ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สำรวจอาคารเก่าเทคโนฯ พระราม6 แปลงเป็นที่พักพิงคนเร่ร่อนจากสนามหลวง

สำรวจอาคารเก่าเทคโนฯ พระราม6 แปลงเป็นที่พักพิงคนเร่ร่อนจากสนามหลวง
มีความเป็นไปได้ที่ กทม.จะใช้อาคารเก่า 4 ชั้น พื้นที่ 1,600 ตารางเมตร ของโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 เป็นบ้านพักพิงคนเร่ร่อนไร้บ้านจากสนามหลวง รองรับได้มากกว่า 400 คน เหมาะทั้งพักอาศัยและเดินทาง คาดปรับปรุงแล้วเสร็จภายใน 7 เดือนก่อนสนามหลวงปรับปรุงเสร็จ เพื่อป้องกันการกลับมานอนพักสนามหลวง เบื้องต้นจะเจรจากับเจ้าของเพื่อเช่า 1-3 ปี จากนั้นอาจซื้อเป็นทรัพย์สินของ กทม.
15 ต.ค.53 เวลา 11.00 น. ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะลงพื้นที่ตรวจสภาพอาคารโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 เก่า เพื่อพิจารณาเป็นสถานที่พักพิงสำหรับคนเร่ร่อนและคนไร้บ้านที่จะย้ายจากสนามหลวง ตามโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง และตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน คนเร่ร่อนของกรุงเทพมหานคร
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่ กทม.ร่วมกับกองทัพบกปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวง และได้รับการยืนยันจากกองทัพบกว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จตามแผนงาน คือประมาณเดือน พ.ค.54 จึงเหลือเวลาอีกประมาณ 7 เดือนที่จะต้องหาที่พักพิงให้กับคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อนที่เคยพักพิงที่บริเวณท้องสนามหลวง จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาสถานที่เพื่อนำไปพิจารณาและนำเรียนผู้ว่าฯ กทม.จัดสรรงบประมาณดำเนินการ โดยในวันนี้สำนักงานเขตบางพลัดได้สำรวจพบอาคารเก่าของโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 ที่ไม่ได้ใช้มานานเกิดการทรุดโทรม จึงได้ลงพื้นที่สำรวจ หากไม่มีปัญหาใดคาดว่าสามารถปรับปรุงเพื่อให้เข้าพักได้ภายในเวลา 7 เดือน เพื่อป้องกันการกลับมานอนพักสนามหลวงสร้างความไม่เป็นระเบียบอีก
ทั้งนี้อาคารเก่าของโรงเรียนเทคโนโลยีพระราม 6 อยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ก่อนขึ้นสะพานพระราม 7 เป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นละ 4 ห้องเรียน พื้นที่รวม 1,600 ตารางเมตร มีบันไดขึ้น 2 ข้าง ติดถนนใหญ่ อยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ 95 ตารางวา การเดินทางสะดวกทั้งรถโดยสารประจำทาง เรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ดินที่อาคารตั้งอยู่เป็นลักษณะแยกจากบ้านเรือนหรืออาคารอื่น มีรั้วรอบชัดเจน หากใช้อาคารดังกล่าวเป็นที่พักพิงสำหรับคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้านจะมีความเหมาะสมทั้งสถานที่และการเดินทาง เบื้องต้นจะมอบสำนักงานเขตบางพลัดเจรจากับเจ้าของอาคารเพื่อเช่าในระยะ 1-3 ปี สำนักการโยธาเข้าปรับปรุงให้เหมาะสมสำหรับการพักนอน หลังจากนั้นอาจซื้อเป็นทรัพย์สินของ กทม. ซึ่งจะมีการหารือเรื่องของการช่วยเหลือคนเร่ร่อนไร้บ้านร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสภาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ในวันที่ 21 ต.ค.53นี้
สำหรับการเปิดเป็นที่พักพิงคนเร่ร่อนไร้บ้านนั้นมีแนวทาง 2 แนวทาง คือ แนวทางแรกจะจัดเป็นสวัสดิการ โดยให้สำนักพัฒนาสังคมเข้ามาดูแล ส่วนอีกแนวทางคือการจัดการเชิงพาณิชย์แบบเก็บเงินค่าเข้าพัก ซึ่งจัดเก็บเพียงวันละ 30 บาท เป็นค่าสถานที่และค่าสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า โดยสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ ทั้งนี้จากการคำนวณอาคารดังกล่าวสามารถรองรับผู้เข้าพักได้กว่า 400 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น