวียนโอเดียน (10 ก.ม.) เส้นทางวงเวียนโอเดียน - สวนลุมพินี (11.5 ก.ม.) เส้นทางสวนลุมพินี - เอสพลานาด (13.5 ก.ม.) เส้นทางเอสพลานาด - สวนวชิรเบญจทัศ (10 ก.ม.) เส้นทางพระบรมรูปทรงม้า – โรงพยาบาลศิริราช - พระบรมรูปทรงม้า (14 ก.ม.) เป็นต้น ทั้งนี้คณะกรรมการการจัดงานเดินการกุศลเพื่อโรงพยาบาลบางขุนเทียน จะได้หารือร่วมกับสำนักงานเขต และสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อจัดเส้นทางที่เหมาะสม และไม่ให้กระทบต่อเส้นทางการสัญจรของประชาชนต่อไป

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

09.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชนพื้นที่ กทม.
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
10.50 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมรวมพลังคนกรุงเทพฯ เอาชนะยาเสพติด”
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีส่งมอบ “บ้านหนังสือ” จากบริษัท รอแยลเฮ้าส์ จำกัด
ณ โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน
15.00 น. นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมสถานีดับเพลิงดุสิตและสถานีดับเพลิงสามเสน
ณ สถานีดับเพลิงดุสิตและสถานีดับเพลิงสามเสน

กทม. รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ค้าเขตทุ่งครุ

นายสัญญา จันทรัตน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รับหนังสือร้องทุกข์จากตัวแทนผู้ค้าในพื้นที่เขตทุ่งครุ เนื่องจากไม่พอใจนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการเขตทุ่งครุ โดยมีนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร ร่วมรับทราบข้อมูลการร้องทุกข์ ณ ห้องรับรองสภากทม. ชั้น 3. ศาลาว่าการรกทม.

มีนบุรีเชิญ ชม ชิม ช้อป สินค้าราคาถูก

นายอรุณ พ่วงสมบัติ ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กทม. แจ้งว่า ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 24 ก.พ. 55 ระหว่างเวลา 09.00 – 15.00 น. เขตฯ จัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกตามโครงการ “ขายสินค้า สร้างรายได้ เพิ่มรอยยิ้ม ช่วยผู้ประสบอุทกภัย” ที่บริเวณหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองมีนบุรี สินค้าที่นำมาจำหน่าย ได้แก่ ศิลปประดิษฐ์จากผ้า อาทิ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ ผ้าบาติก แหนมเห็ด น้ำสมุนไพร น้ำพริกสมุนไพร ขนมเทียนแก้ว ขนมไทยโบราณ ข้าวแต๋น ขนมเบื้อง อาหารกระป๋อง สำหรับของใช้ในครัวเรือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่สมุนไพร แป้ง น้ำปลา เครื่องปรุงรส และสินค้าราคาถูกจากโรงงาน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีบริการเสริมสวย ตัดผม ซอยผม ทั้งสุภาพบุรุษและสตรี สาธิตการฝึกอาชีพดอกไม้ดิน การตกแต่งแจกัน ด้วยผ้าไหม การทำกระเป๋าสานด้วยหวาย/ผักตบชวาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ยังมีการนวดเพื่อสุขภาพในราคาย่อมเยา

ส.ก.เขตปทุมวัน จัดอบรมให้ความรู้การป้องกันอุบัติภัยผู้นำชุมชน เน้นสร้างหัวใจของท้องถิ่นให้เข้มแข็งเป็นต้นแบบของ 50 เขต

(19 ก.พ. 55) น.ส.อุไร อนันตสิน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ฐานะคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย สภากทม. เป็นประธานเปิดโครงการอบรมสัมมนาการป้องกันอุบัติภัยเพื่อรักษาความปลอดภัยในชุมชน รุ่นที่ 1 โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาชุมชน สำนักงานเขตปทุมวัน สถานีตำรวจลุมพินี และวิทยากรตำรวจตระเวณชายแดนจากค่ายศรียานนท์ ร่วมให้การอบรม แก่ อาสาสมัครตำรวจบ้าน จำนวน 44 คน และผู้นำชุมชนเขตปทุมวัน จำนวน 22 คน ณ ค่ายศรียานนท์ จ.เพชรบุรี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภาคสนามโดดหอสูง 34 เมตร และศึกษาดูงานด้านการป้องกันอุบัติภัยในชุมชน ณ ชุมชนเทศบาลชะอำ จ.เพรชบุรี อีกด้วย
น.ส.อุไร กล่าวว่า ท้องถิ่นจะเข้มแข็งไม่ได้ หากผู้นำในชุมชนและประชาชนขาดจิตสำนึก ขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันอุบัติภัยอย่างถูกต้อง ขาดกระบวนการถ่ายทอดความรู้และขาดการพัฒนาวิสัยทัศน์ ทรัพยากรบุคคลในชุมชนถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาให้ประเทศมีความเข้มแข็ง ดังนั้นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือการเตรียมคนจึงเป็นปัจจัยหลักสำคัญในความสำเร็จของการพัฒนาในระดับชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าหน้าที่ตำรวจและช่วยลดปัญหาต่างๆ ในชุมชน ทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งและเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่ออุบัติภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ฐานะคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย สภากทม. ตระหนักและให้ความสำคัญในด้านการป้องกันและดูแลความปลอดภัยในชุมชนถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งในระดับท้องถิ่น โดยพร้อมจะผลักดันอย่างต่อเนื่องให้ชุมชนเขตปทุมวันมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ เป็นชุมชนต้นแบบของกรุงเทพมหานครต่อไป
สำหรับโครงการสัมมนาฝึกอบรมความปลอดภัยในชุมชน มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ชุมชนและประชาชน เข้ามามีส่วนร่วม ในการช่วยสอดส่องดูแลเฝ้าระวังชุมชนของตนเอง ลดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมในชุมชนพื้นที่เขตปทุมวัน เป็นแนวร่วม ในการแจ้งข่าวสารและปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาคอื่นๆ และเป็นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ช่วยลดปัญหายาเสพติด ลดอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสงบสุขให้กับชุมชนของกรุงเทพมหานครอีกด้วย

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เขตหนองแขมรับสมัครอาสาสมัคร

นายพิบูล เวคะวากยานนท์ ผู้อำนวยการเขตหนองแขม กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับสมัครคัดเลือกบคคลเป็นอาสาสมัครปฏิบัติงานด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตหนองแขม ตั้งแต่บัดนี้ถึง 24 ก.พ. 55 สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2421 4816 ในวันและเวลาราชการ

ผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ ยันรถไฟฟ้าโมโนเรล-ไรท์เรลต้องเกิดแน่ในกรุงเทพฯ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นางนินนาท ชลิตานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร คณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสื่อมวลชนเยี่ยมชมระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) ระหว่างวันที่ 11-14 ก.พ. 55 ณ มหานครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เมื่อมาถึงสนามบินเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 11 ก.พ. 55 ได้นั่งรถไฟความเร็วสูง “แมคเลฟ” (MAGLEV) ซึ่งเป็นรถไฟระบบแม่เหล็กที่ถูกบันทึกว่าเร็วที่สุดในโลก คือ ความเร็ว 431 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันมีเส้นทางเดียว คือ จากสนามบินเซี่ยงไฮ้มาตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 7 นาที ถือเป็นประสบการณ์สำคัญที่ได้มีโอกาสนั่งรถไฟที่เร็วที่สุดในโลก ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น โดยส่วนตัวเห็นว่ากรุงเทพฯ ยังไม่เหมาะที่จะใช้ระบบนี้ เพราะไม่คุ้มค่า และใช้งบประมาณลงทุนสูงนับหมื่นล้านบาท สาธารณรัฐประชาชนจีนมีอัตราการขยายตัวทาง่เศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจีนจึงพยายามยกระดับขีดความสามารถทางการขนถ่ายสินค้าของประเทศจีนให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากทั่วโลก ฉะนั้นจีนจึงจำเป็นต้องมีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และครอบคลุมการให้บริการสำหรับประชาชนอย่างดีที่สุด และปัจจุบันสามารถก่อสร้างระบบขนส่งรถไฟฟ้าได้ถึง 11 สาย จากทั้งหมด 13 สาย รวมระยะทาง 425 กิโลเมตร และขณะนี้ประเทศจีนอยู่ระหว่างก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอีก 450 กิโลเมตร แล้วเสร็จในปี 2557
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า รถไฟความเร็วสูง หรือ”แมคเลฟ” (MAGLEV) นี้ ใช้เทคนิค Areo Train คือ การลดแรงเสียดทาน จึงสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูง โดยรถไฟจะลอยจากรางประมาณ 2 เซนติเมตร และทั้ง 2 ข้างมีเหล็กหุ้มห่างออกไปข้างละ 1 เซนติเมตร เวลาที่รถไฟออกตัวจึงเหมือนลักษณะบิน
สำหรับวันที่ 12 ก.พ. 55 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะฯได้ออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงแบบหัวกระสุน โดยใช้ระบบไฟฟ้า ซึ่งทำความเร็วได้ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเดินทางจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองหางโจว ระยะทาง 160 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 49 นาที การลงทุนก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงครั้งนี้ทำให้จีนเปิดตัวทางเศรษฐกิจกว้างขวางขึ้น โดยเฉพาะภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามหากกรุงเทพฯ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าถึงมากกว่านี้ได้ ประกอบกับมีการลงทุนในระยะยาวและ มีการวางผังเมืองที่ดี ก็อาจมีระบบรถไฟแบบนี้ โดยอาจสร้างในจังหวัดใกล้ๆ กรุงเทพฯ ในระยะทาง 70-200 กิโลเมตร จะทำให้ประชาชนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ สะดวกขึ้น ซึ่งหากทำได้จะเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชน รวมทั้งลดความหนาแน่นของประชากร และประชาชนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้หากประเทศไทยจะสร้างระบบขนส่งมวลชนเช่นเดียวกัน จะต้องลงทุนมหาศาล โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร การป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือการก่อการร้ายที่จำเป็นต้องมีกล้องวงจรปิดครอบคลุมทั้งพื้นที่ และมาตรการเข้มงวดต่างๆ
จากนั้น ผู้ว่าฯกทม. และนายเซียว ว่าน หมิง รองผู้ว่าราชการเมืองฉางชุน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ ระหว่างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท Changchun Railways Vehicles Co.Ltd นับเป็นความร่วมมือที่สำคัญเพื่อตอบสนองการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางของเมืองเซี่ยงไฮ้ และกรุงเทพฯ ที่จะรองรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบางหว้าซึ่งจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการรถไฟระบบโมโนเรลและไรท์เรลเป็นระบบขนส่งที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้มีการชะลอออกไป เนื่องจากมีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่ตนยืนยันว่าระบบนี้จะต้องมีในกรุงเทพฯ ทั้งนี้การสร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ อย่างบีทีเอสและบีอาร์ที ให้ครบทุกพื้นที่ทำได้ยาก แต่ระบบโมโนเรลและไรท์เรลใช้พื้นที่น้อย และลงทุนน้อย ทั้งยังสามารถอำนวยความสะดวกได้เช่นเดียวกับบีทีเอส หากไม่ดำเนินการโครงการนี้ ความหนาแน่นของจราจรในกรุงเทพฯจะไม่ลดลง อย่างไรก็ตาม ตนมีแผนงานโครงการดังกล่าวแล้ว รวมทั้งได้ศึกษาเส้นทางไว้เรียบร้อยแล้ว หากผู้ว่าฯ กทม. ในสมัยหน้า ต้องการเดินหน้าโครงการนี้ก็สามารถทำได้ทันที
“ผมวางแผนและศึกษาเส้นทางรถไฟระบบโมโนเรลไว้แล้ว ใครมาเป็นผู้ว่าฯ สมัยหน้า ยังไงก็ต้องทำ เพราะประชาชนต้องใช้สัญจรเพื่อไปทำงาน ติดต่อหน่วยงานราชการและสถานที่ต่างๆ ส่งผลให้การจราจรติดขัด เดินทางไม่สะดวก ดังนั้นโครงการนี้จะช่วยแก้ไขและต้องเดินหน้าให้ได้” ผู้ว่าฯกทม. กล่าว

กทม. เพิ่มเวลายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมถึง 2 ทุ่มไม่เว้นวันหยุดราชการ

(17 ก.พ. 55) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยในทุกข์สุขของประชาชนชาวกรุงเทพฯ ตามที่มีผู้ประสบอุทกภัยจำนวนมากยังไม่ได้มายื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม กทม. จึงเพิ่มเวลาให้บริการยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี ครัวเรือนละ 5,000 บาท และการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ จำนวน 5 รายการ ได้แก่ บ้านเรือนเสียหายบางส่วนไม่เกิน 20,000 บาท บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 30,000 บาท ค่าทำศพ 25,000 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,500 บาทไม่เกิน 2 เดือน และอุปกรณ์ประกอบอาชีพได้รับความเสียหายไม่เกิน 10,000 บาท ในพื้นที่ 42 เขตประสบอุทกภัย เพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ยังไม่ได้ยื่นคำร้อง โดยประชาชนสามารถยื่นคำร้องฯ ณ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้ตั้งแต่เวลา 08.00–20.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 29 ก.พ. 55
ในส่วนของหลักฐานประกอบการยื่นคำร้อง ประชาชนต้องนำหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง กรณีเงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้าน 1,500 บาท จะต้องมีเอกสารการเช่าบ้านหรือใบเสร็จรับเงินค่าเช่าบ้าน อีกทั้งกรณีเงินช่วยเหลือด้านเครื่องมือประกอบอาชีพสูญหาย ผุ้ประสบภัยจะต้องไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจท้องที่ จากนั้นให้นำใบแจ้งความไปยื่นเป็นหลักฐานด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

07.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำของนายกรัฐมนตรี
ณ โรงแรมแคนทารี จ.พระนครศรีอยุธยา
10.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมระหว่างผู้บริหารกับหัวหน้าฝ่ายรายได้สำนักงานเขต (แนวดิ่ง) ครั้งที่ 1/2555
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
10.00 น. นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การจัดงานพระราชทานเพลิงพระศพฯ
ณ ห้องสุทัศน์ กทม.
11.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมศูนย์กีฬาบางบอน
ณ ศูนย์กีฬาบางบอน
13.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุม กอ.รมน.กทม. ครั้งที่ 1/2555
ณ ห้องนพรัตน์ กทม.

บางนาและมีนบุรีออกหน่วยเคลื่อนที่ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

เขตบางนา นายทรงชัย พยอมแย้ม ผู้อำนวยการเขตบางนา กทม. เปิดเผยว่า เขตฯ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ เขตประเวศ จะออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่บริการทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและยาคุมกำเนิดแก่สุนัขและแมว ในวันที่ 20 ก.พ. 55 ณ วัดผ่องพลอยวิริยาราม ซ.ลาซาล 56 และวันที่ 28 ก.พ. 55 ณ วัดบางนานอก เขตบางนา เวลา 09.00-12.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่เขตฯ จึงขอเชิญชวนประชาชนนำสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) มารับบริการฯ ได้ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ โทร.0 2397 3695-7 ต่อ 6066-7
เขตมีนบุรี นายอรุณ พ่วงสมบัติ ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี กทม. แจ้งว่า เขตฯ ร่วมกับสำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขฯ และศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี กำหนดจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนชาวมีนบุรีที่จะลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคพิษสุนัขบ้า โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ดังนี้ วันที่ 20 ก.พ. 55 ออกหน่วยที่หมู่บ้านประภาวรรณโฮม วันที่ 21 ก.พ. 55 ชุมชนมีนบุรีการ์เด้นโฮม วันที่ 22 ก.พ. 55 ชุมชนฉัตรหลวง วันที่ 23 ก.พ. 55 ชุมชนคลองตะโหนด วันที่ 24 ก.พ. 55 ชุมชนโซ๊ะมันร่วมพัฒนา วันที่ 27 ก.พ. 55 ชุมชนนูรุ้ลพัฒนา ระหว่างเวลา 10.00–12.00 น. จึงขอให้ประชาชนตามสถานที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง นำสัตว์เลี้ยงไปรับบริการ

38 ส่วนราชการของกทม. ตบเท้ารับรางวัลด้านการให้บริการดีเยี่ยม

(16 ก.พ. 55) เวลา 14.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบรางวัลแก่ส่วนราชการและสำนักงานเขตที่ได้รับคะแนนระดับดีเยี่ยม ตามโครงการคุณภาพการให้บริการของกรุงเทพมหานคร และโครงการตรวจประเมินผลและการจัดอันดับมาตรฐานการให้บริการของสำนักงานเขต รวม 38 หน่วยงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า)
ทั้งนี้ คณะกรรมการการพิจารณารางวัลคุณภาพการให้บริการของกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการตรวจประเมินและพิจารณาตัดสินคุณภาพผลงานของหน่วยงานแต่ละประเภทตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางการพิจารณารางวัลคุณภาพการให้บริการของกรุงเทพมหานคร โดยประเภทรายกระบวนงาน ไม่มีผลงานผ่านเกณฑ์ และประเภทนวัตกรรมการให้บริการ ได้แก่ ผลงาน “การลดขั้นตอนการเจาะเลือดในผู้ป่วยนอก” ของโรงพยาบาลกลาง สังกัดสำนักการแพทย์ สำหรับส่วนราชการของสำนักงานเขตที่ได้คะแนนระดับดีเยี่ยม จำนวน 37 หน่วยราชการ ตามโครงการตรวจประเมินผลและจัดอันดับมาตรฐานการให้บริการของสำนักงานเขต ซึ่งมีหน่วยราชการที่ได้ 100 คะแนนเต็ม ได้แก่ ฝ่ายรายได้ เขตห้วยขวาง จอมทอง ดอนเมือง พระโขนง สวนหลวง หนองแขม วัฒนา ยานนาวา ดุสิต ทวีวัฒนา บางซื่อ บางพลัด ป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย จตุจักร ปทุมวัน ราชเทวี วังทองหลาง ดินแดง บางนา และฝ่ายการคลัง เขตหนองแขม ราษฎร์บูรณะ วัฒนา บางขุนเทียน ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางพลัด ลาดพร้าว บางนา ได้ 99.7 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายทะเบียน เขตบางขุนเทียน ได้ 99.5 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เขตจอมทอง และวัฒนา ได้ 98.5 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายการศึกษา เขตหนองแขม ได้ 96.4 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เขตลาดกระบัง ได้ 95 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายปกครอง เขตพญาไท และฝ่ายโยธา เขตบางกะปิ ได้ 92.2 คะแนน ได้แก่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เขตราษฎร์บูรณะ ส่วนฝ่ายเทศกิจไม่มีส่วนราชการของสำนักงานเขตใดได้คะแนนในเกณฑ์ระดับดีเยี่ยม

วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ราษฎร์บูรณะจัดโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพระยะสั้น

นางฉัฐนันท์ อินทราชา ผู้อำนวยการเขตราษฎร์บูรณะ กทม. แจ้งว่า เขตฯ จัดโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพระยะสั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนาทักษะ ส่งเสริมอาชีพ และเป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตามนโยบายด้านเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ การฝึกอบรมอาชีพระยะสั้นดังกล่าว ได้จัดให้มีการอบรมการเพ้นท์เล็บ ในวันที่ 16 - 18 ก.พ. 55 ณ ศูนย์ฝึกอาชีพและบริหารเงินออมครอบครัว เขตราษฎร์บูรณะ และในวันที่ 19 – 20 ก.พ. 55 ณ ชุมชนบูรณะสุดเขต เขตราษฎร์บูรณะ จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าวตามวัน และสถานที่ข้างต้น สอบถามเพิ่มเติมที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ โทร.0 2428 4747

กทม. เตรียมรักษาความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ

(15 ก.พ. 55) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมกรุงธน 1 ชั้น 2 สำนักเทศกิจ : นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมการรักษาความปลอดภัยและการจราจรบริเวณสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียง โดยจัดรถดับเพลิง รถไฟฟ้าส่องสว่าง และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 100 นาย ในช่วงที่กำลังก่อสร้างพระเมรุบริเวณท้องสนามหลวง จนกระทั่งเสร็จพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ จำนวน 500 นาย เพื่อตรึงมิให้ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยเข้าไปทำการค้าในบริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียงรอบมณฑลพิธี โดยเฉพาะช่วงจัดงานวันที่ 8-12 เม.ย. 55 และตรวจสอบกล้อง CCTV ที่อยู่รอบท้องสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ใช้งานได้เป็นปกติ การจัดเตรียมรถสุขา แท้งค์น้ำ หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ จัดตั้งกองอำนวยการ พร้อมทั้งประสานไฟฟ้าสำรองจากการไฟฟ้านครหลวง และกรมเจ้าท่าให้ดูแลความมั่นคงแข็งแรงของท่าเรือข้ามฝากระหว่างสะพานพุทธ - ท่าพระอาทิตย์

กทม. เข้มเฝ้าระวังย่านชุมชนและจุดเสี่ยง สร้างความมั่นใจให้ประชาชน

15 ก.พ. 55 เวลา 15.00 น. ที่ศาลาว่าการกทม. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันด้านความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ จากกรณีเกิดเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (14 ก.พ. 55 ) เวลาประมาณ 14.00 น. ณ บริเวณ ซ.สุขุมวิท 71 จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย โดยจับตัวคนร้ายและผู้ต้องสงสัยชาวอิหร่านได้ 2 ราย นั้น ในวันและช่วงที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับจากราชการที่ต่างประเทศ และมีภารกิจต่อในการร่วมประชุมการรับเสด็จพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในงานมูลนิธิซีไรท์ แต่ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตลอด ด้วยความห่วงใย จึงมอบหมาย ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไปตรวจสอบร่วมในเหตุการณ์โดยตลอด พร้อมกับผู้อำนวยการเขตวัฒนา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
พร้อมสนับสนุนหน่วยงานด้านความมั่นคงเต็มที่
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของฝ่ายความมั่นคง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าของพื้นที่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยส่งเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย จำนวน 17 นาย พร้อมรถดับเพลิง 4 คัน เจ้าหน้าที่เทศกิจเขต จำนวน 20 นาย ไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกันฝูงชนและอำนวยการจราจร และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาด จำนวน 20 คน พร้อมรถน้ำ และรถไฟฟ้าส่องสว่าง เข้าทำความสะอาดพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากเศษวัตถุต่างๆ ที่เกิดจากเหตุระเบิดแล้วเสร็จเมื่อเย็นวานนี้
ส่งเทศกิจ 3,500 นาย หมั่นตรวจตราย่านชุมชนและจุดเสี่ยง
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน. กรุงเทพมหานคร กำหนดจะจัดประชุมภารกิจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 17 ก.พ. นี้ อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการดูแลป้องกัน รักษาความปลอดภัย ความสงบของบ้านเมือง และบรรเทาภัยต่างๆ กรณีมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครเกิดความมั่นใจในศักยภาพและความพร้อมของหน่วยงานด้านความมั่นคง และการสนับสนุนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้รับการฝึกฝน อบรมเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงานด้านความมั่งคงและด้านการรักษาความสงบมาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะต่างๆ ที่พร้อมจะดูแล ป้องกัน บรรเทาภัย และให้ความช่วยเหลือ โดยสำนักเทศกิจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ 50 เขต ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 3,500 นาย คอยดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชานในย่านชุมนุมชนต่างๆ เช่น สถานีขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ ย่านการค้าหรือแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนพื้นที่จุดเสี่ยงภัย สถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งรักษาความสงบปลอดภัย เจ้าหน้าที่เทศกิจที่ผ่านการอบรมด้านการหาข่าว และความมั่นคงเป็นหน่วยสนับสนุน 300 นาย สามารถช่วยเหลือเจ้าพนักงานฝ่ายตำรวจเมื่อเกิดสถานการณ์ได้ โดยรับแจ้งเหตุ ผ่านสายด่วน กทม. 1555 พร้อมทั้งรับแจ้งเบาะแสผ่านตู้เขียวไฮเทค จำนวน 28 ตู้
คนงานเก็บกวาดและอาสาสมัครร่วมเป็นตาสับปะรด
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตพื้นที 50 เขต ได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจในการดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัย ตรวจตราอาคาร สถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน แหล่งสาธารณูปโภค ตรวจสอบวัสดุต้องสงสัย โดยอบรมให้เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด และพนักงานเก็บขนมูลฝอย ประมาณ 25,000 คน ที่ทำงานใกล้ชิดพื้นที่คอยเป็นหูเป็นตา และช่วยหาข่าว อีกทั้งประสานงานกับอาสาสมัครร่วมป้องกันภัย อปพร. ตำรวจบ้าน วินจักรยานยนต์รับจ้าง และ สน.พื้นที่ โดยตลอด ส่วนสำนักสิ่งแวดล้อม มีอุปกรณ์ เช่น รถน้ำ รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ ในการให้ความช่วยเหลือ โดยมีพนักงาน กวาดและเก็บขนมูลฝอยประมาณ 3,500 คน ช่วยเป็นหูเป็นตา ส่วนสำนักการโยธา มีความพร้อมเรื่องยานพาหนะ เช่น รถขุด รถตัก รถกระเช้า รถยก รถลากจูง รถบรรทุกเทท้าย ฯลฯ พร้อมทั้งมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หรือ BEST ที่พร้อมจะเข้าไปซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพปกติ ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ทั้ง 9 แห่ง พร้อมรองรับผู้ป่วย และประสานกับโรงพยาบาลผ่านเครือข่ายศูนย์เอราวัณ โดยมีทีมหน่วยแพทย์กู้ชีวิตคอยให้ความช่วยเหลือ โดยรับแจ้งรถพยาบาลผ่านสายด่วน 1646 ตลอด 24 ชั่วโมง
เพิ่มกล้อง CCTV พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยแจ้งเหตุ
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดของกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการทำงานของฝ่ายรักษาความมั่นคงอย่างเต็มที่ โดยการตรวจตรา ดูแลความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ อย่างเข้มงวด เคร่งครัด โดยเฉพาะย่านชุมชน หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ย่านเยาวราช เจริญกรุง สุขุมวิท ถนนข้าวสาร เป็นต้น พร้อมทั้งให้สำนักการจราจรและขนส่งคอยตรวจสอบให้กล้อง CCTV ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องเพิ่มเติมในย่านที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก อาทิ ข้าวสาร อโศก ทองหล่อ อีกด้วย ทั้งนี้ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว จำนวน 12,000 ตัว กำลังเร่งรัดติดตั้งอีก 10,000 ตัว ภายในปี 2555 ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ หากพบเหตุสิ่งผิดปกติหรือต้องสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว โดยโทรสายด่วน 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม. เปิดรับสมัครงานหลายอัตรา

นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ กทม. แจ้งว่า หน่วยงานของกรุงเทพมหานครเปิดรับสมัครงานหลายอัตรา ดังนี้
สำนักผังเมือง เปิดรับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ ส1 จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจสามารถขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ฝ่ายการเจ้าหน้าที่ สำนักงานเลขานุการ สำนักผังเมือง อาคาร 1 ชั้น 2 ระหว่างวันที่ 22-29 ก.พ. 55 สอบถามโทร.0 2354 1256 ในวันและเวลาราชการ
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย เปิดรับสมัครสอบคัดเลือกและแต่งตั้งบุคคลเข้าเป็นพนักงานชั่วคราว ตำแหน่ง ผู้จัดการสำนักงาน จำนวน 1 อัตรา ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานเขตลาดพร้าว ชั้น 8 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 17 ก.พ. 55 สอบถามโทร.0 2538 8067 ต่อ 104 ในวันและเวลาราชการ
สำนักงานเขตจอมทอง เปิดรับสมัครสอบและคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานสถานที่ บ1 จำนวน 1 อัตรา ปฏิบัติงาน ณ โรงเรียนวัดไทร สำนักงานเขตจอมทอง ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครได้ที่ฝ่ายการศึกษา ชั้น 4 สำนักงานเขตจอมทอง ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 17 ก.พ. 55 สอบถามโทร.0 2427 7459 ในวันและเวลาราชการ

ส่งเสริมการแต่งงานแบบไทยในงาน “บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2555”

(14 ก.พ. 55) นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานพร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีจดทะเบียนสมรส ของคู่บ่าวสาวในงาน “บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2555” ตอน ฟ้าจรดทราย...สู่ความหมายรักนิรันดร์ ซึ่งสำนักงานเขตบางรัก ร่วมกับสภาวัฒนธรรมเขตบางรัก และบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพ จำกัด (บสก.) จัดขึ้นในวันแห่งความรัก 14 ก.พ. 55 ณ อาคารบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพจำกัด ถ.สุรศักดิ์ เขตบางรัก เพื่อกระตุ้นให้คู่รักเห็นความสำคัญของการจดทะเบียนสมรส ซึ่งก่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้มั่นคง รวมทั้งส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของไทยให้คงอยู่สืบไป
โดยไฮไลท์ของงานในปีนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ได้แก่ การจัดพิธีมงคลสมรสตามแบบประเพณีไทยให้แก่คู่รัก 9 คู่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่ตักบาตรในช่วงเช้า การยกขบวนขันหมาก การจัดพิธีมงคลสมรส และการจดทะเบียนสมรส ตลอดจนการดูแลเครื่องแต่งกาย แต่งหน้า ทำผม พร้อมลุ้นจับทะเบียนทองคำจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้คู่รักยังได้ลุ้นรางวัลใหญ่ “เรือนหอแห่งความรัก” คอนโดเรือนหอตกแต่งพร้อมอยู่ มูลค่า 500,000 บาท และจับสลากหาคู่รักที่โชคดีเพื่อรับทะเบียนสมรสทองคำอีก 9 ใบ รวมทั้งของรางวัลต่างๆ

กทม. จัดกิจกรรมมอบความรักให้แก่คนพิการและรู้ถึงสิทธิประโยชน์ของตนเอง

(14 ก.พ. 55) เวลา 11.00 น. : นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานวันคนพิการกรุงเทพมหานคร “ชีวิตไม่ท้อ กทม.รักคุณ” ซึ่งสำนักพัฒนาสังคม กทม. จัดขึ้น เพื่อแสดงความรักความห่วงใยที่กรุงเทพมหานครมีต่อคนพิการ อีกทั้งสร้างความตระหนักการอยู่ร่วมกันในครอบครัว ชุมชน สังคม ระหว่างคนพิการและคนทั่วไป ตลอดจนประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้คนพิการรับรู้สิทธิประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ซึ่งภายในงานได้จัดให้การแสดงนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับคนพิการ การสาธิตผลงานและผลิตภัณฑ์ของคนพิการ การแสดงดนตรี และการเสวนา “สิทธิของคนพิการในการขอรับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนด้านคนพิการ อาทิ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ปกครองเด็กออทิสซึม สมาคมผู้พิการทางสติปัญญา อีกทั้งคนพิการและครอบครัวในพื้นที่ 50 เขต รวมกว่า 500 คน ร่วมงาน ณ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอพเฟอริน เขตห้วยขวาง
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า เนื่องในวันแห่งความรักนี้ กทม. ต้องการให้ทุกคนแสดงออกซึ่งความรักอย่างเท่าเทียม ซึ่งกทม.ได้ดำเนินการเพื่อผลักดันโครงการต่างๆ ที่จะทำให้คนพิการได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียม อาทิ การจ่ายเบี้ยยังชีพสำหรับผู้พิการ การรับผู้พิการเข้าทำงานในสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครและที่อื่นๆ ให้มากที่สุด การปรับปรุงด้านภายภาพให้ได้รับความสะดวกในการเดินทาง เช่น การปรับปรุงถนนและทางเท้าทั่วกรุงเทพฯ การจัดทำทางลาดภายในสำนักงานเขตซึ่งขณะนี้ดำเนินการแล้ว 44 สำนักงานเขต การเพิ่มจำนวนลิฟท์บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจากเดิม 5 สถานี 11 ตัว เป็น 19 สถานี 56 ตัว อีกทั้งการขยายโรงเรียนเรียนร่วมในสังกัดกทม.ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 101 โรงเรียน และการจัดทำซองยาเป็นอักษรเบลล์เพื่อผู้พิการทางสายตาในโรงพยาบาลและศูนย์สาธารณสุขของกทม. ทั้งนี้ประมาณปลายปี 2555 กทม. จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสมัชชาสหภาพคนตาบอด ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 1,700 คนจาก 190 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นจะมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับผู้ที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้อีกด้วย
ด้านนายยงสิทธิ์ ยงกมล นักศึกษาปริญญาโท วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตัวแทนผู้พิการทางสายตาที่เข้าร่วมงาน กล่าวแสดงความขอบคุณกทม. ที่เล็งเห็นความสำคัญของคนพิการ อีกทั้งเปิดโอกาสให้คนพิการได้แสดงศักยภาพตามความถนัด และได้รับสิทธิที่เท่าเทียมกันภายใต้ความแตกต่างของแต่ละบุคคล ตลอดจนดำเนินนโยบายต่างๆ ทั้งการศึกษาและการประกอบอาชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนพิการ พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวให้กำลังใจแก่ผู้พิการทุกคนและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ตนเองเพื่อเดินหน้าทำตามความฝันของตนเองให้เป็นจริงให้ได้

วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

08.00 น. นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานสภา กทม. เปิดงาน “จอมทอง แจกทอง ฉลองวาเลนไทน์”
ณ สำนักงานเขตจอมทอง
09.00 น. นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานพิธีมงคลสมรส 9 คู่วิวาห์มหามงคล “บางรัก...มรดกรักแห่งแผ่นดิน 2555”
ณ หน้าอาคารสำนักงานบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด ถ.สุรศักดิ์
09.30 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ถวายแด่พระผู้เทศน์ในกัณฑ์หิมพานต์
ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชน กทม. (ไทย – ญี่ปุ่น) ดินแดง
10.00 น. ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการวิสามัญจ่ายขาดเงินสะสมฯ
ณ ห้องประชุม 4 – 6 สภา กทม.
11.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันคนพิการ
ณ โรงแรมโกลเด้นท์ทิวลิป พระราม9 เขตห้วยขวาง
11.00 น. รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. เป็นประธานแถลงข่าวการจัดกิจกรรม รณรงค์รวมใจต้านภัยเอดส์
ณ ลาน Sky Hall ห้างสรรพสินค้า N-Mark Plaza บางกะปิ
13.30 น. ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำกับและติดตามการปฏิบัติงานด้านเทศกิจและหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต ณ ห้องประชุมสำนักเทศกิจ
13.30 น. นายวิชัย หุตังคบดี ประธาน อ.ก.ก.การศึกษาและวัฒนธรรม สภา กทม. ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายหลังประสบอุทกภัย
ณ โรงเรียนวัดบางพลัด เขตบางพลัด
17.00 น. นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “รักแท้ รักษ์ธรรม นำชีวิต”
ณ ท้องสนามหลวง

ยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยถึง 28 ก.พ. 55

(13 ก.พ. 55) เวลา 11.00 น. ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. : นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรุงเทพมหานคร (ก.ช.ภ.กทม.) เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 5 รายการ พร้อมอนุมัติเงินช่วยเหลือค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต จำนวน 12 ราย สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 5 รายการ ได้แก่ กรณีบ้านเสียหายทั้งหลัง จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท กรณีบ้านเสียหายบางส่วน จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท กรณีผู้ประสบภัยเช่าบ้านของผู้อื่นและบ้านเช่าเสียหายทั้งหลังหรือบางส่วนจนอยู่อาศัยไม่ได้ช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้านครอบครัวละไม่เกิน 1,500 บาท ไม่เกิน 2 เดือน กรณีทรัพย์สินซึ่งเป็นเครื่องมือประกอบอาชีพและหรือเงินทุกประกอบอาชีพเสียหาย ครอบครัวละไม่เกิน 10,000 บาท และช่วยเหลือค่าจัดการศพรายละ 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวให้จ่ายอีก 25,000 บาท โดยในส่วนการรับเงินช่วยเหลือเนื่องจากบ้านเสียหายทั้งหลังหรือกรณีบ้านเสียหายบางส่วนนั้น แม้จะเป็นบ้านที่บุกรุกที่สาธารณะถือว่ามีสิทธิได้รับการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์หากเป็นผู้ประสบภัยพิบัติ และบ้านที่อาศัยอยู่ประจำได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้จะต้องนำเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อนำไปเป็นเอกสารประกอบการยื่นคำร้อง กรณีเงินช่วยเหลือเป็นค่าเช่าบ้าน 1,500 บาท จะต้องมีเอกสารการเช่าบ้านหรือใบเสร็จรับเงินค่าเช่าบ้าน อีกทั้งกรณีเงินช่วยเหลือด้านเครื่องมือประกอบอาชีพสูญหายนั้น ผู้ประสบภัยจะต้องไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจท้องที่ จากนั้นให้นำใบแจ้งความไปยื่นเป็นหลักฐานด้วย โดยประชาชนสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติม ณ สำนักงานเขตที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 ก.พ. 55 นอกจากนี้ได้สั่งการให้สำนักงานเขตรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สถานพยาบาลนอกสังกัดกทม. พร้อมให้บริการเบิกจ่ายตรงเพิ่มเติม 2 แห่ง

