กทม.ห่วงประชาชนพื้นที่ฝั่งตะวันออก เหตุน้ำคลองแสนแสบยังขึ้นสูง

(11 พ.ย.54) เวลา 09.00 น. ณ ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) : พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการแก้ไขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้น้ำยังกระจายตัวไปในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก เช่น เขตสะพานสูง อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากน้ำในคลองแสนแสบช่วงใต้สะพานบางชันมีระดับสูงขึ้น ประกอบกับมีปริมาณน้ำด้านตะวันออกเข้าสู่พื้นที่มากขึ้นด้วย

ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงสุด เมื่อเวลา 08.16 น. วัดได้ 2.32 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และน้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในช่วงเวลา 17.25 น. ที่ระดับ +1.02 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เตือนประชาชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งเฝ้าระวัง เนื่องจากปริมาณน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมากขึ้น ประตูระบายน้ำฉิมพลี ระดับน้ำยังสูง 2.78 เมตร ซึ่ง กทม.จะดำเนินการเสริมแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมคลองมหาสวัสดิ์ เพื่อชะลอน้ำ เป็นระยะทาง 7 กม. คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการดำเนินงาน โดยขณะนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นไป 2 กม.แล้ว

แจก EM บรรเทาปัญหาน้ำเน่าเสีย

ในวันนี้ กทม.จะแจกจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้บำบัดน้ำเสียและลดกลิ่นเหม็นในพื้นที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน โดยประชาชนสามารถติดต่อขอรับได้ที่ เรือนเพาะชำ สวนลุมพินี (ประตูด้านถนนวิทยุ) เขตปทุมวัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เวลา 09.00 – 15.00 น. โดยนำภาชนะมาบรรจุเอง นอกจากนี้ กทม.ยังขอรับบริจาคถงพลาสติกและขวดพลาสติกจากประชาชน เพื่อนำไปใส่น้ำหมักชีวภาพและก้อนจุลินทรีย์ชีวภาพแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัยต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 0 2246 0688

สำหรับข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับการจัดเก็บกระทงพบว่า มีปริมาณกระทงทั้งสิ้น 320,720 ใบ แยกเป็นกระทงธรรมชาติ 236,407 ใบ กระทงโฟม 57,479 ใบ และวัสดุอื่นๆ 26,834 ใบ

ประสานภาคเอกชนร่วมฟื้นฟูเยียวยาประชาชน

วานนี้ กทม.ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนหลายหน่วยงานในการหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมขัง โดยแบ่งผู้ประสบภัยออกเป็น 3 เขต ได้แก่ เขตน้ำท่วมหนัก เขตน้ำท่วมไม่สูงมาก และเขตที่น้ำเริ่มลด โดยขอความร่วมมือภาคเอกชนเร่งเข้าพื้นที่ช่วยเหลือโดยมีเจ้าหน้าที่กทม.ร่วมลงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ ยังได้เตรียมจัดทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดตามโครงการ “ร่วมฟื้นฟูกรุงเทพฯ รวมกัน เราทำได้” โดยจะมีทีมงานช่วยฟื้นฟูเยียวยาประชาชนแบบครบวงจร เช่น การซ่อมแซมบ้านและอุปกรณ์ไฟฟ้า การจัดหางาน การฝึกอาชีพ การพัฒนาฝีมือแรงงาน การหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ การตรวจสุขภาพ การดูแลสุขภาพจิต เป็นต้น