ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผู้ว่าฯกทม. ตรวจระดับน้ำและแผนการป้องกันน้ำท่วมบริเวณพระบรมมหาราชวัง

(2 ต.ค. 54) เวลา 11.00 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร นำสื่อมวลชนตรวจแนวป้องกันและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท่าเรือท่าเตียน ชุมชนท่าเตียน ท่าราชวรดิฐ และท่าเรือท่าช้าง เขตพระนคร เพื่อตรวจระดับน้ำและเยี่ยมชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น โดยในวันนี้ระดับน้ำสูงสุดที่ปากคลองตลาดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.อยู่ที่ระดับ 1.97 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าระดับแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของกทม. ที่มีความสูง 2.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลผ่านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดได้ 3,450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังสามารถรับมือสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นได้

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือให้ผู้ขับเรือเร็วโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงคลองบางกอกน้อยและคลองมหาสวัสดิ์ โปรดลดความเร็วในการขับเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณท่าเรือและชุมชนที่ตั้งอยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสายต่างๆ 27 ชุมชน เนื่องจากปริมาณน้ำที่สูงขึ้นและความแรงของคลื่นน้ำจะกระแทกบ้านเรือนอกแนวคันกั้นน้ำได้รับความเสียหายและประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ในส่วนของแนวป้องกันน้ำท่วมบริเวณท่าราชวรดิฐ สโมสรทหารเรือ นั้น กทม. ได้เสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้นจากแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรอีกประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้คลื่นน้ำเอ่อล้นเข้ามาในเขตพระราชฐาน และบางช่วงตั้งแต่ท่าเรือเทเวศร์เป็นต้นมาได้เพิ่มความสูงกระสอบทรายถึง 50 เซนติเมตรจากแนวป้องกันน้ำท่วม ทำให้แนวป้องกันน้ำท่วมของกรุงเทพฯ มีความสูงตลอดแนว 2.80-3 เมตร พร้อมทั้งได้สำรองกระสอบทรายให้แก่ชุมชนและหน่วยงานราชการในพื้นที่กรณีฉุกเฉิน นอกจากนี้กทม. ยังเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำโดยประตูระบายน้ำท่าราชวรดิฐ ซึ่งระบายน้ำได้ 2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ควบคุมการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณพระบรมมหาราชวัง ท่าเตียน ท่าช้าง และท่าพระจันทร์ ในช่วงที่มีฝนตกหนัก น้ำทะเลหนุน และน้ำเหนือไหลหลาก เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า แม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้น และในช่วงวันที่ 4-5 ต.ค.ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุนาลแก กทม. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวั 24 ชั่วโมง และยังมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น