นายกฤษฎา ศิริพิบูลย์ รองผู้อำนวยการสำนักการคลัง กทม. แจ้งว่า สถานพยาบาลนอกสังกัดกรุงเทพมหานครพร้อมให้บริการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลข้าราชการและลูกจ้างกรุงเทพมหานครให้แก่สถานพยาบาลด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ เพิ่มอีกจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1. โรงพยาบาลแปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และ 2. โรงพยาบาลพิมาย จ.นครราชสีมา โดยขณะนี้มีสถานพยาบาลนอกสังกัดกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมโครงการระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลแล้วทั้งสิ้น 396 แห่ง
ทั้งข้าราชการ ลูกจ้างในสังกัดกรุงเทพมหานคร และข้าราชการบำนาญ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพื่อเข้าสู่ระบบการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลได้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 55 เป็นต้นไป กรณีผู้ป่วยนอกสามารถใช้บริการได้หลังจากลงทะเบียน 15 วัน สำหรับผู้ป่วยในสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทันทีที่สมัครลงทะเบียน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2224 0486 หรือเบอร์ภายในโทร. 1187

รพ.จุฬารัตน์สุวรรณภูมิ (จุฬารัตน์1) จ.สมุทรปราการ เปิดบริการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลกรณีไตวาย

นายกฤษฎา ศิริพิบูลย์ รองผู้อำนวยการสำนักการคลัง กทม. แจ้งว่า ขณะนี้มีสถานพยาบาลของเอกชนเข้าร่วมโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยวิธีไตเทียม กรณีการส่งต่อผู้ป่วยกับกรุงเทพมหานครเพิ่มเติมอีกหนึ่งแห่ง คือ โรงพยาบาลจุฬารัตน์สุวรรณภูมิ (จุฬารัตน์1) จ.สมุทรปราการ โดยเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันมีสถานพยาบาลของเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วทั้งสิ้น 88 แห่ง
สำหรับผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวที่เข้ารับการรักษาพยาบาลทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยวิธีไตเทียมในสถานพยาบาลเอกชนที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบการเบิกจ่ายตรงกับกรุงเทพมหานคร ให้เบิกจ่ายในอัตราเหมาจ่ายที่รวมค่าอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคตามประเภท อัตราค่าอวัยวะเทียม และอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคตามที่กระทรวงการคลังกำหนด จำนวน 2,000 บาทต่อครั้ง โดยแนบใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลทดแทนไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยวิธีไตเทียมของสถานพยาบาลที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบเบิกจ่ายตรง และหนังสือส่งตัวผู้ป่วยรักษาต่อเนื่องกรณีรักษาทดแทนไตเพื่อประกอบการเบิกจ่าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กทม. โทร. 0 2224 0486

คกก.วิสามัญจ่ายขาดเงินสะสม ปี 55 แนะเขตสำรวจความพร้อมหน่วยงานภายนอกก่อนว่าจ้างลอก คู คลอง

(9 ก.พ. 55) นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบให้กทม. จ่ายขาดเงินสะสม 1.5หมื่นล้านบาท โดยมีหน่วยงานกทม. เข้าชี้แจง ประกอบด้วย สำนักการศึกษา สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว สำนักงานเขตดอนเมือง เขตสายไหม และเขตบึงกุ่ม ณ ห้องประชุมสภา 3-6 ศาลาว่าการกทม.
ที่ประชุมคกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตการบริหารราชการของผู้บริหารสำนักการศึกษาควรจัดสรรงบประมาณเพื่อเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้กับนักเรียนกทม. ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโภชนาการทางอาหารเพื่อการเจริญเติบโตของเยาวชนอีกด้วย ทั้งควรจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อสอดส่องดูแลสถานการศึกษาและนักเรียน เนื่องจากพบว่าโรงเรียนกทม. บางแห่งใช้ภารโรง ทำหน้าที่แทน ซึ่งประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยยังไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งควรรณรงค์ให้เยาวชนใช้ถุงยางอนามัยในช่วงวันวาเลนไทน์ ทั้งนี้เพื่อย้ำให้นักเรียนรู้จักป้องกันตนเองก่อนมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว ควรหาที่สร้างลานกีฬาต่างๆและสนามฟุตซอลเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ รวมทั้งส่งเสริมนักกีฬาที่มีความสามารถเพื่อให้ติดทีมชาติไทย อันจะเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนกทม. และประเทศไทย ทั้งควรปรับปรุงห้องสมุดประชาชนกทม. ให้มีความสวยงามน่าใช้งาน รวมทั้งจัดสรรหนังสือที่มีคุณภาพ และพิจารณาระบบอิเล็กทรอนิกส์สืบค้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่สะดวกในการค้นหาหนังสือให้กับประชาชน ทั้งควรเร่งปรับปรุงศูนย์กีฬาต่างๆ ให้มีความทันสมัยและมีความพร้อมให้ประชาชนมาออกกำลังกาย นอกจากนี้สำนักงานเขตที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ควรมีแผนแม่บทระยะสั้นและระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทั้งควรสำรวจคู คลอง ย่อยต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อเสนอให้กับผู้บริหารในการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งหากสำนักงานเขตมีความจำเป็นในการว่าจ้างเอกชนหรือหน่วยงานภายนอก ควรมีการประชุมเพื่อสำรวจความพร้อมและกำหนดเนื้องานให้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทันตามแผนงานที่วางไว้

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม.ปล่อยขบวนจักรยานยนต์สายตรวจเทศกิจ ดูแลความปลอดภัยคนเมือง

ปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์สายตรวจเทศกิจ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว เข้าถึงจุดเกิดเหตุทันต่อเหตุการณ์ รวมทั้งดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน
(10 ก.พ.55) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์สายตรวจเทศกิจ จำนวน 100 คัน ออกปฏิบัติงานดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตรวจตราจุดเสี่ยงภัยในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 50 สำนักงานเขต รวมถึงสนับสนุนการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศกิจ จึงดำเนินการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ขนาด 250 ซี.ซี. จำนวน 250 คัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เทศกิจทั้งที่อยู่ในพื้นที่เขต และส่วนกลางคือสำนักเทศกิจสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และความต้องการของประชาชน ทั้งด้านการจัดระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง การตรวจจุดเสี่ยงภัยในพื้นที่ การดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ชุมนุมของมวลชน ตลอดจนการสนับสนุนมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพราะการใช้จักรยานยนต์จะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้คล่องตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดระเบียบเมือง รวมทั้งการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน ประชาชนและสังคมมีความสงบสุข อย่างไรก็ตามการดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองต้องอาศัยกำลังของเจ้าหน้าที่เทศกิจ ทั้งในด้านการตรวจตราไม่ให้ประชาชนทำผิดกฎหมาย ตลอดจนการดูแลรักษาสิทธิของประชาชนในบริเวณพื้นที่สาธารณะ นอกจากการดูแลเรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองแล้ว สำนักเทศกิจยังต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ถึงแม้จะไม่ใช่ภารกิจหลักของกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในกรุงเทพมหานคร จึงถือว่าเป็นภารกิจที่กรุงเทพมหานครต้องทำหน้าที่เข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่เทศกิจจึงต้องรับภารกิจนี้ไปด้วยพร้อมๆกับการดูแลและจัดระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์
สายตรวจเทศกิจ
ณ ลานคนเมือง กทม.
เวลา 09.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุง
ภูมิทัศน์สนามหลวง
ณ ห้องนพรัตน์ กทม.
เวลา 17.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างกรุงเทพมหานคร
และฟูกูโอกะ
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
เวลา 19.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานเลี้ยงอำลาสัปดาห์เมืองพี่เมืองน้อง
ณ ห้องอาหาร Rib Room&Bar โรงแรมแลนด์มาร์ก

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนรถจักรยานยนต์
สายตรวจเทศกิจ
ณ ลานคนเมือง กทม.
เวลา 09.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุง
ภูมิทัศน์สนามหลวง
ณ ห้องนพรัตน์ กทม.
เวลา 17.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างกรุงเทพมหานคร
และฟูกูโอกะ
ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
เวลา 19.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมงานเลี้ยงอำลาสัปดาห์เมืองพี่เมืองน้อง
ณ ห้องอาหาร Rib Room&Bar โรงแรมแลนด์มาร์ก

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

หลอมข้าราชการใหม่ กทม. ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม และมุ่งมั่นทำงานด้วยใจเสียสละ

