ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กทม. เตือนครั้งแรก 7 เขต ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด ยกของขึ้นสูง แต่ยังไม่ถึงขั้นอพยพ

ผู้ว่าฯกทม. แจ้งเตือนครั้งแรก 7 เขต บางเขน สายไหม หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา ลาดกระบัง และคันนายาว เสี่ยงน้ำท่วม หลังประเมินสถานการณ์ทุ่งรังสิตรับมวลน้ำที่จะไหลมาไม่ได้ทั้งหมด ด้านกทม. ปรับแผนประเมินสถานการณ์เป็นทุก 3 ชั่วโมง พร้อมแจ้งประชาชนยกของขึ้นที่สูง หากไม่สามารถรับมือได้จะแจ้งล่วงหน้า 24 ชั่วโมง

(19 ต.ค. 54) ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกทม. :เวลา 10.30 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า กทม. ได้รับแจ้งจาก ศปภ. ว่า จะมีน้ำปริมาณกว่า 1,200 ล้าน ลบ.ม. จากตอนบนเหนือพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไหลผ่านมายังทุ่งรังสิต ซึ่งกทม.ประเมินสถานการณ์แล้วว่าทุ่งรังสิตสามารถรับน้ำได้เพียง 400 ล้าน ลบ.ม. อาจส่งผลกระทบต่อคันกั้นน้ำตะวันออก ทำให้น้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ และส่งผลกระทบต่อไปยังบางพื้นที่ชองกรุงเทพมหานคร จำนวน 7 เขต ได้แก่ สายไหม บางเขน คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง และคันนายาว ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาท ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 7 เขตดังกล่าวเตรียมยกสิ่งของ รวมทั้งปลั๊กไฟขึ้นที่สูง และเตรียมศึกษาแผนอพยพของกรุงเทพมหานคร ซึ่งแต่ละสำนักงานเขตได้เตรียมแผนในการอพยพและศูนย์อพยพเพื่อรองรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจากนี้ไปแต่ละสำนักงานเขตจะได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ของตนเองได้รับทราบรายละเอียดแผนอพยพดังกล่าว

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การแจ้งเตือนครั้งนี้ถือเป็นการเตือนครั้งแรกของกทม. แม้จะยังไม่รุนแรงถึงขั้นอพยพ แต่ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ผ่านทาง www.bangkok.go.th ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกทม. จะประชุมประเมินสถานการณ์และแถลงข่าวให้แก่สื่อมวลชนเพื่อแจ้งประชาชนทราบทุก 3 ชม. ถึงแม้จะไม่มีความเปลี่ยนแปลงก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก และรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากกทม. โดยตรง อย่างไรก็ตามขณะนี้กทม. ยังมีวิธีการบริหารจัดการน้ำ แต่หากคาดการณ์แล้วสถานการณ์ไม่ดีขึ้น กทม. จะประกาศแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

รายงานสถานการณ์และคาดการณ์น้ำประจำวันนี้

ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย กรุงเทพมหานคร ได้สรุปสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่ในกรุงเทพฯ ว่า วานนี้ (18 ต.ค.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนตกเล็กน้อย ปริมาณฝนสูงสุดที่เขตบางขุนเทียน 29 มม.และคาดการณ์ในวันนี้ (19 ต.ค.) ปริมาณฝนจะเบาบางลงเนื่องจากมวลอากาศเย็นเริ่มปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนลดลง โดยสถานการณ์น้ำล่าสุด ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 วัดได้ 4,165 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวาน 30 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา วัดได้ 3,677 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวาน 100 ลบ.ม./วินาที ส่วนน้ำทะเลหนุนสูงสุดของวันนี้ เวลา 13.02 นาที ที่ระดับ 1.00 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง และเวลา 20.19 น. ที่ระดับ 0.93 เมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาด เมื่อเวลา 07.30 น. วัดได้ 1.49 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1.31 เมตร ส่วนระดับน้ำในคลองสายต่างๆ อยู่ในภาวะปกติ

