ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ติดตามวิกฤตน้ำกรุงเทพฯ อีกรอบ 8 พ.ย. นี้

สถานการณ์น้ำใน จ.นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ ยังวิกฤต ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก กทม. ยังรับบริจาคต่อเนื่อง พร้อมช่วยเหลือจังหวัดปริมณฑลหากร้องขอ สำหรับน้ำขึ้นสูงสุด 26 ต.ค. อยู่ที่ 2.10 ม.ยังรับมือได้ รอประเมินอีกรอบ 8 พ.ย. นี้ หากปล่อยท้ายเขื่อนไม่เกิน 5,000 ลบ.ม.ต่อวินาที และน้ำทะเลไม่หนุนมากเชื่อไม่น่ามีปัญหา ด้าน ผู้ว่าฯกทม. เป็นห่วงประชาชนหลังน้ำลดเข้าฤดูหนาวต้องดูแลสุขภาพประชาชนอย่างใกล้ชิด

(26 ต.ค. 53) เวลา 09.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะช่างภาพสื่อมวลชน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2) สนามเป้า เพื่อตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจังหวัดปทุมธานี เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แม่น้ำเจ้าพระยาช่วงไหลผ่านกรุงเทพฯ สะพานพระราม 8 สะพานพระราม 9 คลองลัดโพธิ์ แก้มลิงบึงหนองบอนและแก้มลิงบึงมักกะสัน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการตรวจสภาพน้ำ ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ยังวิกฤต ประชาชนจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา และสมุทรปราการ ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งกทม. ยินดีให้ความช่วยเหลือหากมีการร้องขอมาจากพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางจังหวัด หรือหน่วยงานต่างๆ โดยกทม. จะยังคงตั้งศูนย์รับบริจาคอย่างต่อเนื่อง ประชาชนสามารถบริจาคผ่านกทม. หรือองค์กรอื่นที่จัดตั้งขึ้นอย่างถูกกฎหมายได้ตลอดเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ทั้งนี้หากพื้นที่ใดต้องการความช่วยเหลือให้ประสานมาโดยตรงที่กทม. จะได้เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้สามารถรับมือได้ และในวันนี้ (26 ต.ค. 53) ซึ่งเป็นวันที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด วัดได้เมื่อเวลา 09.09 น. ที่ระดับ 2.10 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง น้ำท้ายเขื่อนปล่อยลงมาผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปริมาณ 4,600 ลบ.ม./วินาที แต่จะน่าเป็นห่วงอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ย. 53 เนื่องจากระดับน้ำทะเลจะหนุนสูง และจะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งหากปริมาณน้ำปล่อยลงมา 5,000 ลบ.ม./วินาที แต่น้ำทะเลหนุนไม่มากก็เชื่อว่าสามารถรับมือได้

ในระยะต่อไปหลังจากสถานการณ์น้ำคลี่คลายจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อากาศเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ผู้ว่าฯกทม. จึงได้สั่งการสำนักอนามัยเร่งเข้าให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันโรคต่างๆ และเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ส่วนสำนักการแพทย์ให้เตรียมการรับมือสำหรับประชาชนที่เกิดการเจ็บป่วย

จากนั้นเวลา 11.00 น. ผู้ว่าฯกทม. ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ร.1 พัน 2 รอ.ในการวางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมพื้นที่วิกฤต ซ.โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด ซึ่งเป็นพื้นที่ฟันหลอไม่มีแนวคันกั้นน้ำ เนื่องจากมีสถานประกอบการร้านอาหารบางร้านไม่ยินยอมให้ก่อสร้าง ทำให้น้ำทะลักเข้าพื้นที่ชุมชนในบริเวณดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงประสานกับสำนักงานเขตบางพลัดในการเสริมแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำเข้าพื้นที่

เวลา 11.30 น. ผู้ว่าฯกทม. เดินทางไปตรวจความพร้อมที่พักผู้ประสบภัยน้ำท่วมและมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนชุมชนวัดฉัตรแก้วจงกลนี เขตบางพลัด ซึ่งมีชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเนื่องจากอยู่นอกคันกั้นน้ำจำนวน 9 หลังคาเรือน 20 ครอบครัว ก่อนจะเดินทางไปตรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่บริเวณท่าราชวรดิษฐ์ในเวลา 13.00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น