(9 ก.พ. 55) เวลา 09.30 น. : พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดการฝึกอบรมหลักสูตรปฐมนิเทศข้าราชการใหม่ของกรุงเทพมหานคร ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เขตวัฒนา ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ รวมถึงมีความรู้เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่และจรรยาบรรณของข้าราชการ ตลอดจนเสริมสร้างความคุ้นเคยอันจะก่อให้เกิดเจตคติและค่านิยมที่ดีต่อการทำงานเพื่อนส่วนรวม
ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ระดับปฏิบัติงาน และระดับปฏิบัติการ ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการกรุงเทพมหานคร ในปีงบประมาณ 2554 จำนวน 647 คน แบ่งเป็น 6 รุ่น โดยหลักสูตรการฝึกอบรมเป็นแบบไม่ต่อเนื่องรวม 11 วันทำการ ระหว่างเดือน ก.พ. – มิ.ย. 55 ประกอบด้วย พิธีเปิดการฝึกอบรมและบรรยายพิเศษ การฝึกอบรมภาควิชาการ การประชุมกลุ่มย่อยเพื่อจัดเตรียมผลงานรุ่น การนำเสนอผลงานรุ่น และการฝึกอบรมแบบพักค้าง ณ ต่างจังหวัด
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวแสดงความยินดีกับข้าราชการใหม่ทุกคนที่สามารถสอบผ่านและได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการของกรุงเทพมหานคร และได้เน้นย้ำให้ข้าราชการใหม่ทุกคนมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่การเป็นมหานครที่มีมาตรฐานทั้งด้านกายภาพและสังคม ยกระดับกรุงเทพมหานครให้ทัดเทียมกับมหานครชั้นนำของโลก นอกจากนี้ให้ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานอย่างเต็มกำลังความรู้ความสามารถ มีทัศนคติที่ดีและเหมาะสมกับการทำงานโดยเฉพาะงานบริการและช่วยเหลือประชาชน ต้องยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีจิตสาธารณะคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน อีกทั้งตั้งใจรับการฝึกอบรม นำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้กับงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

กทม.รับมอบสวนแนวตั้งย่านถนนเพลินจิต ตามโครงการ 84 สายถวายในหลวง

(8 ก.พ. 55) เวลา 16.00 น. : ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีรับมอบสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) บนเสาตอม่อบีทีเอส จำนวน 8 ต้น บริเวณสี่แยกเพลินจิต (ถนนเพลินจิตตัดถนนวิทยุ) ตามโครงการ 84 สายถวายในหลวง จากกลุ่มเพลินจิตซิตี้ ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ โดยบริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท นายเลิศ จำกัด และบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกลุ่มเพลินจิตซิตี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ อาคารปาร์คเวนเจอร์ สี่แยกเพลินจิต เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานครจัดทำโครงการ “84 สายถวายในหลวง” เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์เกาะกลางถนน พร้อมจัดทำสวนแนวตั้งบนถนน 84 สายทั่วกรุงเทพมหานคร ให้สอดคล้องกับแนวคิด “กรุงเทพฯ เมืองสวรรค์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 และเป็นการสร้างความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพมหานคร สร้างระบบนิเวศน์เมืองที่ยั่งยืน ( Sustainable Urban Ecology ) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการภาคเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครกว่า 30 แห่ง โดยในระยะแรกจะนำร่องบนถนน 24 สาย ในพื้นที่ 10 เขต ได้แก่ เขตปทุมวัน บางรัก วัฒนา ยานนาวา สาทร พระโขนง บางคอแหลม คลองเตย บางนา และสวนหลวง รวมความยาวทั้งสิ้น 116,599 เมตร ซึ่งกรุงเทพมหานครจะดำเนินการจัดทำสวนแนวตั้งรอบเสาตอม่อรถไฟฟ้า โดยนำลายจักสานที่มีเอกลักษณ์พื้นบ้านมาประยุกต์ใช้ และพัฒนาให้เป็นลวดลายสะท้อนกลิ่นอายความเรียบง่ายในเมืองหลวง นอกจากนี้ยังได้เลือกใช้พรรณไม้มีเอกลักษณ์ต่างสี ต่างขนาด และต่างรูปทรง มาสร้างสรรค์เป็นรูปแบบที่สวยงามน่าสนใจ แต่แฝงไว้ด้วยงานศิลป์สะท้อนวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทย รวมถึงการเลือกสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทนทาน มีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์สูง ลำต้นตรงไม่กีดขวางการจราจร และจะนำระบบน้ำหยดมาใช้ในการให้น้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้ได้รับความชุ่มชื้นสม่ำเสมอตลอดวัน

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กำชับสถานีดับเพลิง กทม. เฝ้าระวังพร้อมรับมือช่วงอากาศแห้ง-ร้อน

(7 ก.พ. 55) เวลา 14.00 น. : นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจในการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ รวมถึงรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน ณ สถานีดับเพลิงบรรทัดทอง และสถานีดับเพลิงสวนมะลิ
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยประชาชนอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการป้องกันภัยด้านต่างๆ ในพื้นที่ ซึ่งได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบวัดสุอุปกรณ์ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงานตลอดเวลา อีกทั้งซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติให้มากที่สุด รวมถึงให้มีการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าเป็นประจำต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างทักษะและร่างกายที่แข็งแรงสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยความถูกต้องและปลอดภัย สำหรับปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของถนนหรือพื้นที่คับแคบเข้าถึงได้ยาก จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่หมั่นลงพื้นที่ทำความเข้าใจและให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันสาธารณภัยด้านต่างๆ แก่ประชาชน เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในการป้องกันภัยในพื้นที่ สำหรับในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนอากาศจะแห้งอาจเกิดไฟไหม้ได้ง่าย ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จึงขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแลระวังภัยในพื้นที่ หากเกิดเหตุขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเพื่อให้การระงับเหตุหรือป้องกันสาธารณภัยในพื้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินได้มากที่สุด

กำหนดการกรุงเทพมหานคร วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เวลา 09.00 น. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีเปิดการประชุม Program for Enhancement of Emergency Response (PEER) Thailand
ณ โรงแรมสวิสโฮเตล ปาร์คนายเลิศ

เวลา 10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมสภา กทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 1
(ครั้งที่ 5) ประจำปี 2555 ณ ห้องประชุมสภา ชั้น 3 ศาลาว่าการ กทม.


เวลา 16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานพิธีรับมอบสวนแนวตั้งตามโครงการ 84 สาย ถวายในหลวง ณ ลานเอนกประสงค์ ด้านหน้าอาคารปาร์คเวนเจอร์ สี่แยกเพลินจิต

เขตบางนารับอาสาผู้ดูแลเด็ก

นายทรงชัย พยอมแย้ม ผู้อำนวยการเขตบางนา กทม. แจ้งว่า เขตฯ เปิดรับสมัครอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก จำนวน 10 อัตรา (เพศหญิง) เพื่อปฏิบัติงานประจำศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในชุมชนต่างๆ ในเขตบางนา ผู้สนใจให้ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตบางนา ตั้งแต่บัดนี้ถึง 29 ก.พ. 55 สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2397 3706 ต่อ 6083, 6084 ในวันและเวลาราชการ

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กทม.เตรียมสร้างซุ้มรับดอกไม้จันทน์ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ

(7 ก.พ.55) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 10.15 น. : ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการดำเนินการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งกทม.ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการฝ่ายจัดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ให้ดำเนินการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามซุ้มรับดอกไม้จันทน์บริเวณท้องสนามหลวง และวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร อีกทั้งจัดทำดอกไม้จันทน์เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ การจัดตั้งโรงทาน และภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติ
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.เตรียมจัดสร้างซุ้มรับดอกไม้จันทน์บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียง จำนวน 5 ซุ้ม ได้แก่ บริเวณท้องสนามหลวง (ด้านทิศเหนือ) 3 ซุ้ม บริเวณท่าช้าง 1 ซุ้ม บนทางเท้าฝั่งตรงข้ามพระแม่ธรณีบีบมวยผม 1 ซุ้ม อีกทั้งได้ประสานไปยังวัดต่างๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 46 วัด ใน 46 เขตของกรุงเทพมหานคร จัดซุ้มรับและถวายดอกไม้จันทน์ อาทิ วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย วัดสุทธาราม เขตคลองสาน วัดนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม วัดกระทุ่มเสือปลา เขตประวเศ วัดราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ และวัดอยู่ดีบำรุงธรรม เขตสายไหม เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการถวายดอกไม้จันทน์เพื่อแสดงความไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าภคนีเธอฯ ในโอกาสสำคัญนี้ ส่วนวัดใน 4 เขตซึ่งไม่ได้จัดซุ้มและพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ได้แก่ วัดในเขตพระนคร ดุสิต ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์ จะเป็นสถานที่เก็บและรวบรวมดอกไม้จันทน์ที่ประชาชนถวายตามซุ้มรับดอกไม้จันทน์เพื่อรอเวลาพระราชทานเพลิงพระศพฯ (จริง) ต่อไป และสำหรับการจัดทำดอกไม้จันทน์ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ นั้น กทม.ได้ประสานไปยังชุมชนและโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ให้จัดทำดอกไม้จันทน์ จำนวน 7 แสนดอก เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ ซึ่งเป็นการสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าภคนีเธอฯ ที่ทรงมีพระดำริให้กระจายรายได้สู่ชุมชน ด้วย
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 8-10 เม.ย.55 กทม.จะจัดตั้งโรงทาน บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณใกล้เคียง เพื่อบริการประชาชนที่เดินทางไปร่วมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ พร้อมทั้งตั้งจุดรับบริจาคเงินสมทบการจัดตั้งโรงทาน ซึ่ง กทม.ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบการจัดตั้งโรงทาน หรือจะจัดตั้งโรงทานร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ กองกลาง สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร โทร. 0 2221 2170