แผนปูแอสฟัลด์ยกระดับถนนเสร็จทั้งหมดวันนี้

สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่กรุงเทพเหนือ ในพื้นที่สายไหมนั้น กทม. ได้เข้าดำเนินการยกระดับโดยการปูแอสฟัลด์บนถนนเลียบคลองสอง ความสูง 30เซนติเมตร ระยะทาง 1.25 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินยกระดับถนนสายไหม 85 ความสูง 30 เซนติเมตร ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ให้แล้วเสร็จในวันนี้ ซึ่งนอกจากจะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจรแล้ว ยังสามารถเป็นแนวป้องกันน้ำเอ่อล้นจากคลองสองอีกด้วย

เสริมแนวป้องกันคลองหกวาสายล่างคืบหน้า ประชาชนร่วมแรงร่วมใจตลอดคืน

ในส่วนของการสร้างทำคันกั้นน้ำคลองหกวาสายล่าง ระยะทาง 6 กิโลเมตร ให้มีความหนาและสูงยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมในการป้องกันน้ ขณะนี้ได้ดำเนินการเสริมความสูงให้ได้ระดับ 3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่กทม. ทหาร และประชาชน ยังคงร่วมแรงร่วมใจบรรจุทรายเพื่อเสริมแนวป้องกัน ณ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 เขตสายไหม อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันและทั้งคืน และหากประเมินสถานการณ์น้ำแล้วยังคงไม่น่าไว้วางใจ กทม.จะเร่งเสริมฐานและเพิ่มความสูงให้ได้ระดับ 3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเพิ่มความหนาของแนวกระสอบทรายต่อไป ทั้งนี้ ในการดำเนินการดังกล่าว กทม. ได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน และทหาร เพื่อเสริมแนวป้องกันให้แข็งแรง อีกทั้งได้รับการสนับสนุนทรายจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมาย รวมถึงประชาชนและภาคเอกชน ยังได้ร่วมบริจาคทราย 1,330 กระสอบ กับอีกหนึ่งคันรถบรรทุก กระสอบเปล่า จำนวน 61,000 ใบ ตลอดจนเครื่องสายพานสำเลียงกระสอบทราย จำนวน 2 เครื่อง เพื่อให้การสร้างแนวป้องกันเป็นไปด้วยความรวดเร็ว

ชุมชนนอกแนวริมเจ้าพระยาและด้านตะวันตกยังมีน้ำท่วมหลายจุด

ด้านชุมชนนอกแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำสูง 10-20 เซนติเมตร ส่วนด้านตะวันตกของกรุงเทพมหานคร มีน้ำท่วมขัง 10-20 ซม. บริเวณถนนและชุมชนริมคลองมหาสวัสดิ์ คลองบางกอกน้อย คลองภาษีเจริญ คลองทวีวัฒนา เนื่องจากมีการเร่งระบายน้ำจากจังหวัดนนทบุรี ออกสู่ทะเลประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ทำให้ ระดับน้ำในคลองวันนี้เอ่อล้นตลิ่งในบางจุด

จัดทีมดูแลประชาชนใกล้ชิด

ขณะนี้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้เข้ามาพักอาศัยชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้ 49 ครอบครัว 169 คน เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 38 คน โดยเป็นผู้ประสบภัยในพื้นที่กรุงเทพฯตะวันออก อาทิ เขตสายไหม ลาดกระบัง บางกะปิ และคลองสามวา 20 ครอบครัว จำนวน 104 คน ส่วนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตดุสิต มีผู้ประสบภัยเข้าพักที่ศูนย์พักพิงเท่าเมื่อวานนี้ 29 ครอบครัว จำนวน 65 คน ทั้งนี้กทม. ยังได้จัดนักสังคมสงเคราะห์ 30 คน ลงพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ให้คำปรึกษาแนะนำและสำรวจความต้องการช่วยเหลือ ตลอดจนแจกถุงยังชีพและเวชภัณฑ์ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น