กทม.ชวนบอกรักผ่านหนังสือในเทศกาลวันวาเลนไทน์

(7 ก.พ.55) เวลา 11.00 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. : นายทวีศักดิ์ เดชเดโช รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวโครงการ “บอกรักด้วยหนังสือ” ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายแห่งประเทศไทย ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK PARK ผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร นายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และภาคีส่งเสริมการอ่านจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ก.พ. 55 ณ บริเวณ Skywalk รถไฟฟ้าสถานีสยาม ถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อจุดประกายการอ่าน และเปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านหนังสือ และวรรณกรรมยอดนิยมในเทศกาลวันวาเลนไทน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อสร้างค่านิยมใหม่สำหรับการให้ของขวัญในเทศกาลแห่งความรักด้วยการมอบหนังสือสื่อแทนใจแก่กัน ให้ความรู้ด้วยความรักที่ยั่งยืนกว่า ที่สำคัญกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่านอีกด้วย
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับตั้งแต่กรุงเทพมหานครได้รับเลือกจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองหนังสือโลก 2556 (World Book Capital 2013) เรามีพันธกิจต่อเนื่องที่ต้องดำเนินการตามแผนงานที่ยื่นเสนอต่อองค์การยูเนสโก ภายใต้โครงการรณรงค์ให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งการอ่าน ซึ่งในปี 54 ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการอ่านตลอดปี เช่น กิจกรรม Read on the move บนรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ และรถแท็กซี่ โครงการพัฒนาศักยภาพพื้นที่การอ่านเดิม และเพิ่มพื้นที่การอ่านใหม่ ๓๐ แห่ง กิจกรรมถนนคนอ่าน ณ ตลาดนัดจตุจักร และกิจกรรม Book Start มอบหนังสือเล่มแรกแก่เด็กแรกเกิด เป็นต้น โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นในกลุ่มเด็ก และเยาวชนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ อีกหนึ่งในพันธกิจเพื่อสร้างกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่หลากหลายในเทศกาลแห่งความรักที่กำลังจะมาถึง กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับภาคีส่งเสริมการอ่าน เชิญชวนหนุ่มสาวมาบอกรักเทรนด์ใหม่ด้วยการให้หนังสือ ในงาน “บอกรักด้วยหนังสือ โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ลุ้นโชคกับคู่รักนักอ่าน หุ่นมือบอกรัก ที่คั่นหนังสือบอกรัก ฯลฯ ขอเชิญชวนร่วมงาน “บอกรักด้วยหนังสือ” ตามวัน เวลา สถานที่ดังกล่าว สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2245 4171

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เขตปทุมวันจัดอบรมการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว เน้นเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง

เขตปทุมวันจัดอบรมการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว เน้นเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
ส.ก.อุไร อนันตสิน เขตปทุมวัน ฐานะคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย สภากทม. จับมือสำนักงานเขตปทุมวัน จัดโครงการอบรม “การป้องกันความรุนแรงในครอบครัว” เน้นให้ประชาชนมีความเข้าใจในครอบครัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างมีความสุข ทั้งยังเป็นการสร้างให้ชุมชนเข้มแข็ง ตามนโยบายกรุงเทพมหานคร
(5 ก.พ.55) เวลา 08.00 น. : นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน เป็นประธานเปิดงานอบรม เรื่อง “การป้องกันความรุนแรงในครอบครัว” ให้กับแกนนำชุมชนและอาสาสมัครศูนย์บริการด้านเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่เขตปทุมวัน จำนวน 185 คน มีนางสาวอุไร อนันตสิน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน ฐานะคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย สภากทม. เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ โดยมีผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ เขตปทุมวัน
นางภาวิณี อามาตย์ทัศน์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ด้านปัญหาความรุนแรงที่มีต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสมีมากขึ้น โดยสำนักงานเขตปทุมวันและสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตปทุมวัน ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีสาเหตุมาจากความไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงชายส่งผลทำให้เด็กและผู้หญิง ถูกทำร้ายร่างกาย จิตใจ สุขภาพ และถูกกีดกันออกจากเศรษฐกิจของครอบครัว ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดปัญหาความรุนแรงในครอบครัวตามนโยบายกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตปทุมวันร่วมกับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครในพื้นที่จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมและครอบครัวต่อไป
นางสาวอุไร อนันตสิน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กล่าวเพิ่มว่า วัตถุประสงค์ของโครงการอบรมในครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้จุดมุ่งหมายคือการเข้าไปปรับเปลี่ยนในระดับบุคล โดยดึงผู้ที่มีปัญหาจากความรุนแรงทั้งผู้ถูกกระทำและผู้กระทำมาเป็นต้นแบบโดยการให้ผู้ชายที่เป็นผู้กระทำความรุนแรงเลิกเหล้า ลดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กและให้ผู้หญิงที่เป็นผู้ถูกกระทำออกมารณรงค์ในชุมชนให้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงไม่ใช้เรื่องส่วนตัว โดยการร่วมรณรงค์ในชุมชนจะสามารถเป็นชุมชนต้นแบบลด ละ เลิกเหล้า ลดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ขยายไปสู่ชุมชนอื่นโดยการสร้างความตระหนักการมีส่วนร่วมในการแก้และร่วมกันป้องกันปัญหาในชุมชนได้ ทั้งนี้ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังดูแลชุมชน เกิดแนวร่วมมากขึ้น มีความเข้มแข็งแก้ไขปัญหายาเสพติด อาชญากรรม และอุบัติภัย ทั้งยังเกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนกับหน่วยงานซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ในนามคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย สภากทม. จะผลักดันให้ชุมชนต่างๆของกรุงเทพมหานครมีความเข้าใจในครอบครัวและเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมร่วมกันอย่างมีความสุข

นศ.แพทย์กทม.ฟังบรรยายการกำหนดนโยบายเมืองหลวง เพื่อจัดทำข้อมูลด้านสุขภาพชุมชนเมือง

(4 ก.พ.55) เวลา 09.30 น. : นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นวิทยากรพิเศษบรรยาย “โครงสร้างและนโยบายการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร” ให้แก่นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรเวชศาสตร์เขตเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (วชิรพยาบาล) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้เพื่อให้นักศึกษาแพทย์มีความรู้เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร อาทิ การจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม จราจร ความปลอดภัย และความแออัดของชุมชนเมือง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในชุมชนเมือง เพื่อให้นักศึกษาแพทย์มีความเข้าใจต่อระบบการบริหารงานเมืองและสามารถวิเคราะห์ปัญหาทางสุขภาพรวมถึงสถานการณ์โรคได้ตรงกับความต้องการของชุมชนเมืองควบคู่ไปกับการพัฒนางานวิจัย และการจัดทำฐานข้อมูลด้านสุขภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากรุงเทพมหานครและทำให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ทั้งนี้ในหลักสูตรดังกล่าวจะเชิญผู้บริหารกรุงเทพมหานคร อาทิ สำนักการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านชุมชนเมือง หมุนเวียนมาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้นักศึกษาได้มีความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเมืองด้านต่างๆ สามารถคาดการณ์ถึงปัญหาสาธารณสุขในอนาคต และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขให้สอคล้องกับแผนพัฒนากรุงเทพมหานครต่อไป

เขตคันนายาวประกาศรายชื่อผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2556

นายหัสฎิณ ปิ่นประชาสรร ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม. เปิดเผยว่า ตามที่เขตฯ ได้รับลงทะเบียนผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อรับเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2556 เมื่อวันที่ 1-30 พ.ย. 54 และขยายเวลาถึงวันที่ 13 ม.ค. 55 ที่ผ่านมา บัดนี้สำนักงานเขตคันนายาวได้ตรวจสอบคุณสมบัติและหลักฐานอื่นๆ ของผู้มาแสดงความจำนงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้จัดทำประกาศรายชื่อผู้สูงอายุและผู้พิการที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งจะมีสิทธิได้รับเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 เป็นต้นไป โดยเป็นรายชื่อผู้สูงอายุ จำนวน 1,092 ราย รายชื่อผู้พิการ จำนวน 152 ราย สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 อาคารสำนักงานเขตคันนายาว และทางเว็บไซต์ www.bangkok.go.th/khannayao หากมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม โทร. 0 2379 9956-7 หรือ 0 2379 9961-3 ต่อ 5186-5188 ทั้งนี้หากมีการตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งขอรับเงินของผู้สูงอายุและผู้พิการไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หรือมีชื่อซ้ำกับสำนักงานเขตอื่น หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น จะพิจารณาคัดชื่อออก และต้องนำส่งเงินที่ได้รับคืนให้สำนักงานเขตคันนายาวต่อไป

ตั้งเป้าล้างท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลองในกทม. เสร็จก่อน พ.ค. 55 เปิดทางน้ำรับมือฝน

กทม. จับมือกรมราชทัณฑ์ และภาคเอกชน เดินหน้าล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำและขุดลอกคูคลองในพื้นที่ความยาวรวมกว่า 6,000 กม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำฝนที่มาเร็วกว่าปกติ อีกทั้งตรวจสอบสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลาเพื่อให้การระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
(3 ก.พ. 55) เวลา 13.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำและขุดลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหลตามโครงการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำและเปิดทางน้ำไหลของกรุงเทพมหานคร โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิด บริเวณหมู่บ้านณัฐกานต์ ซ.เพชรเกษม 112 เขตหนองแขม
กรุงเทพมหานครจัดทำโครงการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำและเปิดทางน้ำไหลของกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ โดยได้รับความร่วมมือจากกรมราชทัณฑ์ และภาคเอกชน ในการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำบนถนนสายหลักและซอยย่อยในพื้นที่กรุงเทพฯ ความยาวรวม 4,618 กม. และขุดลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหล 1,184 คลอง ความยาวประมาณ 1,456 กม. รวมทั้งสิ้น 6,074 กม. โดยตั้งเป้าหมายจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดก่อนเดือน พ.ค. 55 เนื่องจากปีนี้ฝนตกเร็วขึ้นและมีปริมาณมากกว่าปกติ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เนื่องจากตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 55 เป็นต้นมา เริ่มมีฝนตกหนักทั่วกรุงเทพฯ วัดได้ 90 มม. มากกว่าในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 54 ซึ่งวัดได้ 20.6 มม. ขณะที่วานนี้ (2 ก.พ. 55) มีฝนตกหนักวัดได้ 65 มม. ส่งผลให้บางจุดเกิดปัญหาน้ำท่วมขังสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในการสัญจรไป-มา ทั้งที่ยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูฝน ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกับปริมาณน้ำฝน รวมถึงเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กทม. ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ เปิดทางน้ำไหล และจัดเก็บวัชพืชให้แล้วเสร็จก่อนเดือน พ.ค. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่จะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. 55 โดยว่าจ้างกรมราชทัณฑ์และภาคเอกชนดำเนินการร่วมกับเจ้าหน้าที่และรถดูดเลนของสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขต พร้อมกันนี้ให้ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักรกลต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา อีกทั้งดูระดับน้ำในบ่อสูบน้ำต่างๆ และท่อระบายน้ำเพื่อให้สามารถรองรับการระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ที่ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ โทร. 0 2248 5115 อัตโนมัติ 20 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สายด่วนกทม. 1555

ครบรอบ 40 ปี รพ.เจริญกรุงประชารักษ์

(3 ก.พ. 55) เวลา 11.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนาโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ครบรอบ 40 ปี “4 ทศวรรษ สู่ความสง่างาม” (40th Anniversary to Smart CKP) พร้อมมอบของ ที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการะคุณแก่โรงพยาบาล มูลนิธิโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ มอบโล่บุคลากรดีเด่นของโรงพยาบาล ประจำปี 2554 และมอบทุนการศึกษาแก่บุตร-ธิดาของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยมี นายแพทย์พีระพงษ์ สายเชื้อ รองปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ คณะแพทย์ พยาบาล และผู้มีอุปการะคุณ ร่วมงาน ณ ห้องประชุมอุดมสังวรญาณ ชั้น 23 อาคาร 72 พรรษามหาราชินี โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรม การแสดงชุดไทยประยุกต์ การแสดงชุดบรอดเวย์ นิทรรศการ 40 ปี โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ บริการตรวจสุขภาพ วัดดัชนีมวลกาย ตรวจสุขภาพปากและฟัน ให้คำปรึกษาสุขภาพ บริการนวดคลายเครียด ทดสอบสมรรถภาพร่างกายแก่ประชาชนทั่วไป ฟรีอีกด้วย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวยินดีและชื่นชมในความเจริญก้าวหน้าของโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ซึ่งกำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ห้าอย่างสง่างามด้วยการพัฒนาแพทย์ พยาบาล ให้มีความชำนาญด้านการรักษาพยาบาลในสาขาเฉพาะทาง การผ่าตัดผ่านกล้องในทุกสาขา การเปิดศูนย์ออทิสติก การเปิดศูนย์ไฟไหม้น้ำร้อนลวก และการเป็นโรงพยาบาลร่วมสอนนักศึกษาแพทย์และแพทย์ประจำบ้าน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบบริการทางการแพทย์ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของโรงพยาบาลในการดูแลรักษาผู้ป่วย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่มาใช้บริการ ให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กล่าวแสดงความขอขอบคุณผู้อุปการะคุณที่มีจิตศรัทธาบริจาคทรัพย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ซึ่งทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ป่วยที่ขัดสน รวมทั้งสนับสนุนการดำเนินการต่างๆเพื่อประโยชน์ในการใช้บริการร่วมกัน

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

รับสมัครและสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในโรงเรียนหลักสูตรการดนตรี กทม.

นางสุวัฒนี ไชยนันทน์ รองผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กทม. แจ้งว่า กรุงเทพมหานครโดยกองการสังคีต ร่วมกับสำนักการศึกษาได้ดำเนินโครงการสนับสนุนการศึกษาทางดนตรีแก่นักเรียนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร กำหนดเปิดรับสมัครและสอบคัดเลือกนักเรียนเพื่อเข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหลักสูตรการดนตรีกรุงเทพมหานคร (หลักสูตร 3 ปี) ประจำปีการศึกษา 2555 จำนวน 30 คน ใน 2 สาขา ประกอบด้วย สาขาดนตรีไทยและสาขาดนตรีสากล โดยนักเรียนที่เข้าเรียนในโครงการจะได้มีโอกาสศึกษาทางด้านดนตรีโดยตรง ได้รับการพัฒนาทักษะทางด้านดนตรี ทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล(ดนตรีคลาสสิค)ที่ถูกต้อง เพื่อยกระดับความสามารถทางด้านดนตรีของเยาวชนไทยให้ก้าวไปสู่มาตรฐานสากล
ทั้งนี้ ผู้สมัครจะต้องเป็นนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ในเขตพื้นที่นำร่องโครงการ 16 เขต ประกอบด้วย เขตห้วยขวาง ดินแดง ลาดพร้าว จตุจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง ดุสิต จอมทอง ทุ่งครุ ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางขุนเทียน บางบอน ป้อมปราบฯ และราษฎร์บูรณะ มีผลการเรียนเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.50 มีทักษะในการเล่นเครื่องดนตรีไทย หรือเครื่องดนตรีสากลในระดับพื้นฐาน เป็นผู้มีความประพฤติดี โรงเรียนต้นสังกัดรวมถึงผู้ปกครองให้การสนับสนุนตลอดหลักสูตร ผู้สนใจสามารถขอและยื่นใบสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 12 มี.ค.55 เวลา 09.00 - 15.30 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ณ กองการสังคีต สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว อาคารสำนักการระบายน้ำ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0 2246 0287

กทม. ขยายเวลารับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมทุกกรณีถึง 29 ก.พ. 55

(2 ก.พ. 55) เวลา 15.30 น. ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) : ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ร่วมกับผู้แทนธนาคารออมสิน และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการคลัง และสำนักงบประมาณ ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 55 อนุมัติขยายกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรายละ 5,000 บาท ในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีก 45 วัน นั้น ประชาชนในพื้นที่ 42 เขตที่ประสบอุทกภัยสามารถยื่นคำร้องเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเขตตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 ก.พ. 55 จากนั้นกรุงเทพมหานครจะเร่งส่งเรื่องให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการในส่วนต่างๆ ให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลาต่อไป
สำหรับเงินเยียวยา 5 กรณี ได้แก่ บ้านเรือนเสียหายบางส่วนไม่เกิน 20,000 บาท บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 30,000 บาท ค่าทำศพ 25,000 บาท ค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,500 บาทไม่เกิน 2 เดือน และอุปกรณ์ประกอบอาชีพได้รับความเสียหายไม่เกิน 10,000 บาท ผู้ประสบอุทกภัยสามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 29 ก.พ. เช่นเดียวกัน ขณะนี้มีผู้ยื่นคำร้องแล้ว 50,862 ราย ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการจ่ายเงินให้ประชาชน กรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากธนาคารออมสินในการจ่ายเงินแก่ประชาชนผ่านบัญชีธนาคาร หากเป็นบัญชีของธนาคารออมสินไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่หากเป็นบัญชีต่างธนาคารจะมีค่าใช้จ่ายในการโอนเงิน ทั้งนี้ ตนเองได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำเรื่องค่าใช้จ่ายในการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเสนอต่อที่ประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครในวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. นี้ เพื่อหารือถึงภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าว พร้อมกันนี้จะทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการใช้งบประมาณเงินทดรองราชการก้อนแรกที่ได้รับจำนวน 50 ล้านบาทถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อนำเงินดังกล่าวมานำร่องจ่ายให้กับผู้ที่ยื่นเรื่องเยียวยารับความช่วยเหลือ 5 กรณีดังกล่าว โดยดูจากความเดือดร้อนเป็นหลัก